Old men ลูกน้องเก่า

85.0K · จบแล้ว
NBSTER
65
บท
225
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

สายลมพัดพายอดต้นมะพร้าวลู่ไปตามกระแสแรงลมแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์กำลังจะลาลับกลับไปยังจุดเดิมซึ่งมีแค่เดินหน้าไม่ใช่ถอยหลัง แสงระยิบระยับของมันสะท้อนกับท้องทะเลให้ดูสวยงามน่าค้นหาแต่รู้ไหมว่าภายใต้แว่นสีดำที่ฉันสวมอยู่มันเห็นต่างกันกับทุกคนมากเพราะฉันโฟกัสแค่เกลียวคลื่นที่เคลื่อนไหวในท้องทะเล เกลียวคลื่นที่ไม่มีใครคุมทิศทางการเคลื่อนที่ได้เลยสักคน เกลียวคลื่นเหมือนใครคนหนึ่ง เกลียวคลื่นที่ไม่เคยสงบ เกลียวคลื่นที่เคลื่อนตีมาแล้วจางหายไปและเกลียวคลื่นที่ทำให้ฉันเจ็บ “อีมะ...” ฉันรีบเช็ดน้ำตาออกและเลือกก้มมองเม็ดทรายอีกมือหนึ่งก็บีบบี้กระป๋องเบียร์ให้มันบิดเบี้ยวผิดรูปทรงจากเดิมสุดท้ายคนที่พึ่งเดินเข้ามาก็ถอนหายใจหนักหน่วงก่อนนั่งลงข้างๆ “บรรยากาศได้เลยสิมึง” “เจ็บว่ะ” แม่งโคตรเจ็บเลยต่างหาก “ไม่อยากเจอหน้าแต่เสือกมารับน้องด้วยกันอีกอะไรจะซวยขนาดนี้” “แล้วนี่มาหลบแดกเบียร์ทั้งๆ ที่ตีนมึงเลือดโชกขนาดนี้ บ้าไปแล้วไงอีเหมย” “กู... เจ็บจริงๆ นะ” “เจ็บก็ต้องทนเพราะมึงไม่ใช่คนที่เค้าเลือก” อืมอันนี้เจ็บกว่า...

นิยายรักโรแมนติกนางเอกเก่งรักหวานๆดราม่าครอบครัวใช้ความรุนแรงโตมาด้วยแก้แค้นโรงแรม/มหาลัยนักศึกษา18+

CHAPTER 1

กานต์ กันต์ดนัย เพชรมณีธารินทร์: TALK

บ้านหรือนรกไอ้สัส (5)

08.15 A.M

การก่านก้านก๊านก๋าน: ใครอยู่บ้าน

การก่านก้านก๊านก๋าน: ตอบ

การก่านก้านก๊านก๋าน: ตอบหน่อยไอ้สัส

(Read 4)

การก่านก้านก๊านก๋าน: อ่ะอ่านกันหมดไม่ตอบกู

การก่านก้านก๊านก๋าน: ตอบโว้ย

การก่านก้านก๊านก๋าน: @เกรย์แล้วไง

เกรย์แล้วไง: อยู่มอแล้วไอ้ห่า

การก่านก้านก๊านก๋าน: ไสหัวมึงไปเลย

เกรย์แล้วไง: ไอ้เวร

ONE ONE: กูอยู่ ไอ้พี่ข้ามก็อยู่ มึงมีไร

การก่านก้านก๊านก๋าน: ใครอีกบอกมา

FFฟ้า: จะเอาอะไรไอ้สัสก็มีอยู่แค่ 5 คนรวมมึงเนี่ย

Dew_P: ใช้อะไรพวกกูอีก

การก่านก้านก๊านก๋าน: ไอ้พี่ดิวเอา For get me not ออกมาตั้งรับแสงแดดยามเช้าให้หน่อยดิ

ONE ONE: เดี๋ยวกูเอาออกให้เอง

การก่านก้านก๊านก๋าน: อย่าแม้แต่จะแตะต้องให้ไอ้พี่ดิวทำ

การก่านก้านก๊านก๋าน: พี่มึงมือหนักเดี๋ยวดอกไม้กูซ้ำตายห่าพอดี

การก่านก้านก๊านก๋าน: ไอ้พี่ดิวมึงได้ยินมั้ย!

