EP05 ลูกเขยคนโปรด
รถสปอร์ตคันหรูขับเข้่ามาจอดภายในรั้วบ้านขนาดใหญ่พื้นที่หลายไร่
หญิงสาวปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวและถือกระเป๋าสะพายเดินลงจากรถโดยที่ไม่รอพี่ชายที่เดินตามมาเลย
"สวัสดีค่ะม๊า คิดถึงจัง" ฟอด!! เธอวิ่งเข้ามากอดมารดาจากทางด้านหลังและหอมแก้มด้วยความคิดถึงที่
"เป็นไงเราติดแฟนจนไม่ยอมมาเจอหน้าป๊าม๊าเลย” ทรงศักดิ์ผู้เป็นประมุขของบ้านก็เดินเข้ามาเมื่อสาวใช้บอกว่าลูกสาวคนเล็กของบ้านมาถึงแล้ว
"ป๊าก็พูดเกินไป หนูไม่ได้ติดพี่คีย์สักหน่อย" ใบหน้าสวยยู่ลงเมื่อบิดาพูดถูก
"หึๆ" ทรงศักดิ์มองตามหลังลูกสาวคนเล็กพร้อมส่ายหน้ากับความเป็นเด็กของเธอด้วยความเอ็นดู
"ไปไงมาไงอ่ะเราทำไมมากับน้องได้" ชายชราเดินเข้ามาหาลูกชายที่ปกติไม่คิดจะอยากกลับบ้านเหมือนผู้เป็นน้องสาว
"บังเอิญเจอกันที่ร้านอาหารน่ะครับก็เลยมาด้วยกัน" ชายหนุ่มได้นิสัยจากผู้เป็นพ่อมาเกือบทุกอย่างต่างจากน้องสาวที่ขี้อ้อน
"บริษัทเป็นไงบ้างป๊าไม่ได้แวะไปดู" ตั้งแต่วางมือให้ลูกชายคนเดียวชายชราก็ไม่เคยไปที่บริษัทอีกเลยสักครั้ง
"ป๊าไม่ต้องห่วงครับลูกชายป๊าเก่งอยู่แล้ว" ชายหนุ่มพูดยิ้มแย้มกับบิดา
"หึ เก่งแต่เอาเลขาหน้าห้องน่ะหรือ" ชายชรากล่าวออกมาราวกับรู้ทันความเคลื่อนไหวของเขา
"เปล่านะครับ ผมไม่ได้เอาที่บริษัทแต่ไปเอาที่โรงแรมแทน" เขาพูดออกไปราวกับเป็นเรื่องขบขัน
"ไอ้ลูกคนนี้นิ" ชายชราหมดคำจะพูดกับนิสัยเพลย์บอยของลูกชายคนโต
"สายของป๊ารายงานอีกแล้วใช่มั้ยครับ งั้นถ้าผมจะเอาสายของป๊า ป๊าคงไม่ว่าอะไรผมนะครับ" ยิ่งพูดยิ่งเหมือนไม่จบก่อนที่ชายชราจะเป็นฝ่ายแพ้ไป
บรึ้น บรึ้น!! รถสปอร์ตคันหรูขับเข้ามาภายในรั้วบ้านอีกคันคงไม่ต้องบอกหรอกว่าเป็นใคร
"นั่นไงครับลูกเขยคนโปรดคนดีของป๊ามาแล้ว" ชายหนุ่มพูดอย่างมองบนเพราะทุกคนในบ้านชอบน้องเขยคนนี้ของเขามากขนาดไหน
จริงๆ เขาก็ไม่ได้ไม่ชอบแหละแต่ไม่ชอบแค่ภาคีควบคุมน้องสาวของเขาจนเกินไป ข้อดีก็มีเยอะอยู่ในสิ่งที่เขาชอบอย่างเช่นมั่นคงกับน้องสาวของเขาโดยที่ไม่มีเล็กไม่มีน้อยและเป็นผู้ชายที่เอาการเอางานเเละเขาก็เชื่อว่าน้องสาวของเขาจะไม่ลำบากในอนาคตแน่นอนหากแต่งงานกันไป
"สวัสดีครับคุณอา" เมื่อลงจากรถเขาก็ไม่รีรอกล่าวสวัสดีว่าที่พ่อตาของตัวเองพร้อมของฝากเล็กๆน้อยๆติดมือมาด้วยเพื่อไม่เป็นการเสียมารยาท
"ขอบใจมากลูกไม่ต้องเสียเวลาเอามาให้อาก็ได้ แล้วอีกอย่างเรียกป๊าได้แล้วบอกกี่ทีให้เรียกป๊าๆก็ไม่เรียก" ชายชราแกล้งบ่นไปงั้นแหละ
"ครับป๊า ผมยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่" ชายหนุ่มพูดอย่างนอบน้อมกับผู้ใหญ่
"หมั้นกันมาหลายปีแล้วเรียนจบเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วหัดเรียกไว้เถอะลูก"
"ครับ"
"วันนี้ม๊าทำหลายอย่างเลยลูกทานได้ใช่มั้ยตาคีย์" ทิพย์นภาเอ่ยถามเพราะอาหารวันนี้อาจจะไม่ค่อยถูกปากลูกเขยคนโปรดก็เป็นได้
