EP.2 POISON LOVE พิษรัก ตอน คืนวิวาห์
EP.2 POISON LOVE พิษรัก
คืนวิวาห์
งานแต่ง นับหนึ่ง & รันเวย์ -
งานแต่งถูกจัดขึ้นไวกว่ากำหนดการเดิมมาก ๆ เพราะรันเวย์อยากรีบแต่งงานกับเธอเร็ว ๆ แม้ว่าแม่ของเขาอยากจะให้ลูกชายรอฤกษ์แต่งงานจากอาจารย์ชื่อดังก่อน แต่รันเวย์ก็ไม่สนใจ เขาอยากแต่งกับเธอ อยากจดทะเบียนสมรสกับเธอให้เร็วที่สุด
"ในที่สุดหนึ่งก็ได้ใช้นามสกุลเดียวกับรันแล้วนะ" รันเวย์ลูบหัวของเจ้าสาวแสนสวยของเขาอย่างทะนุถนอม หลังจากที่ทั้งคู่เข้าประตูวิวาห์และจดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วจริง ๆ
"ขอบคุณนะรัน ที่รักและจริงจังกับหนึ่งมากจนทำให้เราสองคนมีวันนี้ได้" นับหนึ่งโผเข้ากอดเจ้าบ่าวของเธอด้วยความรักที่ล้นเปี่ยมในหัวใจ
ทั้งสองคนหันหน้าโชว์ใบทะเบียนสมรสให้กับตากล้องที่ตามเก็บภาพบรรยากาศต่าง ๆ ภายในงานแต่งที่แสนจะอบอุ่นไปด้วยความรัก
ท่ามกลางรอยยิ้มของครอบครัวและเพื่อนฝูงที่มาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างมากมาย เนื่องจากทั้งคู่ก็ต่างมีหน้าที่การงานที่ดี และเป็นเพื่อนเป็นคนที่ดีของคนรอบข้าง จึงมีคนรักทั้งสองเยอะพอสมควรเลย
"คืนนี้หนึ่งสวยที่สุดเลยนะ" รันเวย์กระซิบเข้าที่ข้าง ๆ ใบหูของเจ้าสาวอย่างแผ่วเบา
"รันก็หล่อที่สุดเลยเหมือนกันแหละ" นับหนึ่งลูบใบหน้าของเขาและหยิกเข้าที่แก้มซ้ายอย่างเบามือ หลังจากที่พิธีการต่าง ๆ เสร็จลงไปอย่างเรียบง่าย
ด้วยความที่นับหนึ่งและรันเวย์คบกันมานาน7 ปีเต็ม พวกเขาทั้งสองจึงเป็นเหมือนทั้งแฟนและเพื่อนกันไปในตัว
เดิมทีเธอเป็นเด็กสาวในบ้านเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง โชคดีมีแม่บุญธรรมใจดีถูกชะตากับเธอจึงขอรับไปเลี้ยงดูจนโตเป็นสาวและส่งเสียจนเธอเรียนจบมัธยมปลาย
แต่หลังจากนั้นไม่นานแม่บุญธรรมของเธอก็จากไปด้วยโรคชรา เนื่องจากตอนที่รับเธอเข้ามาเลี้ยงท่านก็อายุมาก นับหนึ่งกตัญญูดูแลตอบแทนบุญคุณของท่านจนถึงวินาทีสุดท้าย ซึ่งท่านก็ได้จากไปได้เกือบ 4-5 ปีแล้ว แต่ท่านก็ยังคงทิ้งกองทุนและเงินก้อนสุดท้ายเอาไว้ให้เธอได้เรียนหนังสือจนจบปริญญาตรี
บ่าวสาวค่อย ๆ เดินตามโต๊ะเพื่อทักทายแขกคนสำคัญ แขกผู้ใหญ่ฝั่งเจ้าบ่าวที่เคารพนับถือ พวกเขาเดินกล่าวขอบคุณแขกผู้มาร่วมยินดีกับงานมงคลในคืนนี้ทุกโต๊ะ จนเดินมาถึงโต๊ะสุดท้าย
