ตอนที่ 3 ปั่นป่วน_1
“เลิกเรียนตอนไหนก็โทรมาแล้วกัน”
ฉันนั่งทวนคำพูดของแฟรงก์ไปมาอยู่ในหัวหลายรอบหลังนั่งจมอยู่กับเจนนี่ในศูนย์อาหารช่วงพักกลางวัน ระหว่างที่ฉันกำลังลังเลใจว่าจะโทรหาแฟรงก์ตอนนี้เลยดีไหมเพราะว่าคลาสเรียนบ่ายถูกยกเลิกไปเนื่องจากอาจารย์ติดภารกิจอื่น แต่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจเสียงของเจนนี่ก็ดังขึ้นมา...
“นี่หมอนั่นมาอีกแล้ว”
ฉันเลิกคิ้วพลางมองไปทางที่เจนนี่ชี้ให้ดู แล้วก็ได้เห็นใบหน้าหล่อๆ แบบหวานๆ ของเช็กเดินหน้าตั้งมาทางนี้ ทว่ารอยช้ำที่มุมปากกลับทำให้ใบหน้าหล่อหวานแบบคุณชายอย่างเขาดูผิดหูผิดตาแทบจะกลายเป็นไอ้หน้าอ่อนริอ่านเป็นอันธพาลไปในบัดดล!
เชื่อเถอะว่ารอยด่างพร้อยบนใบหน้าที่เกิดจากความรุนแรงมันฉุดคนให้ดูตกต่ำได้ในพริบตา
“เมื่อวานเป็นยังไงบ้าง” เช็กทิ้งตัวลงนั่งทันทีที่มาถึงโต๊ะของพวกเรา เขาไม่คิดแม้จะเอ่ยทักทายฉันหรือเจนนี่เลยสักคำแต่กลับโพล่งคำถามที่มีเพียงเราสองคนเท่านั้นที่เข้าใจ เจนนี่ถึงกับเลิกคิ้วมองหน้าเช็กอย่างสงสัย
“เมื่อวานพวกนายไปทำอะไรกันมาเหรอ?”
คำถามพาซื่อของเจนนี่ทำเช็กถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ฉันลืมบอกไป หมอนี่มันดีแค่หน้าแต่เรื่องนิสัยใจคอน่ะ โคตรจะเสียเลย อยู่ด้วยมากๆ ประสาทจะกินเลยเชียวล่ะ ฉันเคยลองมาแล้ว... นับตั้งแต่รู้ว่าฉันเป็นคนขับรถชนไมค์ และรู้ว่าฉันกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือแก้แค้นของชิน เช็กก็เริ่มมาวนเวียนอยู่ข้างกายฉันไม่ห่าง ยังดีที่เขาไม่ทำให้เรื่องใหญ่โตและพานดึงคนรู้จักของฉันเข้ามาเกี่ยวด้วย ไม่อย่างนั้นฉันคงอึดอัดและคับข้องใจมากกว่านี้
เหตุใดเช็กถึงเข้ามาเอี่ยวงั้นเหรอ?
ฉันก็ไม่รู้ว่าหมอนั่นคิดยังไง แต่ฉันว่าคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับชินเท่านั้นหรอก ท่าทางเช็กเองก็เต็มใจและกระหายแก้แค้นอยู่แล้ว คงเป็นเพราะเขาเป็นน้องชายของ ‘ไอเฟล’ แฟนไมค์คนที่ถูกฉันขับรถชนและนอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ที่โรงพยาบาล
หมอนั่นคงแค้นแทนพี่สาวก็เลยตามมาช่วยฉันแก้แค้นแฟรงก์กับหวายซึ่งไม่ต่างจากชินเท่าไหร่นัก
ฉันเองก็ไม่เข้าใจ ความสัมพันธ์อันซับซ้อนของคนพวกนี้เท่าไหร่นักหรอก แต่ที่รู้แน่ๆ ก็คือฉันพลอย ติดร่างแหไปด้วยเนี่ยสิ
โคตรซวย
“เฮ้! ว่ายังไง หรือเราจะไปคุยกันที่อื่นดี ท่าทางเพื่อนเธอจะอยากรู้เรื่องของเรามากด้วย”
เช็กเอ่ยออกมาอย่างไม่แคร์เจนนี่เลยสักนิดแถมยังเสียมารยาทชวนฉันไปคุยกันสองคนอย่างไม่ไว้หน้าเจนนี่อีก เห็นไหม บอกแล้วว่านิสัยมันไม่ดีเอามากๆ
งี้แหละ ถึงคบกับคนเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างชินได้ไงล่ะ
อ้อ!! ถ้าไม่เลวอย่างนี้ก็คงสู้รบปรบมือกับแฟรงก์ไม่ได้ด้วยสินะ
แล้วคนขี้เกรงใจอย่างเจนนี่จะพูดอะไรได้นอกจากอ้าปากเหวอกับความตรงไปตรงมาและเอาแต่ใจของเช็ก
“นี่เช็ก ฉันว่านายเลิกทำแบบนี้ได้แล้วนะ” ฉันตะคอกใส่หมอนั่นเสียงเขียว จากนั้นก็เหลือบมองหน้าเจื่อนๆ ของเจนนี่ที่ถูกกันออกไปเหมือนเป็นคนอื่น ทั้งที่ความจริงแล้วเธอคือเพื่อนสนิทของฉัน แต่กลับไม่รู้อะไรเลย เจนนี่รู้เพียงแค่ว่าฉันเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางกับสิ่งที่ฉันกำลังเผชิญอยู่
จะไม่ให้ฉันหงุดหงิดใช่เช็กได้ยังไง ก็ในเมื่อเขาวางโตทำเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ เผลอๆ จะกลายเป็นเจ้าชีวิตของฉันอีกคน ซึ่งนั่นมันจะมากเกินไป แค่ชินเพียงคนเดียวฉันก็ขยาดและรู้สึกหดหู่ใจจะแย่
“อย่าพูดมากได้ไหม ลืมไปแล้วเหรอว่าเธอทำอะไรเอาไว้” เมื่อเห็นว่าฉันไม่ยอมอ่อนข้อให้หมอนั่นก็มักจะเอาความรู้สึกผิดของฉันเข้ามาข่มเหงจิตใจอยู่เรื่อย
ตุ๊ดเอ้ย!
