บทที่ 4 คนคุ้นหน้า
@Ro me bar
วันนี้เป็นวันที่ 3 เพื่อนรัก เทน โรมและมาร์ค นัดมาเจอกันที่ร้าน เพราะมาร์คที่ได้ทุนไปเรียนที่ต่างประเทศและทำงานที่นั่นกลับมาประชุมประจำปีที่ไทยในฐานะผู้แทนสาขา ส่วนเทนมาจากเชียงใหม่เพื่อเอาเอกสารมาฝากเพื่อนไปสมัครเรียนต่อปริญญาโทอีกใบที่มหาลัยที่เพื่อนกำลังเรียนอยู่
"มึงคิดไงวะเนี่ย จะจบโทอยู่แล้ว แต่จะต่อโทใบที่ 2 ไม่เรียนเอกพร้อมกับกูกับไอ้ศิงี้" มาร์คถามเพื่อนรักงง ๆ เขาไม่เข้าใจว่าเทนจะเรียนต่อโทอีกใบในสาขาเดียวกันกับที่เรียนอยู่ไทยทำไมอีก ในเมื่อเทนเรียนจบ ป.โท ที่ไทยแล้ว รอเพียงแค่มหาลัยออกใบรับรองให้เท่านั้นก็สามารถต่อ ป.เอกได้แล้ว
"ถึงสาขาเดียวกันมันก็คนละหลักสูตรนี่หว่า กูกับไอ้โรมคุยกันแล้วว่าจะเรียน ป.โท สาขาเดิมอีกใบที่ลอนดอน ปี 2 ปี ไม่น่าจะเสียเวลามากมั้ง พวกมึงรีบก็เรียนนำไปก่อนเลย" เทนว่า พรางยกแก้วขึ้นจิบ
"ตามใจพวกมึงละกันว่ะ กูกับไอ้ศิทั้งเรียนทั้งทำงานก็เกือบ 2 ปี พวกมึงจะไปอยู่ประจำเลยไง"
"ประจำแล้วใครจะดูร้านกูครับ โรงทออีก พี่รันไม่ค่อยเข้ามึงก็รู้ เฝ้าแต่ร้านแม่อยู่นั่นแหละ ฉิบหาย" โรมว่าขึ้นพรางส่ายหน้า "เออ...วันก่อนกูโทรหาไอ้ศิ มันบอกว่าอยู่อเมริกา มันไปทำไมวะ" โรมถามขึ้นอย่างนึกได้
"ไปหาอามันน่ะ มันช่วยดูบริษัทอามันด้วย" มาร์คตอบเพื่อนแต่ตามองสาวสวยที่เดินผ่านมาเข้าห้องน้ำด้านหลังยิ้ม ๆ
"เหรอ กูคิดว่าแม่งจะบ้างานไม่ออกไปไหนซะอีก แล้วเรื่องที่คุณปู่จะให้มันขึ้นตำแหน่งประธานสาขามันเอาไงวะ เดือนก่อนกูเจอท่านบ่นอุบเลยว่าพวกมึงเล่นตัวกันทั้งคู่" เทนว่าพร้อมกับยกแก้วขึ้นกระดก
"คุยกันแล้ว ไอ้ศิมันขอเวลา จบเอกนู่นแหละค่อยคุยกันอีกที อายุพวกกุแค่นี้กลัวพวกกรรมการไม่เชื่อถือว่ะ"
"งั้นเท่ากับหลอกคุณปู่เป็นแบ็กเปิดบริษัทให้สิวะบาปฉิบหายไอ้บ้า" เทนว่าพรางมองหน้าเพื่อน เมื่อกลางปีที่แล้วพวกเขา 4 คน ได้จัดตั้งบริษัทซื้อขายหุ้นขึ้นในตลาดโดยแยกเป็น 2 บริษัท มีมาร์คกับเทนจดทะเบียนคู่กันและศิลากับโรมอีก 1 บริษัทด้วยทุนจดทะเบียนในตลาดค่อนข้างสูงด้วยการสนับสนุนของคุณปู่เดชา ของศิลาเพื่อแลกกับการที่หลานชายจะยอมขึ้นดำรงตำแหน่งประธานผู้บริหารในอนาคต โดยพวกเขาขอว่าเรื่องนี้ขอให้รู้กันแค่ครอบครัวของศิลาเท่านั้น