"ดีใจด้วยนะมึง" เฟรนด์ชิพเดินเข้ามากอดรันเวย์อย่างกันเอง
"อันนี้หน้าตาดีใจที่สุดแล้วใช่ปะ?" รันเวย์ถามแหย่ ๆ เพื่อนสนิทวัยเด็กของตัวเองไป
"เออ!" เขาตอบเพื่อนตัวเองไปเพียงสั้น ๆ
"ดีใจด้วยครับหนึ่ง" เฟรนด์ชิพไม่ลืมที่จะเอ่ยทักทายกับเจ้าสาวของเพื่อนตามมารยาท
"ขอบคุณนะคะเฟรนด์ชิพ" เธอพยักหน้ารับทันที รันเวย์ประคองตัวของภรรยาให้นั่งพักลงที่เก้าอี้อย่างเป็นห่วง เพราะเธอเดินบนส้นสูงมาตลอดทั้งงาน
เฟรนด์ชิพเป็นเพื่อนสนิทของรันเวย์สมัยเรียนมัธยม เพราะเรียนห้องเดียวกันมาโดยตลอด แต่เขาเริ่มห่าง ๆ กันไปช่วงเรียนมหาวิทยาลัยอีกที
เพราะเรียนกันคนละที่และคนละคณะ อีกอย่างตั้งแต่ที่รันเวย์มีแฟนเขาก็ติดแฟนหนักมากจนแทบไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทมหาลัยเลย เพราะแค่มีนับหนึ่งก็เพียงพอแล้วจริง ๆ
"เออ..ไอ้เฟรนด์มึงเองรีบ ๆ ตามมานะเว้ย" เจ้าบ่าวยกแก้วเหล้าชนกับเฟรนด์ชิพที่ยกขึ้นมารออยู่สักพักแล้ว
เคร้ง~ หลังจากชนแก้วกับเฟรนด์ชิพได้ไม่นาน
"รีบมีลูกนะพี่" วินด์เซอร์เดินเข้ามาทักพร้อมกับอุ้มลูกสาวคนสวยเข้ามาอวดโฉม โดยมีภรรยาสาวสวยไฮโซคนหนึ่งยืนอยู่เคียงข้างกายไม่หาย
"น่ารักจังเลยนะคะ ตาแป๋วเชียว" นับหนึ่งตกหลุมรักสาวน้อยวิรินลูกสาวไอรีนกับวินด์เซอร์ทันทีที่ได้เจอหน้า
"สวัสดีคุณอาก่อนสิลูก" สาวไฮโซคนนั้นเอ่ยทักทายกับนับหนึ่งอย่างเป็นกันเอง และสอนให้ลูกสาวของเธอไหว้สวัสดีไปด้วย
"ยินดีด้วยนะครับ" วินด์เซอร์เอ่ยขึ้นก่อนจะโผเข้ากอดฝั่งเจ้าบ่าวและยิ้ม ๆ ให้กับเจ้าสาวด้วยเช่นกัน
"ขอให้บ่าวสาวมีความสุขมาก ๆ และก็มีลูกมาวิ่งเล่นมาเป็นเพื่อนกันนะคะ" ไฮโซสาวหน้าสวยพูดขึ้นและมองทั้งบ่าวสาวด้วยความจริงใจ
พวกเขายืนพูดคุยกันอยู่พักใหญ่ ๆ อย่างสนุกสนานตามประสาคนวัยเดียวกัน และไลฟ์สไตล์ที่คล้าย ๆ กัน
"วินด์เดี๋ยวไอร์อุ้มวิรินเอง วินด์ไปดื่มกับเพื่อนกับพี่เถอะ" ไอรีนอุ้มลูกสาวตัวน้อยของเธอจากอกของพ่อ เพื่อให้เขาได้สังสรรค์ต่ออย่างเต็มที่
"เห็นลูกไอ้วินด์แล้ว อยากรีบมีลูกจังเลยเนอะ...ลูกของเราต้องน่ารักเหมือนแม่แน่ ๆ เลย" รันเวย์เข้ามาโอบเจ้าสาวและพากันหยอกล้อเล่นกับลูกสาวของวินด์เซอร์ไปพลาง ๆ
