EP : 14 : เมาเละ nc=
หึ! เป็นบ้าอะไรทำไมถึงปล่อยให้ตัวเองเมาขนาดนี้วะน้ำผิง ไม่กลัวเลยรึไงหรือต้องให้ได้บทเรียนว่าการเป็นผู้หญิงแล้วปล่อยให้ตัวเองเมาทั้งที่ออกไปดื่มคนเดียวสุดท้ายผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง!
แล้วดูแต่งตัวสิวะ? จะดึงลงหรือรั้งขึ้นก็ง่ายไปหมด จากสภาพมองตาเดียวก็รู้ว่าไม่ได้ใส่แม้แต่เสื้อชั้นในแต่ใช้สติ๊กเกอร์แปะแทน ไหนจะขาเรียวที่ด้านบนมีผ้าโง่ ๆ ปิดเอาไว้แต่คืบ เอามือล้วงเข้าไปนิดเดียวก็สัมผัสอะไรต่อมิอะไรของเจ้าของชุดได้แล้ว
ผมมองหน้าน้ำผิงด้วยอารมณ์โกรธจนถึงจุดเดือดก่อนจะตัดสินใจจอดรถข้างทางด้วยความรวดเร็วทันที!
“อือ~” ผมคงเหยียบเบรคแรงไปหน่อยคนเมาถึงได้ครางออกมาแถมยังเป็นเสียงครางที่แทบจะไม่ต่างจากเวลาที่ผู้หญิงมีอารมณ์
“...เราไม่ดูแลตัวเองจนทำให้พี่โมโหเองนะน้ำผิง” ผมพูดออกมาด้วยเสียงรอดไรฟันจากนั้นก็โน้มตัวไปหา กดปากลงไปที่ปากอวบอิ่มพร้อมกับมือที่วางลงบนขาเรียวนุ่มของเธอทันที!
“อื้อ~” เสียงขัดขืนที่ไร้เรี่ยวแรงดังออกมาแต่ผมไม่สนใจอะไรนอกจากจูบปากหวานที่ผมเคยจูบมาแล้วครั้งหนึ่ง กดปากลงแล้วสอดลิ้นเข้าไปในปากของเธออย่างไม่ลังเล ผมจูบน้ำผิงโดยที่เธอไม่คิดที่จะขัดขืน จูบที่แตกต่างจากครั้งก่อนเพราะครั้งนี้ผมใช้ลิ้นกวาดต้อนตวัดเลียลิ้นของเธอสลับกับขบเม้มริมฝีปากทั้งบนล่าง มือก็วางที่เอวคอดแล้วเริ่มลูบไล้และบีบเฟ้นผิวเนื้อของเธอบ้างตามแรงอารมณ์
“อืม~” แค่สัมผัสเธอนิดเดียวผมก็ปวดหนึบที่กลางร่างกาย ลูกชายของผมดันกางเกงจนรู้สึกอึดอัดไปหมด
ผมสอดมือกอดเอวคอดแล้วรั้งเธอให้ขยับมาหา ยกน้ำผิงให้ข้ามฝั่งมานั่งอบนตักแล้วจัดการจูบเธอด้วยความหื่นกระหายต่อให้เธอจะไม่ได้จูบตอบเพราะไม่มีสติก็ตาม
มือใหญ่ของผมวางลงที่หน้าอก ผมรู้ดีแต่แรกว่าเธอโนบราพอได้สัมผัสครั้งแรกลูกชายที่ก้นของน้ำผิงกดทับอยู่ก็กระตุกและปวดไปทั้งลำ
...ใหญ่
นมน้ำผิงใหญ่เต็มไม้เต็มมือมาก ยิ่งได้จับแล้วลงน้ำหนักมือบีบลงไปก็ยิ่งนุ่มและมันมือ ผมเริ่มบีบเฟ้นแรงขึ้นปากก็กวาดต้อนลิ้นของเธอไม่หยุดก่อนที่สุดท้ายตัวผมจะทนไม่ไหวเพราะอยากกินนมของน้ำผิงแล้ว