"บาปอะไรทำคือทำสิวะ แต่ขอพวกกูเรียนจบกันก่อน เออ...คืนนี้กูจะไปนอนบ้านไอ้ตัวเล็กมึงไปนอนกับกูมั้ย" มาร์คว่าพร้อมกับหันไปถามเทนพร้อมกับยกแก้วขึ้นจิบบาง ๆ
"มึงโทรบอกตาแล้วไง ป่านนี้ไม่นอนไปแล้วเหรอวันนี้วันพระด้วย เมื่อคืนตาน่าจะนอนดึก"
"กูโทรบอกแล้วว่าจะเข้าไป เห็นบอกว่าเขาสั่งมาลัยแก้บนเกือบ 200 คงยังไม่นอนหรอก พอดีพรุ่งนี้จะได้ช่วยส่งมาลัยด้วย" มาร์คตอบพร้อมกับยกแก้วขึ้นจ่อปาก
"ก็ดีนะ แม่กูไปจีนมาฝากขนมมาให้เยอะเลย สงสัยแม่เลี้ยงเค้าลืมว่าหวานกับน้องขวัญจะ ม.4 กันแล้ว เล่นฝากขนมมาเป็นลัง ๆ ยังกับให้เอามาขายสี่แยก" เทนว่าขำ ๆ ถึงแม่ตัวเอง ที่ฝากขนมมาให้น้องร่วมโลกของพวกเขา เมื่อเขาบอกว่ามีน้องร่วมโลกที่เป็นผู้หญิงที่กรุงเทพท่านก็ตื่นเต้นมาก ถึงจะไม่เคยเห็นหน้าเห็นตากันจริง ๆ แต่ก็เคยวีดีโอคอลคุยกันและทุกครั้งที่เขามากรุงเทพ ท่านก็จะมีของฝากมาให้เด็กสาวทั้ง 2 เสมอ
แม่ของเทนเป็นคนที่ชอบเด็กผู้หญิงมาก ท่านเคยบอกว่าตอนที่มีพี่สาวเขานั้นครอบครัวกำลังสร้างเนื้อสร้างตัวและอากงอาม่าก็มาอาศัยอยู่ด้วยทำให้ท่านไม่มีเวลาดูแลพี่สาวเขา ภาระจึงตกอยู่ที่อาม่า พอมีลูกอีกคนก็คือเขา และตั้งใจจะมีลูกคนที่ 3 แต่หมอไม่แนะนำให้มีเพราะท่านมดลูกไม่แข็งแรง ตอนเด็กเขามีน้องข้างบ้านอยู่คนหนึ่งเป็นผู้หญิง แม่เขารักมาก อุ้มมาเล่นที่บ้านประจำและเธอก็วิ่งเข้าวิ่งออกบ้านเขาจนคุ้นเคย เธอผิวขาวอมชมพูหน้าตาน่ารัก ช่างพูด และชอบหอบเอาตุ๊กตามานั่งเล่นที่ศาลาหน้าบ้านรอเขาหลังเลิกเรียนทุกวัน แต่พอขึ้นมัธยมเขาก็ย้ายมาเรียนที่กรุงเทพ นาน ๆ กลับบ้านครั้ง ก็เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเธอ ระยะเวลาแค่ไม่กี่ปีทำให้เธอกลายเป็นเด็กผู้หญิงที่อวบระยะสุดท้ายจนเพื่อน ๆ ในซอยล้อเธอว่าเป็นหมู ซึ่งสาเหตุน่าจะเป็นเพราะเธอเป็นคนเจ้าเนื้อมาตั้งแต่เด็ก และแม่เธอขายขนมหวานจึงทำให้เธอน้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแม่เธอเป็นห่วงแอบขอร้องให้เขาช่วยพูดกับเธอเรื่องการกิน แต่เขาก็ไม่รู้จะหาวิธีไหนมาพูด จึงเลือกวิธีการพูดทำร้ายจิตใจและทำเป็นไม่สนใจเธอในตอนนั้น…
...........//..........