"รัน" นับหนึ่งยิ้มอย่างเขิน ๆ ท่ามกลางเพื่อน ๆ ของรันเวย์และเพื่อนของน้องชายของเขา ทุกคนค่อนข้างสนิทกันหมด เนื่องจากเรียนโรงเรียนเดียวกันมาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ และพ่อแม่ก็รู้จักกันดี อีกอย่างพวกเขาเองก็ไม่ได้อายุห่างกันมากนัก อย่างวินด์กับรันเวย์ก็แก่กว่ากันแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้นเอง ส่วนคนอื่น ๆ ก็ไม่เกิน 1 ปี จึงถือว่าเป็นได้ทั้งพี่ทั้งเพื่อนกันไปในตัว
"แล้วนี่ไอ้ไทม์หายไปไหนเนี่ย?" รันเวย์เอ่ยถามขึ้น เพราะโต๊ะของเพื่อนเป็นโต๊ะสุดท้ายที่เขาเดินมาถ่ายรูปและยืนดื่มสังสรรค์ด้วย
ซึ่งยืนมาพักใหญ่ ๆ แล้วก็ยังไม่เห็นไทม์โซนกับคลินต์เลย
"น่าจะออกไปสูบบุหรี่กับไอ้คลินต์มั้ง" วินด์เซอร์ตอบแทนเพื่อนของเขาทันที
รันเวย์กับนับหนึ่งนั่งลงที่โต๊ะนี้เพื่อดื่มฉลองกับเพื่อนสนิทและญาติ ๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมา ถือแก้วเหล้าเดินเข้ามาชน มาอวยพรอวยชัยกันตลอดทั้งคืนจนทางเจ้าบ่าวเองก็เริ่มจะกรึ่ม ๆ ตาเยิ้ม ๆ เข้าแล้ว
"เออไอ้รัน ไอ้ฟาเรนมันฝากซองมาให้มึงด้วยนะกูเกือบลืม" เฟรนด์ชิพหยิบซองบัตรเชิญชื่อของฟาเรนส่งคืนให้กับเจ้าของงานทันทีหลังจากยกดื่มไปหลายต่อหลายแก้ว
"พอดีมันลางานไปเที่ยวยุโรปกับเมียและลูกอยู่ ก็เลยกลับมาไม่ทันงานแต่งมึง" เฟรนด์ชิพอธิบายธุระของน้องชายให้เพื่อนฟัง เพราะยังไงก็งานของคนสนิทกัน
"เออ ๆ ไม่เป็นไรมึง กูก็ผิดเองด้วยแหละที่เลื่อนงานแต่งให้ใกล้เข้ามาแบบกระชั้นชิด พอดีฤกษ์แต่งอันเก่ามันไม่ค่อยดีน่ะ ขอฤกษ์ใหม่ก็อีกนาน กูก็เลยจัดเอาตามฤกษ์สะดวกเลย รอไม่ไหวแล้วอยากแต่งเมีย" รันเวย์ตอบไปตามที่เขาได้ยินมาจากแม่ของเขาอีกที แต่ตัวรันเองเป็นคนขอเลื่อนงานแต่งให้ใกล้เข้ามาแบบกะทันหันจนหลาย ๆ คนแทบไม่ได้เตรียมตัวเลย แม้แต่เจ้าสาวเองก็เช่นกัน
เมื่อเหล้าเข้าปากทุกคนก็เริ่มที่จะคุยกันสนุกสนาน และเฮฮาปาร์ตี้ไปเรื่อย ๆ และนั่งไม่นานทั้งคลินต์และไทม์โซนก็เดินกลับเข้ามาร่วมวงด้วยพอดี
ทั้งคลินต์และไทม์โซนมีท่าทีแปลก ๆ และที่ลำคอของไทม์มีรอยเล็บข่วน ๆ อยู่เต็มไปหมด คลินต์ก็มีรอยเล็บขูดยาว ๆ ไปตามท่อนแขนด้วยเช่นกัน
"พวกมึงไปทำอะไรกันมาวะ?" รันเวย์หันไปถามทั้งคู่ทันทีอย่างตกใจเล็กน้อย เพราะสภาพเหมือนไปฟัดกับหมาบ้ามาก็ไม่ต่าง