“...” ผมถอนจูบออกแล้วมองใบหน้าเธอที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงนิดหน่อย สภาพของเธอตอนนี้เซ็กซี่เกินไปจริง ๆ ผมแทบจะละสายตาจากใบหน้าสวยหวานแต่เซ็กซี่ของคนตรงหน้าไม่ได้แต่สุดท้ายก็ต้องจำใจเพราะปลายนิ้วกลางของผมเกี่ยวลงที่กลางร่องอกของเธอแล้วเรียบร้อย
“อ่าส์~” น้ำผิงทำให้ผมครางคำรามออกมาด้วยความหื่นกระหาย ผมอยากกดท่อนเอ็นที่ปวดไปทั้งลำเข้าไปในตัวเธอแล้วกระแทกแรง ๆ ซ้ำไปซ้ำมาไม่มีหยุดแล้วค่อยฉีดพ่นน้ำรักอุ่น ๆ เข้าไปในตัวเธอให้หมดทุกหยดในตอนนี้เลย พอคิดได้แบบนี้ผมก็ขยับข้อมือลงให้นิ้วกลางที่เกี่ยวเดรสเกาะอกของเธอไว้ดึงรั้งเศษผ้าที่เรียกว่าชุดลงมา
ครืด~
“...” ภาพเต้านมใหญ่ที่เห็นตรงหน้าทำผมแทบครั่ง ต่อให้เต้านมทั้งสองข้างจะมีสติ๊กเกอร์ปิดจุกแปะเอาไว้ก็ตาม แค่เต้านมกลมกลึงเป็นรูปสวยของเธอทั้งสองเต้าก็ทำผมอดทนไม่ไหวต้องก้มลงแล้วฝังปากกับจมูกลงไปสัมผัสมันแล้ว
ฟอด~
“อืม~” ผมสูดกลิ่นความหอมจากกลางเต้านมเข้าเต็มปอดจากนั้นก็ใช้ปากจูบซับผิวเนื้อบริเวณเต้านมไปเรื่อย ๆ ด้วยความหลงใหล จูบซ้ำ ๆ จูบไปทุกทั่วอนูของผิวเนื้อที่นูนขึ้นมาแต่จูบเท่าไหร่ผมก็ไม่พอใจสุดท้ายเลยขยับใบหน้าออกด้วยความจำใจแล้ววางมือลงบนเต้านมของน้ำผิงอีกครั้ง
“พี่จะกินนมเด็กดื้อทั้งคืนเลยดีไหม~” ผมถามคนเมาที่ไม่ได้สติเสียงพร่า พูดจบก็ดึงสติ๊กเกอร์แปะจุกออกแล้วมองไปที่ยอดอกเม็ดเล็ก ๆ สีชมพูระเรื่อตรงหน้า
อ่าส์~ ผมอยากจับน้ำผิงตรึงลงที่เตียงแล้วดูดนมเธอพร้อมกับขยับสะโพกกดท่อนเอ็นเข้าไปในตัวเธอทั้งคืน
ผมมองยอดอกข้างที่เป็นอิสระแล้วกลืนน้ำลายช้า ๆ ก่อนจะเบนสายตามองใบหน้าสวยแล้วกดจูบลงที่ปากเธอแผ่วเบาจากนั้นก็ผละออกเพื่อมองยอดอกของเธออีกครั้งแล้วค่อยก้มลงไปหาช้า ๆ ลงไปหายอดอกสวยที่ผมไม่เคยได้ดูดกิน ไม่แม้แต่จะเคยเห็นมันตอนที่โตเต็มตัวแล้ว...ไม่เหมือนคนอื่น
“...” ความคิดที่เพิ่งเผลอคิดผุดขึ้นมาตอนที่ปากของผมสัมผัสโดนยอดอกของเธอแผ่วเบาแต่ก่อนที่ผมจะใช้ปากอมยอดอกของเธอผมก็ชะงักตัวเองเอาไว้
“...” ผมไม่ปฏิเสธว่าการที่ผมรักเธอมันทำให้ผมอยากมีอะไรกับเธอมาหลายต่อหลายครั้ง ผมอยากทำมันกับเธอมาตลอดตั้งแต่ที่ผมเริ่มเป็นหนุ่ม ตั้งแต่ครั้งแรกในชีวิตที่มีอารมณ์ใคร่ อยากทำมัน...เหมือนที่คนอื่นได้ทำกับเธอ แต่มันสมควรเหรอวะไอ้เมฆ กับคนอื่นเขาเต็มใจ เขามีสติแต่ครั้งนี้เขาไม่มี
...มึงกล้าทำแบบนั้นจริง ๆ เหรอ?
