OMG 05 ไม่จำเป็น
ตอนเช้ามืดฉันออกมาซื้อปาท่องโก๋กับกาแฟมานั่งทานในห้องเหมือนทุกวัน จากนั้นก็แต่งตัวเตรียมไปเรียน เดินออกมาหน้าหอมีรถจอดรอรับฉัน ฉันเปิดประตูเข้ามานั่งในรถ
“นี่ค่าน้ำมันค่ะ” เป็นค่าน้ำมันของอาทิตย์นี้ พี่บิวอีกแล้วค่ะ เขามารับฉันไปส่งที่มอเป็นประจำ เขาบอกว่าเขาเรียนเช้าเหมือนฉัน ซึ่งฉันก็คิดว่าเออก็ดี ไม่ต้องรอแท๊กซี่ ไม่ต้องเบียดกันบนรถเมล์
พี่บิวรับเงินไปแล้วไม่ได้พูดอะไร มันเป็นแบบนี้ประจำอยู่แล้ว
กระทั่งถึงตึกที่ฉันเรียน ใจดีไง มาส่งถึงหน้าตึกเป็นประจำ
“เย็นนี้พี่บิวไม่ต้องรอเนลนะคะ” ฉันหอบหนังสือด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างหนึ่งเปิดประตู
“กลับไง”
“คนขับรถของคุณย่ามารับค่ะ เนลต้องไปหาคุณย่า”
“ขอนแก่น?”
“บ้านสวนเฟื่องฟ้าค่ะ คุณย่าท่านพักท่านนั่น”
“อืม ถ้ามีไรก็โทรมานะ”
“ค่ะ ไปนะคะ” ฉันยิ้มให้พี่บิวแล้วลงจากรถ พี่บิวขับรถออกไป ระหว่างทางเดินขึ้นตึกเรียนฉันย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ตัวฉันได้เข้าไปเป็นหนึ่งในสมาชิกหญิงในวง Night-Day ฉันเป็นคนที่ในความเป็นจริงไม่ชอบผูกมิตรกับใคร พูดง่าย ๆ ก็คือไม่เชื่อใจ โลกที่ฉันสิงคือโลกโซเชียล ฉันส่องทุกอย่างของมหา’ลัย ส่องทุกคนที่น่าสนใจ แล้วก็มาเจอวง Night-Day กำลังเปิดรับนักร้องหญิง ฉันจึงลองไปสมัครเล่น ๆ น่าแปลกใช่ไหมที่ไม่ชอบสุงสิงกับใคร แต่ชอบร้องเพลงหน้าเวที วันนั้นฉันวิ่งทะเล่อทะล่าไปที่ชมรมดนตรีที่ที่เปิดรับสมัคร แล้วก็ได้เจอกับพี่บิวเป็นคนแรก วันนั้นเขามองฉันนิ่ง ๆ สายตาถามว่ามาทำไร ฉันจึงตอบไปว่ามาสมัครร้องเพลง บอกตามตรงว่าฉันเงอะงะมาก แต่ก็โดนเลือก เพราะคนที่มามาสมัครไม่เข้าตาพี่ปั้นจั่นนักร้องชาย เนื่องจากเหล่าผู้หญิงที่มาสมัครล้วนต้องการใกล้ชิดพี่ ๆ ในวงเท่านั้น ต่างจากฉันที่ไม่ได้สนใจในตัวของพวกพี่เขา และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ฉันได้รู้จักกับพวกพี่ ๆ ในวง เป็นระยะเวลาปีกว่า ๆ
“นักศึกษาฟังทางนี้หน่อย” เสียงอาจารย์คนหนึ่งดังขึ้นดึงสติฉันให้กลับมาสนใจ
นี่ฉันคิดเพลินจนไม่รู้ว่าอาจารย์เข้ามาสอนแล้วเลยรึ แต่นี่ไม่ใช่อาจารย์เคมีนี่นา
“ฟังนะคะ เนื่องจากอาจารย์รณชัยลา ทางมหา’ลัยจึงมีอาจารย์มาสอนแทนอาจารย์รณชัยชั่วคราว” อาจารย์ผู้หญิงพูด คำว่าอาจารย์สอนแทนทำให้นักศึกษาในห้องให้ความสนใจ “เชิญอาจารย์เรซค่ะ” อาจารย์ผู้หญิงพูดและหันออกไปด้านนอก
ไม่นานนักมีผู้ชายใส่สูทผูกไทด์เดินเข้ามาในห้อง “สวัสดีครับ” เขาเอ่ยสั้น ๆ และมองนักศึกษารอบห้องที่กำลังกรี๊ดบ้างก็ซุบซิบให้กับความหล่อของอาจารย์คนใหม่
ฉันจะไม่สนใจอะไรเลยถ้าหากว่าเขาไม่หยุดมองที่ฉัน และทำเหมือนว่ารู้จักฉัน
ดวงตาคู่นี้ ใบหน้าแบบนี้ เหมือนเคยเห็นที่ไหนกันนะ เหมือนว่าฉันเคยสบตากับเขา แต่จำไม่ได้ว่าที่ไหน
อาจจะร้านที่ไปร้องเพลงแหละ แต่ละคืนฉันสบตาใครต่อใครนักก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด
“อาจารย์เรซจะเข้ามาสอนจนกว่าอาจารย์รณชัยจะกลับมา ขอให้นักศึกษาตั้งใจด้วย” อาจารย์ผู้หญิงยิ้มให้อาจารย์คนใหม่และเดินออกจากห้องไป