ไทม์หันไปมองทางคลินต์นิ่ง ๆ อย่างคิดคำตอบไม่ทัน คลินต์จึงรีบตอบแทรกขึ้นมาในทันควัน
"พอดีมีคนบ้าหลุดเข้ามาในโรงแรมน่ะ มันเจอเราพอดี"
"เราก็เลยเข้าไปลากตัวมันออกไป ก็เลยได้แผลมานิดหน่อย" คลินต์เอ่ยอธิบายอย่างยาวเหยียดก่อนจะคว้าเหล้าเพียว ๆ จากมือของวินด์เซอร์กระดกดื่มลงคอไปทันที ด้วยท่าทีเครียด ๆ เขารินเหล้าเทเติมจนแทบล้นแก้ว ก่อนจะส่งต่อให้กับไทม์โซนทันทีอย่างรู้ใจ ซึ่งไทม์เองก็กระดกดื่มทันทีเช่นกัน
"ค่อย ๆ ดื่มกันก็ได้มั้ง" วินด์เซอร์เอ่ยทักขึ้นเมื่อเริ่มสังเกตเห็นท่าทีแปลก ๆ ของเพื่อนทั้งสองคน ทั้งคลินต์และไทม์โซนหันมองหน้ากันนิ่ง ๆ
"เออ รันขอคุยอะไรด้วยหน่อย" ไทม์โซนที่เงียบอยู่นานพูดขึ้นกับพี่ชายของเขาที่ยืนโอบตัวภรรยาเอาไว้แนบแน่น
"มีอะไรเหรอวะ?" เจ้าบ่าวเอ่ยถามกลับไปด้วยแววตาหยาดเยิ้ม เขาเองก็เริ่มมีอาการกรึ่ม ๆ แล้วหลังจากดื่มไปหลายต่อหลายแก้ว
"เรื่องงาน" ไทม์ตอบไปอย่างไม่ได้คิดอะไร
"มึงบ้าปะเนี่ย จะคุยเรื่องงานในวันวิวาห์?" รันเวย์ส่ายหน้าและหัวเราะตอบไปเล็กน้อย
"เรื่องงานแต่งน่ะพี่รัน ไอ้ไทม์มันอยากขอคุยเรื่องงานแต่งนิดหน่อย" คลินต์ช่วยพูดเสริมให้
"ขอยืมตัวเจ้าบ่าวสักครู่นะ" ไทม์โซนเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของทั้งสองคนนิ่ง ๆ
"ได้สิ ๆ รันไปคุยกับน้องก่อนไป" นับหนึ่งหันไปมองทางไทม์โซนเล็กน้อยและเธอก็ยิ้มให้เขาอย่างคุ้นเคยกันดี
"โอเค ๆ รอรันแป๊บนึงนะ" รันเวย์ลูบหัวของเธอเบา ๆ ก่อนจะเดินออกไปคุยกันสองต่อสองกับไทม์โซนทันที
ทั้งรันเวย์และไทม์โซนเดินออกไปคุยกันอยู่พักใหญ่ ๆ ก่อนที่รันเวย์จะเดินกลับด้วยท่าทีเร่งรีบแปลก ๆ
"หนึ่งง่วงไหม?" เขากระซิบถามเจ้าสาวของตัวเองอย่างอ่อนโยน
"เราขึ้นห้องหอกันเลยเถอะนะ" รันเวย์รีบประคองตัวของเธอลุกขึ้นจากโต๊ะและเตรียมพาจะเดินกลับเพื่อไปยังห้องหอของพวกเขาทั้งสองคน
"รันไม่อยู่ดื่มต่อกับเพื่อน ๆ ก่อนเหรอ?" นับหนึ่งถามกลับไปด้วยความสงสัยเพราะรันเวย์ยังคงดูสนุกกับเพื่อน ๆ น้อง ๆ อยู่เลย
"รันอยากใช้เวลาส่วนตัวกับเจ้าสาวมากกว่า"
-ห้องหอ-
(ครืดดดดด ครืดดดดด) เสียงโทรศัพท์ของรันเวย์สั่นไม่ยอมหยุด เขารีบคว้าโทรศัพท์มาปิดเครื่องทันที
"มีอะไรรึเปล่ารัน?"