Lookpeach part
21.10 @Ro me bar
รถยุโรปสีดำวิ่งเข้ามาจอดหน้าร้าน 4 สาวเปิดประตูก้าวลงมาจากรถอย่างมั่นใจ พร้อมกับโปรยยิ้มให้กับบรรดาการ์ดรักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านหน้า วิเวียนปิดประตูล็อครถอย่างดี แล้วเดินนำเพื่อนเพื่อเข้าร้าน
"เดี๋ยว..." ลูกพีชดึงแขนเพื่อนให้หยุดเดิน
"อะไร! มาถึงก็เข้าร้านสิคะ" วิเวียนว่าพรางมองหน้าเพื่อนเป็นคำถาม
"ด้านข้างมีศาลพระภูมิ พวงมาลัยเต็มเลย ขอไปไหว้ก่อนนะ จะได้ขอพรให้จบ" หญิงสาวยังวนเวียนกับการขอพรวันพระไม่ยอมจบ
"คุณพีรดาคะ เรามากินเหล้าค่ะเพื่อน ไม่ได้มาร่วมฉันน้ำปาณะกับเจ้าที่ ส่วนพรที่เหลือ เอาเป็นว่า ขออะไรก็ขอให้สมปรารถนาทุกประการ ขอให้เจอผู้ชายคนนั้นในคืนนี้ ขอให้ได้ ขอให้โดน ขอให้ได้ลงจากคานด้วยเถิด เพี้ยง! ..." วิเวียนว่าพรางพนมมือแล้วเป่าลงที่หัวเพื่อนฟูดใหญ่
"โห...น้ำลายมาเต็มมาก พอเลยไม่ต้องเป่ามาอีกนะ เข้าไปได้แล้ว" ลูกพีชรีบเบรก ก่อนที่เพื่อนสาวจะเป่าหัวให้อีกรอบแล้วหาบัตรประชาชนยื่นให้การ์ดหน้าประตูยิ้ม ๆ
4 สาวเดินเข้ามาในร้านท่ามกลางสายตานักท่องราตรีที่มองมาอย่างสนใจ ปลาดาวยื่นมือถือที่โทรจองโต๊ะให้พนักงานดู พนักงานคนดังกล่าวรีบผายมือไปที่โต๊ะมุมด้านใน ที่มีอีกโต๊ะอยู่ในโซนเดียวกัน และมีผู้ที่นั่งอยู่ก่อนแล้วเป็นชายหนุ่มงานดี 3 คน และ 1 ในนั้นเป็นคนที่ลูกพีชคุ้นตาจนเธอต้องหยุดชะงัก
"กะ แก ย้ายโต๊ะเถอะ โต๊ะนี้มันมืดไป" หญิงสาวรีบกระตุกแขนเพื่อนไม่ให้เดินต่อ เมื่อมั่นใจว่าคนที่นั่งอยู่เป็นใคร
"บ้าน่า มุมนี้แหละดีสุดแล้ว ได้เห็นเวทีด้วย ไม่ไกลจากห้องน้ำด้วยไม่อึดอัด" ปลาดาวว่าพรางดึงแขนวิเวียนให้เดินไปนั่งที่โต๊ะก่อนโดยหันหลังให้โต๊ะข้าง ๆ
"แต่มันน่ากลัวจริง ๆ นะเว้ย ย้ายเถอะ" เสียงหวานอ้อนเพื่อนแต่ไม่ยอมเดินตามเข้าไป *จะเจอวันนี้ไม่ได้นะ พรยายเวียนจะศักดิ์สิทธิ์กว่าพรวันพระไม่ได้เว้ย สาธุอย่าใช่ ขอให้แค่คนหน้าเหมือนหน้าคล้ายทีเท้อ... เพี้ยง! *
"เฮ้อ...ชั้นละเบื่อคุณลูกพีชจริง ๆ พี่คะมีโต๊ะว่างอีกมั้ยคะ แบบสว่าง ๆ สปอร์ตไลท์ส่องถึงเลย เพื่อนหนูกลัวความมืด" ปลาดาวถอนหายใจพร้อมกับเงยหน้าขึ้นถามพนักงานเสิร์ฟประชดเพื่อนยิ้ม ๆ
