บท
ตั้งค่า

Chapter 1 เจ้าของผับคือเพื่อนน้องชาย

Chapter 1

เจ้าของผับคือเพื่อนน้องชาย

@พียูผับ

“โอ๊ยนังเอิง คิดว่าแกจะไม่มาซะแล้วนะ”

เพื่อนในแก๊งค์คนหนึ่งพูดขึ้น ที่โต๊ะตอนนี้มีคนอยู่ประมาณสิบกว่าคนแต่มีเพียงคนเดียวที่ฉันไม่อยากจะเห็นหน้ามากที่สุด

“ก็ต้องมาอยู่แล้วป่ะ งานวันเกิดเพื่อนทั้งทีแถมบอกว่าวันนี้จะมาแจกการ์ดซองแต่งงานอีกจะพลาดได้ยังไง”

ถ้าเลี่ยงได้ก็คงเลี่ยง แต่นี่เพราะจะต้องมารับซองแต่งงานจากเพื่อนในกลุ่มสมัยเรียนมหาวิทยาลัย

ฉันเรียนจบมาได้ประมาณสองปีแล้วค่ะ และก็ต้องมาเจอกับคนที่ไม่อยากเจอที่สุด

“ไงเอิง” และแน่นอนว่าเขาคนนั้นก็เอ่ยทักทายขึ้นทันทีที่เห็นหน้าฉัน

“ไงภีม สบายดีนะ?” ภีมคือแฟนเก่าของฉัน เราเพิ่งเลิกกันไปเมื่อปีที่แล้วนี้เอง เรียนจบมาได้ปีเดียวหลังรับปริญญาแล้วก็เลิกกันเลย

“แกมาแบบนี้ก็ต้องมีส่วนลดแล้วป่ะ น้องชายเป็นหุ้นส่วนผับอยู่นี่”

เพื่อนอีกคนในโต๊ะถามขึ้น ฉันได้แต่ยิ้มแล้วตอบ

“ก็มีแหละ เดี๋ยวยังไงจะติดต่อน้องให้แล้วกันนะ”

น้องชายของฉันชื่อว่าโอบอ้อม เราสองคนเป็นเด็กหาดใหญ่และพ่อแม่มีธุรกิจใหญ่โตอยู่ที่นั่น แต่ฉันสองคนพี่น้องก็พากันมาเรียนในกรุงเทพและพ่อก็มีแพลนอยากจะขยายบริษัทเข้ามาในกรุงเทพฉันจึงมาคอยช่วยดูแล

บ้านฉันทำกิจการเกี่ยวกับการผลิตและส่งออกอุปกรณ์ก่อสร้างบ้าน และน้องชายของฉันที่ชื่อว่าโอบอ้อมปัจจุบันนี้ก็ยังเปิดร้านเหล้าไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่ซึ่งมีหุ้นส่วนกับเพื่อนสนิท

หลังจากเรานั่งคุยกันไปได้สักพักฉันก็ได้รับการ์ดแต่งงานจากเพื่อนในกลุ่ม ตอนเรียนมหาวิทยาลัยแก๊งค์ของเราเป็นแก๊งค์ใหญ่มีตั้งสิบกว่าคน

สักพักฉันก็จัดการติดต่อโทรหาน้องชายของตัวเองที่คาดว่าตอนนี้จะไม่ได้ดูแลอยู่ที่ผับ น่าจะเพราะช่วงนี้วุ่นๆไม่รู้ว่าวุ่นวายอะไรถึงติดต่อยากมาก

“ฮัลโหล โอบเหรอ พอดีวันนี้พี่กับเพื่อนๆมาฉลองกันที่ผับแล้วอยากจะได้ส่วนลดน่ะ”

ที่จริงฉันเบื่อมากเลยนะกับการที่เพื่อนมาเที่ยวร้านของน้องแล้วมาขอส่วนลด คนรู้จักกันแท้ๆควรจะอุดหนุนและสนับสนุนกันมากกว่าแต่ก็ไม่เป็นไร เพราะจะได้ส่วนลดก็เฉพาะตอนที่ฉันอยู่นี่แหละ