จากนั้นอาจารย์คนนั้นก็เริ่มสอนต่อจากที่อาจารย์รณชัยสอนไว้ ส่วนใหญ่นักศึกษาคนอื่น ๆ ก็ดูเหมือนจะใส่ใจวิชานี้มากกว่าปกตินะ หรือที่จริงใส่ใจอาจารย์คนใหม่
หมดชั่วโมงที่ต้องเรียนเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้เวลาบ่ายกว่า ฉันเดินออกจากตึกเพื่อจะไปหาลุงคนขับรถที่คุณย่าส่งมารับ
“เธอ ๆ” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังอยู่ด้านหลังของฉัน
“…” ไม่หรอก ไม่น่าจะใช่ฉัน คงไม่ได้เรียกฉันหรอก ฉันจึงก้าวเดินต่อไม่ได้สนใจการกล่าวทักนั้น
“เธอ ทำไมหยิ่งจัง” เสียงตามมาอีกแล้ว รอบนี้พร้อมฝีเท้าที่ดังมาทางนี้ ฉันคิดว่าอาจจะเป็นฉัน รอบนี้ฉันจึงได้หันหน้ากลับไปมอง
“…” มองแต่ไม่พูดอะไร ก็ไม่มั่นใจว่าเรียกฉันไหมนะ ถ้าเกิดว่าถามไปแล้วบอกไม่ได้คุยกับฉัน ฉันไม่หน้าแตกเหรอ หน้าตาก็สะสวยอยู่ แต่ว่าทำไมปากไวนัก
“อะไรกัน เธอมองหน้าฉันแบบนี้จะหาเรื่องกันหรือไง”
“เปล่า” อีหยังวะ เป็นบ้าติมาหาเรื่องคน เป็นบ้าคือบ่ไปอยู่โรงพยาบาลว้า มาอยู่หยังในมอแบบนี้ สงบสติอารมณ์บ่ได่กะสิบ่ไปไล่หาเรื่องคนติ
“เธอมีไลน์ไหม ขอหน่อย” พูดกับฉันนะ ก็มองมาที่ฉัน
แต่ถามให้แน่ใจหน่อยดีกว่า ฉันไม่ชอบกลายเป็นตัวตลกของใคร “พูดกับฉันเหรอ”
ผู้หญิงหน้าสวยมองเหมือนว่าฉันทำตัวแปลก “ก็พูดกับเธอน่ะสิ ตรงนี้มีเราสองคนไหม เธอนี่แปลกคน”
“เธอน่ะสิแปลก จู่ ๆ มาขอไลน์ทั้งที่ไม่รู้จักกัน ประสาทหรือเปล่า” เอ้อ มามองอย่างกับว่าฉันเป็นตัวประหลาด มีเหรอนิเนลคนนี้จะยอม ฉันไม่ใช่คนยอมคนนะ
“เอ้า ยัยนี่ ก็เราเรียนด้วยกันไหมเมื่อกี้อะ ขอไลน์เพราะอยากเป็นเพื่อนฉันผิดตรงไหน ถ้าไม่แสดงความรู้จัก แล้วเราจะรู้จักกันหรือไง”
“อ่อ โทษทีนะ ฉันไม่อยากมีเพื่อน” ฉันพูดตัดบทอย่างไม่มีมารยาท รู้ว่าไม่มีมารยาทมาก แต่ฉันไม่ชอบอะไรที่มันต้องมาค้างคารักษาน้ำใจกัน เพราะท้ายที่สุดก็ไม่จำเป็นต้องรู้จักกันอยู่ดี ฉันถึงเลือกที่จะไม่มีเพื่อน ไม่พูดไม่คุยกับใคร ถ้าจำเป็นต้องทำงานกลุ่มถึงจะคุย
ฉันหันหลังกลับแล้วเดินออกจากจุดนี้ มันดูเหมือนฉันใจร้าย ทว่าที่ฉันร้ายก็เพราะเคยถูกทำร้ายมาก่อน ฉันจึงไม่จำเป็นต้องรับใครเข้ามาในโลกของฉันเพื่อให้ตัวเองเสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก
“สวัสดีค่ะลุงกิจ” ฉันยกมือไหว้คนขับรถของคุณย่าก่อนจะเข้ามานั่งในรถ
“นี่อาหารว่างระหว่างทางครับคุณหนู” ห่อข้าวเหนียวหมูทอดฝีมือคุณย่ายื่นมาให้ฉันพร้อมน้ำส้มคั้นหนึ่งขวด
“คุณย่าถึงนานหรือยังคะ แล้วท่านเมื่อยมากหรือเปล่า” คุณย่าเดินทางมาจากขอนแก่น มาเพื่อสะสางธุระที่คาราคาซังของท่าน
“พอคุณท่านได้เห็นเพื่อนรักความเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยครับ”
“คุณย่าจะมีความสุขใช่ไหมคะ”
“ครับ”
“ถ้าลุงกิจที่อยู่กับคุณย่ามานานยืนยันแบบนี้เนลก็พร้อมจะทำตามที่คุณย่าบอกค่ะ”
“คุณท่านเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้คุณหนูเสมอครับ เพราะคุณหนูคือดวงใจของคุณท่าน”
“เนลรู้ค่ะ เนลก็รักคุณย่า” เนลถึงยอมทำตามที่คุณย่าต้องการไงคะ