ฉันกัดฟันกรอดอย่างจนใจที่จะโต้เถียงก่อนจะผุดลุกขึ้นตามบัญชาของไอ้คนที่อยากจะเป็นเจ้าชีวิตของฉันอีกคน ก่อนชำเลืองมองเจนนี่ด้วยแววตาที่อ่อนลง โดยไม่ลืมส่งยิ้มเบาๆ ให้ยัยนั่นเพื่อไม่ให้กังวลหรือคิดอะไรมาก “ฉันขอตัวไปคุยธุระสักครู่นะเจนนี่”
“เอ่อ... อืมๆ” เจนนี่ชักสีหน้าไม่สู้ดีนักหลังจากสบสายตาดุๆ ของเช็ก ยัยนั่นแทบจะโบกมือไล่ฉันกับหมอนั่นให้รีบไปไวๆ ด้วยซ้ำ
เมื่อตัดตัวรำคาญใจอย่างเจนนี่ออกไปพ้นแล้ว เช็กก็เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากที่เราสองคนเดินมาหยุดอยู่หน้าบันไดทางเข้าด้านข้างของศูนย์อาหาร เยื้องกับบ่อปลาขนาดย่อม ซึ่งคนไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไหร่เพราะมีป้ายห้าม ‘รบกวนปลา’ แขวนอยู่
“หมอนั่นมันว่าไง”
“ก็ไม่รู้สิ สำเร็จมั้ง” ฉันตอบอย่างไม่ค่อยแน่ใจและไม่เต็มใจสักเท่าไหร่ เมื่อนึกถึงฝีมือการแสดงละครระดับเหรียญทองของเช็ก เพื่อหลอกให้แฟรงก์ตายใจและเข้าใจผิดว่าฉันถูกเช็กคอยตามรังควาน เพื่อที่หมอนั่นจะได้เห็นใจและคอยตามพิทักษ์ฉันจากผู้ชายป่าเถื่อนอย่างเช็ก มันงี่เง่าเนอะว่าไหม
แต่นั่นมันทำให้ฉันของขึ้นและอกสั่นขวัญแขวนเลยทีเดียวตอนที่เขาเงื้อมือขึ้นจะตบฉันน่ะ “ถามจริงเถอะ นายคิดจะตบฉันจริงๆ หรือเปล่า?” ฉันยังคาใจไม่หาย
หมอนั่นย่นหัวคิ้วก่อนจะส่ายหน้าไปมา “ฉันไม่คิดจะตบเธอเต็มๆ มือหรอกน่า”
“แกจะตบฉันจริงๆ” โอ้พระเจ้า ใครก็ได้บอกฉันทีว่าหมอนี่มันไม่ได้หน้าตัวเมีย ยังมีหน้าพูดอีกว่า ไม่คิดจะตบเต็มๆ มือ
ไอ้เลว
“เลิกโวยวายได้ไหมฉันยังไม่ได้ตบเธอสักหน่อย”
“ฮืมถ้าแฟรงก์ไม่คว้ามือนายเอาไว้ก่อนนายก็คงจะตบฉันไปแล้วล่ะใช่ไหม”
“หึ...” เช็กไม่ตอบแต่แสร้งทำเป็นยักไหล่เสมองอย่างอื่นไปเรื่อยอย่างน่าโมโห ฉันล่ะอยากตบหน้าขาวๆ ของไอ้บ้านี่สักฉาดแล้วถ่มน้ำลายรดหัวมันจริงๆ ให้ตายเหอะ