‘ผมไม่อยู่ร้านอ่ะดิพี่ ขึ้นไปที่ห้องวีไอพีเลย บอกการ์ดว่าผมให้ขึ้นไปติดต่อไอ้พายุ’

“พายุ? แต่ว่าพี่ก็ไม่ได้สนิทกับน้องเขานะ มันจะดีเหรอ”

‘เออขึ้นไปหามันเลยไม่ต้องเกรงใจ เดี๋ยวโทรไปบอกมันไว้ให้’

“โอเค งั้นก็ได้”

ฉันลอบถอนหายใจแล้วจำใจเดินขึ้นไปห้องวีไอพีเพื่อติดต่อกับพายุ

“มาหาใครครับ? ไม่ทราบว่ามีบัตรวีไอพีรึเปล่า?”

และแน่นอนว่าพอกำลังจะขึ้นไปชั้นสองก็เจอกับการ์ดที่ดักเอาไว้ที่บันได ผับนี้หรูมากเลยนะมีตั้งสามชั้น ไม่คิดเลยว่าน้องฉันจะมาทำธุรกิจอย่างนี้ได้ เหลือเชื่อจริงๆ

“ไม่มีค่ะ แต่ฉันชื่อว่าเอิงเอยเป็นพี่สาวของโอบอ้อมหุ้นส่วนของที่นี่ น้องบอกฉันให้ติดต่อกับพายุเจ้าของผับค่ะ”

“แขกคุณพายุ? งั้นเชิญครับ”

โชคดีที่การ์ดว่าง่ายไม่ถามเยอะ

ฉันถูกเชิญมานั่งอยู่ภายในห้องวีไอพีแห่งหนึ่ง มีโซฟาตัวใหญ่หนานุ่มสีแดงเลือดหมูตั้งอยู่ตรงกลาง เป็นโซฟาแบบรูปตัวยูพร้อมกับมีโต๊ะเตี้ยกระจกสีดำตั้งไว้ด้านหน้า ทั้งที่มีวิสกี้อยู่ภายในแก้วที่เริ่มละลายมีไอน้ำเลอะลงมาบนโต๊ะกระจก

“อ่า โอเค ดูเหมือนพี่มึงจะขึ้นมาแล้วล่ะ”

ฉันได้ยินเสียงผู้ชายที่แหกปากและดูดุดัน ดูเหมือนว่าเขาจะคุยโทรศัพท์อยู่

เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบกับร่างสูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำปลดกระดุมสามเม็ดจนเผยให้เห็นแผงอกกำยำขาวเนียนน่าลูบไล้ กางเกงสแล็คสีดำทำให้เห็นสัดส่วนต้นขายาวเหยียดที่ชัดเจน

ใบหน้าหล่อจ้องมองฉันพร้อมกับดวงตาคู่ร้ายที่เพียงแค่มองก็รู้สึกว่าสะกดให้โลกทั้งใบหยุดหมุน ให้ตายสิ! ที่จริงฉันก็เคยเจอน้องคนนี้ตอนสมัยที่โอบอ้อมเรียนปีหนึ่งใหม่ๆ แต่ก็ไม่ได้เจอกันนานแล้ว

ไม่คิดเลยว่าจะหล่อขนาดนี้...

“พี่ของโอบอ้อมใช่มั้ย?” น้ำเสียงดุดันถามขึ้นไร้ซึ่งหางเสียงทำเอาฉันจากที่ตอนแรกอึ้งตะลึงงันได้สติ

“อ่า ใช่ค่ะ พอดีว่าเพื่อนพี่มาจัดเลี้ยงกันที่นี่แล้วอยากจะได้ส่วนลด”

“ไม่เจอกันนาน สวยขึ้นเยอะนะครับ” โอเค ประโยคที่สองมีหางเสียงขึ้นมาบ้าง ไม่ห้วนเหมือนตอนแรก แต่เอ๊ะ สวยงั้นเหรอ? ฮือ เด็กบ้า!