การก่านก้านก๊านก๋าน: ให้มึงทำนะ

การก่านก้านก๊านก๋าน: เลี้ยงกาแฟหนึ่งแก้ว

Dew_P: เออ

ONE ONE: Sent a photo

การก่านก้านก๊านก๋าน: สัสๆ อย่าทำกับลูกกูแบบนั้นนะ

การก่านก้านก๊านก๋าน: ไอ้วันคนเหี้ย

ONE ONE: ควย บายจ่ะ

สัส สัสจริงๆ

ผมขมวดคิ้วก่อนวางโทรศัพท์ลงด้วยความหงุดหงิดใจสีหน้าและท่าทางในตอนนี้หนักหน่วงกว่าใครหลายคนหลายเท่าตัว ความกวนตีนของพี่พวกนั้นมันทำให้น่าหงุดหงิดใจจริงๆ นั้นแหละยิ่งถ้าเอาของรักของหวงของผมไปก็ยิ่งไปกันใหญ่ไม่ใช่ไม่ชอบทว่ามันมีนิดหนึ่งความรู้สึกไม่ค่อยอยากให้ใครจับ

วันนี้ผมรีบออกจากบ้านจนลืมเอาดอกไม้ออกปรับแสงแดดจากระเบียงบ้านจึงสั่งผ่านไลน์กลุ่มแทนแล้วนึกตามว่าบ้านที่มีผู้ชายเช่าทั้งห้าคนใครมันจะเป็นฝ่ายทำให้ผมถ้าไม่ใช่ไอ้พี่ดิว พี่ดิวมันอ่อนโยนมากสุดและก็เคยพาดอกไม้ของผมออกมารับแสงแดดหลายครั้งจึงค่อนข้างวางใจได้ ฉะนั้นจุดมุ่งหมายที่ถามจี้ในไลน์ก็เพื่อจี้ให้ไอ้พี่ดิวมาตอบ

ไอ้พี่ดิวเสียอย่างเดียวอ่ะไม่ชอบตอบไลน์ถึงต้องจี้รัวๆ

แล้วก็สำเร็จแต่ก็ยังไม่สบอารมณ์กับไอ้พี่วันอีก

วันนี้มันวันซวยอะไรนักหนาวะ

“ทำหน้าหิวตีนอะไรของมึงไอ้สัส” ‘ไอ้กุน’ เดินมาพร้อมกับจานข้าวในมือมันนั่งลงตรงข้ามผมในแคนทีนของคณะ ตรงหน้าไอ้กุนคือจานข้าวส่วนตรงหน้าผมมีแค่กาแฟแก้วเดียวนอกนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากโทรศัพท์เครื่องเดียว “เอาเรื่องตั้งแต่เช้าอย่าบอกนะว่าเรื่องต้นไม้ดอกไม้มึง”

“เปล่า”

“หึ... ทุกครั้งมึงทำหน้าเหี้ยๆ แบบนี้ไม่เรื่องไอ้ดอกไม้มึงก็เรื่องฟอร์เก็ต”

“…” ฉลาดจังวะ ฉลาดสัสๆ

“เอาจริงนะย้ายคอนโดไปอยู่อย่างเดิมมั้ยว่ะ”

“ไม่”

“งั้นก็ตามใจมึงเลยไอ้สัส” ประโยคปฏิเสธออกมาจากปากผมไอ้ห่ากุนก็ซัดประโยคนี้กลับมาอย่างรวดเร็วอีกทั้งยังส่ายศีรษะไปมาแล้วยัดข้าวใส่ปากเช่นเดิม เกือบสองเดือนแล้วที่ย้ายออกจากคอนโดมาแชร์เช่าบ้านหลังใหญ่อยู่กับอีกห้าคนรวมผมเข้าไปด้วย มันไม่ได้มีปัญหาอะไรมากขนาดนั้นแค่มีการกวนตีนตามประสาผู้ชายเกิดขึ้นก็เท่านั้นเองส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่มีหรอก “แล้ววันนี้เรียนเต็มแถมต้องคุมน้องใครดูฟอร์เก็ต”

“หมายถึงดอกไม้หรือแมว?”