“อ่าส์!” ผมผละออกในทันทีพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาจนเกิดเสียงดังเพราะความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ในหัวใจ ผละออกพร้อมกับเบือนหน้าออกไปด้านนอกรถแล้วใช้มือดึงชุดของเธอขึ้นเพื่อให้มันปิดหน้าอกของเธอทั้งหมดจากนั้นก็จับน้ำผิงไปนั่งที่เดิมถึงแม้ว่าผมจะยังมีความต้องการเธอมากแค่ไหนก็ตาม
“อือ~” น้ำผิงส่งเสียงครางออกมานิดหน่อยแล้วก็เริ่มปรือตาทำให้ผมรีบดึงสติของตัวเองกลับคืนแล้วขับรถด้วยความเร็วสูงเพื่อพาเธอไปให้ถึงบ้านให้เร็วที่สุด
มันต้องไม่ใช่แบบนี้ไอ้เมฆ มันต้องไม่ใช่มึงเป็นคนแรกที่นอนกับเขาโดยที่เขาไม่เต็มใจสักนิดเหมือนที่เขาเต็มใจนอนกับคนอื่น!
-สิบห้านาทีต่อมา-
ผมจอดรถหน้าบ้านใหญ่แล้วเปิดประตูรถให้เธอแต่ก่อนที่จะอุ้มลงจากรถก็ลองเรียกเธอก่อน
“น้องผิง น้องผิง”
“...อือ~” น้ำผิงส่งเสียงครางขานรับช้า ๆ แล้วค่อย ๆ ปรือตามองผม
“เดินไหวไหม”
“อือ~ ที่หนาย~”
“บ้าน ถึงบ้านแล้ว”
“อึก! ผีงมาว~ อึก! ผีงมาวเหรอ~” น้ำผิงขยับตัวช้า ๆ วาดขาเรียวลงมาข้างหนึ่งพยายามปะป่ายไปทั่วเพื่อพยุงตัวเอง
“ไหวไหม พี่อุ้มดีกว่า”
“อือ~ พี่หนาย~” น้ำผิงถามพร้อมกับเงยหน้าแล้วปรือตามองผมซึ่งผมก็ปล่อยให้มองเพราะอยากเช็คสติของเธอเหมือนกันว่าพอจะมีบ้างรึเปล่า สายตาปรือมองผมพร้อมกับการโงนเงนของร่างกายก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นชี้นิ้วมาที่ผมเหมือนคนไม่มีแรง
“อึก! นี่มานพรี่~ พี่เม๊ก~ นี่นา~” หึ ๆๆ ตลกว่ะ เมาเละเป็นบ้าแต่ก็...น่ารักดี
“เราเมามากให้พี่อุ้มดีกว่าจะได้ถึงห้องเร็ว ๆ” ผมบอกเพราะสภาพแบบนี้แค่จะยืนให้ตรงยังไม่ได้เลย พูดจบผมก็ช้อนตัวเธอทันทีโดยที่เธอไม่ได้ปฏิเสธอะไรแต่ก็คงเพราะเมานั่นล่ะ เวลาปกติคงยอมให้กาฝากอย่างไอ้เมฆอุ้มหรอกมั้ง
“อือ~” น้ำผิงกอดคอผมแล้วซบหน้าลงที่ไหล่ เธอปล่อยให้ผมอุ้มแล้วพ่นลมหายใจอุ่น ๆ ที่มีกลิ่นเหล้าปะทะผิวตรงคอทำให้ผมที่พยายามกดอารมณ์บางอย่างเอาไว้เริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้ง อ่าส์~ ทรมานว่ะ
ผมไม่ชอบความรู้สึกตอนนี้เลยต้องรีบสาวเท้าขึ้นชั้นสองแล้วตรงไปที่ห้องนอนของเธอที่ไม่ได้ย่างเท้าเข้าไปข้างในมานานมากแล้ว เปิดเข้าไปแล้วจัดการวางเธอลงบนเตียงทันทีก่อนจะเปิดไฟที่หัวเตียงให้เธอ
“อือ~” น้ำผิงครางแล้วขยับตัวนอนแต่มันดันเป็นท่านอนที่ดูเซ็กซี่ยั่วยวนมากจนทำให้ผมต้องกำมือตัวเองแน่นเพื่อข่มอารมณ์เอาไว้
“..ถ้าคืนนี้ไอ้เพลิงไม่เจอตอนนี้หนูจะอยู่ห้องผู้ชายที่ไหนน้องผิง” ผมอดพูดออกมาไม่ได้ ไม่อยากจะคิดเลย ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ พรุ่งนี้เช้าน้ำผิงจะเป็นยังไง เจอคนที่มันแค่อยากมีเซ็กส์ก็ดีไปแต่ถ้าไม่ใช่แค่นั้นแล้วที่สำคัญถ้าไม่ใช่คนเดียวล่ะ?
น้ำผิงจะมีชีวิตยังไงถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นกับเธอ อย่าว่าแต่เธอเลยเพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าถ้าเกิดเรื่องเลวร้ายแบบนั้นกับเธอขึ้นมาผมจะอยู่ยังไงเหมือนกัน
“...” ช่างเถอะอย่าคิดเรื่องร้ายให้ปวดหัวเลยไอ้เมฆ ยังไงซะน้องผิงของมึงก็ถึงบ้านถึงเตียงนอนอย่างปลอดภัยแล้ว ที่เหลือก็ปล่อยให้คนเมานอนพักผ่อนก็แล้วกัน
ผมมองเธอนิดหน่อยเพราะไม่กล้ามองนานจากนั้นก็หันหลังเดินไปที่ประตู ตี 3 แล้วครับโชคดีที่พรุ่งนี้ไม่มีประชุมหรืองานสำคัญไม่งั้นผมก็แย่เหมือนกัน
“อือ~ พรี่เม๊ก~” เดินเกือบถึงประตูน้ำผิงก็เรียกผมขึ้น
“อื้ม มีอะไรครับ” ผมหันกลับไปถามคนเมาที่น่าจะแค่เรียกเพราะเมามากกว่า
“หาย อึก~ หายไปหนายกับเมียมา~”
“เมีย?” คำพูดของเธอทำให้ผมต้องทวนคำพูดด้วยความงงพร้อมกับมองไปที่เตียงที่ตอนนี้เธอกำลังนอนและมองมาที่ผมอยู่
“อึก~ หายปายกับเมียตัวจีง~ แล้วป่อยห้ายผีงหยู่โคนเดียว~”
“...” ผมยืนฟังคนเมาพูดแล้วก็เริ่มปะติดปะต่อคำพูดของเธอได้ น้ำผิงน่าจะพูดถึงเรื่องเมื่อกลางวันที่ผมออกไปกินข้าวกับเชียร์แล้วไม่ได้กลับเข้าบริษัทอีกแต่เชียร์ไม่ใช่เมียผม เด็กดื้อที่เมาไม่รู้เรื่องเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้วและมันทำให้ผมต้องเดินกลับไปหาเธอต่อให้เธอจะพูดออกมาเพราะความเมาก็ตาม
“อย่าพูดแบบนี้น้องผิง เชียร์เป็นแค่เพื่อนไม่ใช่เมียพี่อย่างที่เราเข้าใจ” ผมยืนอยู่ข้างเตียงแล้วบอกเธอที่กำลังนอนมองผม แต่...หน้าอกข้างหนึ่งของน้ำผิงไม่มีสติ๊กเกอร์ปิดจุกเอาไว้ยอกอกก็เลยนูนออกมาทำให้ผมต้องพยายามห้ามใจไม่ให้มองตรงนั้นทั้งที่มันห้ามยากเหลือเกิน
“เมีย~”
“ไม่ใช่ครับ เชียร์ไม่ใช่เมียพี่”
“อย่ามาโก~ โหก! ออกปายกับเมียแล้วทิ้งผีง~” น้ำผิงยังเถียงต่อทำเอาผมเผลอยิ้มกับตัวเองที่คิดจะเถียงคนเมา
“พี่ไม่ได้ไปทำอะไรเสียหายแล้วกัน เรานั่นแหละ เป็นอะไรทำไมออกไปดื่มคนเดียวจนเมาเละ ถ้าโดนผู้ชายลากไปข่มขืนจะทำยังไง” ผมถามแล้วก็แอบดุออกมาด้วยทำให้คนเมามองมาที่ผมด้วยสายตาปรือของเธอแต่ไม่พูดอะไรสักคำ
“ว่าไงคนเมา ไม่คิดจะตอบพี่หน่อยเหรอ เป็นอะไรทำไมถึงได้ไปดื่มจนเมาเละขนาดนั้นครับ” ผมถามอีกครั้งเผื่อคนเมาจะตอบ ผมอยากรู้มากเหมือนกันว่าเธอมีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึเปล่าเพราะเธอไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน
“อกหัก~” น้ำผิงตอบออกมาเบา ๆ แล้วก็ยังเอาแต่มองผม แต่คำตอบของเธอทำให้ผมเจ็บแปล็บในใจ
“เป็นอะไร ทะเลาะกับไอ้... / โอกหากจากพรี่เมฆงายอ้ายโคนเฮงซ๊วย!”