“หืม? เอ่อ ฮ่าๆ นั่นสินะ พี่เรียนจบมาตั้งปีนึงแล้ว จะสวยขึ้นคงไม่แปลก”

ตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยฉันมีแฟนแล้วปล่อยตัวจนโทรม พอเรียนจบมาเลิกกับภีมเลยทำตัวสวยขึ้น

“วันนี้มากับเพื่อนผมลดให้ แต่รอบหน้าถ้าพี่มาคนเดียวเดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”

อ่านั่นสินะ ก็นี่มันผับของพายุกับโอบอ้อม น้องคงแค่อยากจะเลี้ยงเพราะเป็นพี่สาวเพื่อนแหละ อย่าไปคิดเยอะ (แต่ในใจคิดไปแล้วร้อยแปดพันเก้า อ๊าย)

“เลี้ยงพี่เหรอ? ใจดีจังเลยอ่ะ ไว้มาหาคราวหน้านะน้องชาย”

ฉันหยอกกลับไป

“หึ ก็เอาดิ มาไม่กลัวกลัวไม่มา” เสียงพายุแค่นหัวเราะออกมาพร้อมกับล้วงกระเป๋ากางเกงสแล็คสีดำไปด้วย

ฮึ้ยย คนบ้าอะไร ยืนขำยังหล่อ ตายละ! นี่คิดอะไรอยู่เนี่ยยัยเอิง พอเลยๆ เลิกคิด

สรุปแล้วฉันก็ลงมาหาเพื่อนๆและหลังจากเช็คบิลออกมาก็พบว่าได้ส่วนลด10% และแน่นอนว่ามื้อนี้เพื่อนที่มาแจกการ์ดก็เป็นคนเลี้ยง

แต่พอถึงเวลาจะแยกย้ายกลับนี่แหละทำเอาฉันหนักใจ

“กลับด้วยกันสิเอิง เดี๋ยวฉันไปส่งเอง”

“ไม่เป็นไร ฉันกลับเองได้”

เพื่อนทุกคนแยกย้ายกันไปหมดแล้วเหลือเพียงแค่ฉันกับภีมที่ยังคงอยู่ในผับแห่งนี้

ร่างสูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาและทรงผมแสกกลางสไตล์เกาหลีเดินเยื้องย่างกายตรงเข้ามาหาฉันแล้วจับเข้าที่ข้อมือเล็ก

“ปล่อยนะภีม อย่ามาแตะเนื้อต้องตัวฉันแบบนี้”

ฉันพยายามสะบัดออกแต่เขาก็บีบมือเรียวเล็กแรงจนขึ้นเป็นรอยริ้วแดง

“จำไม่ได้แล้วเหรอ? ทำมากกว่าจับมือก็ทำกันมาแล้ว”

“ภีม! หยุดพูดแบบนั้นเดี๋ยวนี้นะ!” เขาจะมาพูดเรื่องบนเตียงข้างนอกไม่ได้นะ ทุกอย่างมันเป็นแค่อดีตไปแล้ว

“ทำไม? หรือว่าลีลาฉันสู้ไอ้คีรินไม่ได้”

คีรินที่ภีมพูดถึงเป็นแฟนเก่าสมัยมัธยมปลาย

“หยุดพูดจาทุเรศได้แล้ว นายนั่นแหละเป็นคนนอกใจฉันแล้วไปกับคนอื่น ทีแบบนี้จะมายุ่งทำไม!”

“ผู้หญิงเขาไม่ชอบก็ปล่อยไปเถอะ อย่าฝืนเลยมันดูทุเรศ”

แน่นอนว่าไม่ใช่เสียงฉัน แต่เป็นเสียงของ...

“พายุ!”

P A Y U | พายุ

สถานะ : เพื่อนของน้องชาย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel