บทที่ 8 คุยกันให้รู้เรื่อง
"ตอบมาก่อนแล้วจะเปิดให้" เทนว่าพรางใส่เกียร์ถอยหลังออกจากที่จอดหันหน้าออกถนนใหญ่
"เปิดประตูให้พีชเดี๋ยวนี้นะ" *ต้องเจอพีรดาการแสดงแล้วเฮียเทนนี่...หญิงสาวคิดในใจ* ออกคำสั่งเสียงสั่น ๆ พร้อมกับหยดน้ำตาไหลลงร่องแก้ม ทำเอาชายหนุ่มตกใจจอดรถทันที
"พีช...เฮีย" "ปล่อยพีชไปหาเพื่อนนะคะ พีชสัญญาพีชจะไม่มาที่นี่อีก นะคะ" เสียงปนสะอื้นของเธอน่าสงสารจับใจ จนคนได้ยินทำอะไรแทบไม่ถูก เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้กลัวขนาดนั้น แค่อยากรู้เหตุผลว่าทำไมถึงบอกเพื่อนว่าไม่รู้จักกัน ทั้ง ๆ ที่ดูออกว่าเธอจำเขาได้
"ฟังนะ (ว่าพรางประคองแก้มคนตรงหน้าสบตาสีหน้าจริงจัง) เฮียแค่ถาม ว่าทำไมหนูถึงบอกเพื่อนว่าเราไม่รู้จักกันทั้ง ๆ ที่เรารู้จักกัน แล้วเฮียก็รู้ว่าหนูจำเฮียได้"
"ค่ะ พีชรู้จัก พีชแค่เคยรู้จักค่ะ แต่ตอนนี้พีชไม่ได้อนากรู้จักแล้ว พีชกำลังพยายามผู้ชายใจร้ายคนนั้นอยู่ เข้าใจมั้ย" หญิงสาวว่าเสียงดังพร้อมกับจ้องหน้าทั้งน้ำตาความรู้สึกของเธอตอนนี้คือแทนที่จะดีใจที่ได้เจอหน้าเขาอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่อยากเจอ แต่อีกความรู้สึกคือน้อยใจที่วันที่เธอเสียใจที่สุดเมื่อ 6 ปีก่อนกลับเป็นวันที่เขามีความสุขที่สุดและมีคนอื่นอยู่ข้าง ๆ ในขณะที่เธอไม่มีใคร
"พีช..." ชายหนุ่มรั้งร่างบางมากอดไว้แน่น ความรู้สึกผิดกับน้องข้างบ้านมาตลอดหลายปีประเดประดังเข้ามาจนเขาสับสน
"เฮียขอโทษ เฮียแค่..." "ปล่อยพีชไปเถอะ เราไม่เจอกันอีกก็ดีแล้ว พีชกำลังจะลืมได้แล้ว"
"พีช" "พีชจะกลับไปหาเพื่อนค่ะ ปลดล็อคประตูให้พีช นะคะ" เสียงห้วนออกคำสั่งพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
"ไม่ คืนนี้เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง" ชายหนุ่มว่าพรางยกร่างบางจากเบาะข้างคนขับมานั่งตักตัวเองแล้วออกรถไปจากตรงนั้นทันที....
"เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ ปล่อยพีชลงนะเดี๋ยวนี้ พีชไม่ไปไหนกับคนแปลกหน้า" หญิงสาวว่าพรางพยายามดิ้นจะหนีลงจากตัก แต่ด้วยพื้นที่จำกัดและตอนนี้รถก็เลี้ยวออกถนนใหญ่ทำให้เธอไม่กล้าที่จะดิ้นหรือพยศอะไรมากมายนัก "บอกให้ปล่อยพีชลงไง" หญิงสาวตะคอกเสียงดุ ใช้หลังมือปาดน้ำตาเหมือนเด็ก พร้อมกับจ้องหน้าดุ ๆ ซึ่งในความคิดของเธอคือทำแบบนี้เรียกว่าดุที่สุดแล้ว แต่ในสายตาของเจ้าของตักนั้นดูยังไงก็คล้ายลูกแมว ไม่ได้มีความน่าเกรงกลัวอะไรเลย แต่กลับกัน ดูน่าหยอกน่าแกล้งเป็นที่สุด
"หนูว่าเฮียเป็นคนแปลกหน้างั้นเหรอ" ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับจ้องหน้ากลับ *แล้วดูทำหน้าเข้าแก้มป่อง ๆ นี่มันน่ากลัวตรงไหนกันวะ...ชายหนุ่มคิดในใจ* แล้วเบือนหน้าไปอมยิ้มอีกทางก่อนจะหันมาสบตากลมโตตรงหน้า
"…" หญิงสาวไม่ตอบแต่เบือนหน้าหนีทันที
"หึ! ถ้าแปลกจริงหนูไม่ชวนเพื่อนเปลี่ยนร้านตั้งแต่แรกหรอกจริงมั้ย" คำพูดของเทนทำเอาคนบนตักถึงกับเหลอ "เฮียบอกแล้วไงว่าคืนนี้เราต้องเคลียร์กัน" ชายหนุ่มพูดสบาย ๆ แล้วกดหัวหญิงสาวซบไหล่หลบโฟกัสกระจกหลังที่ตัวเองกำลังจะเลี้ยว
"ก็บอกว่าไม่เคลียร์ ปล่อยพีชลงเดี๋ยวนี้นะ" จากความกลัวกลายเป็นความกล้าออกคำสั่งเสียงดุ ที่มาพร้อมกับกำปั้นน้อย ๆ ทุบที่ไหล่หนาสุดแรงของเธอ จนคนโดนสะดุ้ง
"ถ้าไม่หยุดดิ้นเกิดชนใครตายขึ้นมาได้อายทั่วไทยแน่ ๆ นะพิกกี้ ที่ 2 ศพนั่งซ้อนกันแถมกลิ่นเหล้าให้หึ่งขนาดนี้ ไม่มีใครคิดว่านั่งเฉย ๆ หรอกนะ" ชายหนุ่มว่าเสียงดุทั้งยังเรียกชื่อที่ตัวเองชอบเรียกเธอมาตั้งแต่เด็ก ทำให้คนตัวเล็กชะงักไปทันที
ลูกพีชจำเป็นต้องหยุดเมื่อนึกได้ว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่บนตักของคนที่กำลังขับรถ แล้วหันหน้ามองกระจกด้านข้าง มือเล็กที่กำกำปั้นอยู่ ปล่อยตกลงมาที่ตักตัวเองแล้วปล่อยให้น้ำตาเม็ด
เล็ก ๆ หยดลงร่องแก้มเงียบ ๆ สายตามองไฟข้างทางอย่างเลื่อนลอยและไม่รู้จุดหมายปลายทางที่ชายหนุ่มจะพาตัวเองไป *เฮียเทนบ้า ขนาดแกล้งร้องไห้ขนาดนี้ยังไม่ยอมปล่อยลงไปอีก แล้วจะพาไปไหนเนี่ย...งือ ยายเวียนนะยายเวียน ต้องเป็นแผนยายเวียนแน่ ๆ เลย ไม่งั้นไม่เจอเฮียเทนวันนี้หรอก แล้วผับทั่วกรุงเทพไม่ไป มาอะไรใกล้ ม.บี วะ...หญิงสาวคิดค่อนขอดเพื่อนในใจ* แล้วแอบถอนหายใจแรง ๆ เมื่อนึกว่าเรื่องนี้เพื่อนตัวเองต้องรู้เห็นเป็นแน่
เทนเหลือบมองคนบนตักที่นั่งนิ่งเหมือนตุ๊กตาเป็นพัก ๆ ก่อนจะถอนหายใจแล้วเลี้ยวรถอีกครั้ง และตอนนี้หญิงสาวก็ไม่เอ่ยหรือคัดค้านอะไรออกมาอีก
"พิกกี้..." "ชื่อลูกพีชค่ะ" ลูกพีชบอกชื่อตัวเองทันที
"ถ้าหนูยังเป็นแบบนี้อยู่ เฮียจะไม่ไปส่งหนูนะ" เทนเอ่ยขึ้นหวังจะให้เธอหันมาคุยกันดี ๆ "...."