"ทานได้ครับ" เดิมที่เขาก็มีเชื้อสายอังกฤษอยู่แล้วตั้งแต่รุ่นปู่จวบจนถึงบิดาซึ่งตัวเขากลับมาทำธุรกิจที่ไทยมีเพียงมารดาและบิดาอาศัยอยู่อังกฤษเพื่อดูแลธุรกิจที่นั่น
ส่วนคู่หมั้นสาวของเขาเชื้อสายทางจีนและมีเชื้อสาวชาวอุยกูร์มากกว่าตั้งแต่ช่วงบรรพบุรุษของอากงอาม่าซึ่งเธอก็เล่าให้ฟัง
"ทิพวรรณสบายดีนะลูกตั้งแต่ย้ายไปอยู่กับสามีม๊าก็ไม่ได้คุยกันเลย" เพื่อนรักของเธอแต่งงานกับสามีชาวอังกฤษและย้ายไปอยู่ด้วยกันจนมีลูกด้วยกันอย่างภาคี
"สบายดีครับแด๊ดจะกลับมาดูธุรกิจที่นี่สักอาทิตย์ก่อนกลับอังกฤษน่ะครับคุณแม่ท่านเลยต้องบินกลับมาด้วย"
"ดีเลยม๊าจะได้ชวนคุยฤกษ์แต่งงานกันจริงๆจังๆสีกทีเพราะอีกไม่กี่เดือนพวกลูกก็จะจบกันแล้ว"
"ม๊าอยากจะอุ้มหลานจะแย่แล้ว ตาภัทรก็ไม่หาลูกสะใภ้มาให้แม่ซักทีเห็นมั้ยน้องใกล้จะมีครอบครัวแล้ว" หญิงวัยห้าสิบกว่าปีหันมาตำหนิลูกชายคนโต
"โธ่ม๊า!! เป็นโสดน่ะมันดีจะตาย จะได้ไม่ต้องคอยห้ามนู้นห้ามนี่คอยหึงหวงกันมันอึดอัด" ประโยคนี้เขาตั้งใจเหน็บแนมว่าที่น้องเขย
หญิงสาวที่เห็นท่าไม่ดีจังชวนคุยเปลี่ยนเรื่อง ก็ว่าพี่ชายเธอทำไมถึงถามเรื่องเธอกับแฟนหนุ่ม
"ม๊าคะทานนี่ดูสิคะอร่อยมาก" เธอตักปูอลาสก้าผัดผงกะหรี่ให้มารดาลองทานเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะระหว่างพี่ชายกับแฟนหนุ่ม
"มาๆทุกคนทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวอาหารจะเย็นก่อน" ทรงศักดิ์เอ่ยขึ้นเพื่อไม่ให้บรรยากาศคลุกกรุ่น
"กลับก่อนนะคะม๊าแล้วเจ้าขาจะหาเวลามาเยี่ยมบ่อยๆ" หญิงสาวเดินเข้าไปกอดหอมมารดาอย่างรักใคร่ก่อนจะกลับคอนโด
"สวัสดีครับป๊า สวัสดีม๊า" เจ้าขุนเอ่ยลาเพราะพรุ่งนี้เขามีประชุมและอยากจะกลับคอนโดมากกว่า
"ผมลานะครับ" ชายหนุ่มเอ่ยลาผู้ใหญ่อย่างไม่ให้เสียมารยาทเพราะเขาก็มีงานตอนเช้าเช่นกัน
"ไปทานชาบูมาสนุกมั้ยคะ" น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยถามอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
"ก็..สนุกนะคะ" เธอเอ่ยไม่เต็มเสียงนักเพราะจู่ๆ น้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของแฟนหนุ่มทำให้เธอขนลุกขึ้นมา
"เจ้าขามีอะไรจะบอกพี่มั้ยคะ" อ่า..ประโยคแบบนี้เขาคงรู้อะไรมาสินะ
"กะก็....เจ้าขาแค่บังเอิญเจอเมฆาเองนะคะและอีกอย่างเจ้าขาก็ได้ทำงานกลุ่มกับเมฆาด้วยเราก็แค่คุยเรื่องงานกันเฉยๆค่ะ" เธอสารภาพออกมาทั้งยังลังเลกลัวว่าแฟนหนุ่มจะหึงหวงเธอจนวีนแตก
"ถ้าลูกน้องพี่ไม่รายงานเจ้าขาจะบอกพี่มั้ยคะ" มือหนากำพวงมาลัยแน่นอย่างสะกดอารมณ์ไม่ให้แสดงด้านที่ไม่ดีออกมาให้เธอได้เห็น
แค่คิดว่าใบหน้าสวยคลี่ยิ้มให้มันเขาก็แทบไม่อยากให้เธอออกมาเจอใครๆ ไม่อยากให้รอยยิ้มนั้นคลี่ยิ้มให้คนอื่นทั้งที่มันควรจะเป็นของเขาเพียงคนเดียว!!
เห็นที่ว่ามันคงไม่มีโอกาสได้ออกมาคุยกับเธอซะแล้วหล่ะ