“ควาย ยังมาชื่อเหมือนกันอีก”

“อย่ามาว่าลูกๆ กู”

เอางี้นะผมจะอธิบายให้ฟัง ดอกไม้ต้นที่ผมปลูกและเลี้ยงดั่งเช่นลูกคือดอก For get me not ซึ่งเป็นพืชส่วนอีกอย่างคือฟอร์เก็ตซึ่งเป็นแมวขนสั้นสีขาวตัวอ้วน

สรุป For get me not = ดอกไม้

ฟอร์เก็ต = ชื่อแมว

“เหอะ” ไอ้สัสกุนมันเงยหน้าขึ้นแล้วยกยิ้มมุมปากเพื่อเยาะเย้ยผม “ชอบเนาะชื่อแนวๆ พืชเนี่ย”

“เรื่องของกู สาระแน”

“ครับเพื่อนกานต์ ตามสบายเลยครับ”

“ไอ้สัสกวนตีนกูแล้วมึงอ่ะ แดกเข้าไปแล้วหุบปากซะ”

“แนะนำนะถ้าบินไปจีนเอาดอกเหมยมาปลูกเลยจะได้ครบเลยทีเดียว”

แล้วไอ้กุนก็โดนผมเตะเข้าหน้าแข้งอย่างไม่สนใจความเจ็บปวดที่ปากมันแหกร้องออกมา วันนี้ผมมีควิชแต่เช้าก็เลยต้องหอบสังขารมาอย่างหลีกเลี่ยงและก็โดดไม่ได้ การมาเรียนของผมขึ้นอยู่ตามตัวเงินที่ใครบางคนส่งเสริมให้อยากมีการศึกษาเพิ่มขึ้นแต่รอยหยักในสมองอาจลดลงเพราะมันหนักเกินไปจนรับไม่ไหวอันนี้ก็ค่อนว่ากันอีกทีหนึ่ง

เรียนเอาวุฒิไปงั้นๆ แหละสำหรับผมมันใช้ได้จริง

เพราะไม่ได้ใส่ใจอะไรกับวุฒิทั้งนั้น

เรียนก็ได้ไม่ได้เรียนก็ได้

“เลิกแล้วไปไหนอีกวะ”

“กลับ”

“ไรวะ” เราเดินออกจากห้องเรียนออกมาเรื่อยๆ โดยใช้บันใดแทนการใช้ลิฟต์ในเวลานี้คนค่อนข้างใช้งานมากจะรออะไรให้เสียเวลาแค่ชั้น 4 เดินลงก็ได้ “จะชวนไปแดกเล้งแซบเสียหน่อย”

“ชวนเมียมึงเหอะไอ้สัส”

“ถ้าปลาว่างก็จะชวนมึงเหรอถามโง่ๆ” ไอ้กุนเดินเคียงแนบผมมาผ่านคนเดินสวนขึ้นกลุ่มหนึ่งที่คงเป็นพวกปี 1 ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก “แล้วลงน้องอ่ะ”

“โดด”

“แล้วแต่มึงเลย” พูดเสร็จไอ้กุนถอนหายใจใส่หน้าผมอีกครั้งหนึ่ง มันเบื่อขี้หน้าผมผมก็เบื่อขี้หน้ามันเช่นกันนั้นแหละแต่ทำไงได้เสือกมาอยู่ในกลุ่มเดียวกันตามเวรตามกรรมมันต้องอยู่กันไปจนจบนั้นแหละ “มึงหยุดร้านขายน้ำปั่นแป๊บกูอยากแดก”

ใช่ผมกับมันหยุดตรงหน้าร้านขายน้ำมันที่ตั้งช่วงต่อของอาคาร

“มึงอยู่รับน้องเหรอ?”