"วิเวียนเรียนหมอ หนูเรียนคณะเดียวกับวิเวียนหรือเปล่า ทำไมวิเวียนไม่เห็นเคยเล่าให้เฮียฟังบ้างเลยว่าหนูก็อยู่กับวิเวียน" ชายหนุ่มพยายามชวนคุย ในขณะที่ตามองถนนเบื้องหน้า มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาลูบผมคนบนตักเบา ๆ แล้วกดจมูกลงที่กลุ่มผมสวยของเธอเหมือนที่เคยทำตอนเด็กเวลาที่เธอร้องไห้ เขาจะใช้วิธีจุ๊บที่ผมแทนการพูดปลอบ (โอ๋ ไม่เป็นนั่นแหละ)
"ถ้าหนูไม่พูดกับเฮียตอนนี้ เฮียจะพาหนูไปคุยกันต่อที่คอนโดเฮียนะ" ชายหนุ่มขู่ขึ้นอีกประโยค แต่.... "...."
"ไม่กลัวที่จะไปคอนโดเฮียหรือไง?" ชายหนุ่มเอ่ยถามเหมือนลองเชิง
"...." *กลัวสิ ทำไมจะไม่กลัว* หญิงสาวคิดในใจแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
สิ่งที่ได้กลับมาจากหลายประโยคคำถามคือความเงียบทำให้เทนรู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ ขับรถตรงไปยังคอนโดของตัวเองที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก
@คอนโดหรูกลางกรุง
รถเก๋งยุโรปสีดำวิ่งเข้ามาจอดที่ชั้นจอดรถใต้ดิน ชายหนุ่มดับเครื่องยนต์แล้วปลดล็อคประตูรถก่อนจะนั่งมองคนตัวเล็กที่นั่งเป็นตุ๊กตาบนตักตัวเองนิ่ง ๆ มือเล็ก ๆ ที่ประสานกันไว้บนตักข้างหนึ่งมีรอยแดงรอบข้อมือ หน้าสวยมีน้ำตาเม็ดเล็ก ๆ เกาะที่หางตา ขนตางอนเปียกชุ่ม ปากบางเบะคว่ำ หน้าบึ้งงออย่างเอาแต่ใจเหมือนตอนเด็กที่โดนขัดใจไม่มีผิด
"พีช...ลูกพีช หนู..." เทนเขย่าคนตัวเล็กเบา ๆ แต่ก็ไร้การตอบสนอง เธอทำตัวเหมือนสิ่งไร้ชีวิตที่ยังมีลมหายใจอยู่บนตัก ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กของเธอขึ้นมาสะพายเปิดประตูแล้วค่อย ๆ ก้าวขาลงจากรถ โดยที่ช้อนอุ้มร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอม "เฮ้อ...บทจะเงียบก็เงียบซะกลัวใจเลยกู วิญญาณหล่นหายระหว่างทางหรือเปล่าวะเนี่ย" เทนเอ่ยขึ้นเสียงเบา เมื่อพาหญิงสาวออกมายืนด้านนอก แล้วอุ้มเดินเข้าลิฟต์กดขึ้นชั้นที่ตัวเองพัก
ภายในห้อง
เทนวางร่างเล็กลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นอย่างเบามือ แล้วนั่งยองลงกับพื้นเงยหน้าขึ้นมองหน้าหญิงสาวนิ่ง ๆ หน้า
เศร้า ๆ ดวงตาเหม่อลอยของเธอ ทำให้เขาใจหายอยู่ไม่น้อย ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งข้าง ๆ แล้วช้อนหญิงสาวขึ้นมานั่งบนตัก ค่อย ๆ บรรจงเช็ดน้ำตาออกจากแก้มให้เบา ๆ
"ลูกพีช คุยกับเฮียหน่อยเถอะ หนูจะเงียบแบบนี้ไม่ได้นะ เฮียแค่อยากคุย ถ้าเงียบแล้วเราจะคุยกันได้ยังไง" เทนเอ่ยขอพร้อมกับจ้องหน้าคนตัวเล็กนิ่ง ๆ *แก้มป่อง ๆ นี่จะทำกูเตลิดให้ได้เลยแม่ง เอ๊ย!*
"หนูโตแล้วนะ อีกหน่อยก็จะเป็นคุณหมอ...