"เอ่อ...รอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมเช็คให้ครับ" พนักงานแบ่งรับแบ่งสู้พร้อมกับแอบชำเลืองมองโต๊ะชายหนุ่มทั้ง 3 ด้านข้าง หนุ่มผมยาวที่นั่งคู่กับเทนและหันหน้ามาทาง 3 สาว ยกยิ้มมุมปากพร้อมกับส่ายหน้าน้อย ๆ เป็นสัญญาณว่าไม่ พนักงานคนดังกล่าวรีบก้มหน้ารับน้อย ๆ ก่อนจะทำท่าเดินออกไปที่เคาน์เตอร์แล้วพูดคุยอะไรกันบางอย่างแล้วเดินมาทาง 3 สาว สีหน้าไม่สู้ดีนัก
"ต้องขอโทษด้วยครับคุณลูกค้า คืนวันศุกร์ โต๊ะจองเต็มหมดเลยครับ เปลี่ยนไม่ได้จริง ๆ ครับ" พนักหน้าก้มหน้าตอบพรางยิ้มที่มุมปาก
"โอเค งั้นก็ได้ค่ะ ไหน ๆ ก็มาละ" อันดาว่าพรางถอนหายใจแล้วลากเพื่อนสาวร่างเล็กให้ไปนั่งที่โต๊ะตรงข้ามเพื่อนแต่หันหน้าไปทางโต๊ะ 3 หนุ่มพอดี
"แก...เราไปร้านอื่นก็ได้" ลูกพีชยังอิดออดแต่ก็ยอมนั่งลง *แล้วจะให้นั่งตรงนี้ทำไมวะเนี่ย อย่าใช่นะเว้ย แต่ถ้าใช่เขาคงจำเราไม่ได้หรอก เราไม่ได้ใส่แว่นแล้วนี่* หญิงสาวคิดในใจพร้อมกับให้กำลังใจตัวเอง
"นี่คุณหนูพีรดาคะ ตกลงว่าแกหรือยายวิเวียนกันแน่ที่กลัวผีเนี่ย" ปลาดาวว่าขึ้นพร้อมกับชี้หน้าเพื่อนสาว
"จะเรียกชื่อทำไมเล่า เปลี่ยนที่นั่งกันมา" คนตัวเล็กสุดในกลุ่มขอเปลี่ยนที่นั่งกับเพื่อน
"ไม่ล่ะ ตรงนี้เห็นเวที เห็นนักร้องไม่เปลี่ยนจ่ะ" ปลาดาวว่าพรางปรายตามองหนุ่มหล่อหน้าคมที่เดินผ่านมายิ้ม ๆ
"ชิ ทำยังกับตัวเองโสดเถอะ..." คนสวยจิ๊ปาก อย่างขัดใจแล้วหันไปหาพนักงานเสิร์ฟที่ยืนรอรับออเดอร์อยู่ใกล้ ๆ
"พี่คะ เอาข้าวคะน้าหมูกรอบไม่ใส่พริก ไข่ดาวสุก เออ...ข้าวไม่ต้องเยอะนะคะครึ่งเดียวจากที่เคยขายก็พอ แล้วก็น้ำเปล่าไม่เย็น 1 ขวดค่ะ" รายการอาหารของเธอทำเอาพนักงานอ้าปากค้างแล้วเหลือบไปมองหน้าเจ้านายอย่างขอความเห็นทันที
"เฮ้ย! ยายต๊อง มาร้านเหล้าสั่งข้าวนี่นะ!" อันดาอุทานอย่างตกใจพร้อมกับหันหน้ามองพนักงานยิ้ม ๆ
"อ้าว ก็ร้านอาหารกึ่งผับนี่ ก็ต้องมีขายแหละ รบกวนหน่อยนะคะหนูหิว เร็วสิจะกินอะไรกันก็สั่ง" ตอบเพื่อนแล้วหันไปสำทับพนักงานอีกรอบก่อนจะหันมาสั่งเพื่อน ทำเอา 3 สาวถึงกับหน้าเหลอหลาแล้วสั่งอาหารเป็นกับข้าวแทนที่จะสั่งเหล้าเหมือนโต๊ะอื่น….
มิติใหม่ของการเข้าผับ สั่งข้าวมากินก่อนนน....