MY IDOL EP : 2
2
"ผู้จัดการนายขุนเขา!"
"เบา ๆ สิขนม" เจ๊ดาวรีบเอามือมาปิดปากฉันทันที ก็จะให้เบาได้ยังไงล่ะ อยู่ ๆ จะให้ฉันไปเป็นผู้จัดการใครก็ไม่รู้ นายขุนเขาอะไรนั่นอาจจะดังก็จริง เดินไปไหนมาไหนก็เห็นตามป้ายโฆษณาเต็มไปหมด มีแต่คนชอบทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ฉันไม่ได้ชอบไง ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเพราะอะไร พระเอกในดวงใจของฉันมีแค่พี่มาริโอ้คนเดียวเท่านั้นแหละ
อีกอย่างคือฉันรู้ว่าเจ๊ดาวอยู่คอนโดเดียวกันกับนายนั่นด้วยไง และถ้าฉันยอมช่วยมันก็หมายความว่าฉันจะต้องไปอยู่ที่นั่นอย่างนั้นน่ะเหรอ
"ดีนะที่ยังเช้าอยู่ คนเลยไม่ค่อยเยอะ" ว่าจบเจ๊ดาวก็หันมามองค้อนใส่ฉัน
"ขอโทษค่ะ" ไม่ได้อยากจะเสียงดังหรอกนะ ก็คนมันตกใจหนิ
“ว่าแต่... เขาอยู่คนเดียวไม่ได้เหรอคะ" อยากรู้จริง ๆ นะ อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว อยู่คนเดียวไม่ได้รึไงกัน
"ไม่ได้หรอก ตอนนี้ขุนเขากำลังเป็นที่นิยม งานก็เลยเข้ามาค่อนข้างเยอะ จะปล่อยให้อยู่คนเดียวได้ยังไง" เจ๊ดาวพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ สีหน้าก็ยังคงเป็นกังวลอยู่เหมือนเดิม
"เจ๊คะ ไม่ใช่ว่าหนูไม่อยากช่วยนะคะ แต่หนูกับเขาไม่ได้รู้จักนิสัยใจคอกันดีพอที่จะอยู่ด้วยกันหรือทำงานด้วยกันได้ " ฉันพยายามอธิบาย โดยใช้เหตุผลให้มากที่สุด
"เจ๊รู้ แต่เราคุยกันแล้วล่ะ ขุนเขาบอกว่าเจ๊ไว้ใจใครเขาก็ไว้ใจด้วย " เจ๊ดาวไม่มองหน้าฉันเลย เอาแต่จ้องหน้าจอโทรศัพท์ที่มีรูปครอบครัวเป็นวอลเปเปอร์
เฮ้อ! เอาไงดีวะ จะไม่ช่วยก็สงสาร เจ๊เองก็ช่วยฉันมาเยอะแล้ว
"แล้วหนูต้องทำยังไงบ้างคะ" สุดท้ายฉันก็พ่ายแพ้ให้กับประโยคที่ว่า ‘บุญคุณต้องตอบแทน’ จนได้สินะ!
"ขนมจะช่วยเจ๊จริง ๆ ใช่ไหม" ได้ยินดังนั้นเจ๊ดาวก็รีบละสายตาจากหน้าจอขึ้นมายิ้มให้ฉันอย่างกับเด็กสองขวบ ซึ่งฉันก็ไม่ได้ตอบอะไร แต่ยิ้มและพยักหน้าให้เธอแทนคำตอบ
"งือออ ขอบคุณนะขนม" ว่าจบก็เอามือมาถูแก้มฉันอย่างอ้อน ๆ คิดว่าตัวเองอายุสองขวบรึไงกัน
"ไม่ต้องห่วงนะ เจ๊จะจดรายละเอียดทุกอย่างไว้ให้ ทั้งตารางงานและสิ่งที่ต้องทำ ถ้ามีงานใหม่เข้ามาอีกขนมก็แค่ดูว่าขุนเขาจะรับไหวไหม มันจะชนกับงานอื่นรึเปล่า "
"..."
"เจ๊ไว้ใจขนมนะ เจ๊ไม่ได้อยากรบกวนเราเลย เพียงแต่เจ๊ก็อยากไปอยู่กับครอบครัว อยากมีเวลาให้พวกเขาบ้าง"
"..."
"แล้วอีกอย่าง เงินส่วนแบ่งที่เจ๊จะได้จากขุนเขามันก็ต้องเป็นของขนมอยู่แล้ว ซึ่งมันอาจจะมากกว่ารายได้ที่เราทำงานอยู่ตอนนี้ด้วยซ้ำ " ฉันทำได้แค่นั่งฟังเจ๊ดาวอธิบายอย่างเงียบ ๆ
"ขนุนเองก็กำลังจะเข้ามหา'ลัยไม่ใช่เหรอ" จริงสิ ตอนนี้มันจะจบมอหกแล้ว เห็นบอกว่าจะเรียนต่อมหา'ลัยด้วย ซึ่งแน่นอนว่ารายจ่ายมันก็ต้องเยอะขึ้นอยู่แล้ว ลำพังถ้าจะให้มันยืมกยศ. ก็คงไม่พออยู่ดี
"ใช่ค่ะ แล้วเจ๊จะไปนานแค่ไหนคะ แล้วหนูต้องทำถึงเมื่อไหร่" ถ้ามันนานเกินไปก็ไม่ไหวนะ แค่วันเดียวฉันจะรอดรึเปล่ายังไม่รู้เลย
"สามเดือน"
"สามเดือน! อย่าบอกนะคะว่าหนูต้องทำสามเดือน" บ้าไปแล้ว
"อืม สามเดือน ไปแค่แป๊บเดียวมันก็ไม่หายคิดถึงสิ" เจ๊ดาวมองฉันแล้วระบายยิ้มน้อย ๆ แต่คุณพระ! ตั้งสามเดือน! นี่ถ้าไม่ใช่เจ๊ดาวที่คอยช่วยเหลือฉันมาตลอด และถ้าไม่ติดตรงที่ขนุนมันจะเรียนต่อนะ ฉันไม่ทำหรอก! ให้ตายเถอะ! ต้องไปอยู่กับใครก็ไม่รู้
"ก็ได้ค่ะเจ๊ หนูจะทำ" เอาวะ! เปลี่ยนงานมาก็เยอะแล้ว เปลี่ยนอีกสักงานจะเป็นไรไป ครบสามเดือนเมื่อไหร่ค่อยหางานใหม่ก็ได้ ถือซะว่ามันเป็นประสบการณ์ก็แล้วกัน
"ขอบคุณนะขนม ขอบคุณจริง ๆ " เจ๊ดาวเอามือมาจับฝ่ามือของฉันไว้พร้อมกับบีบมันแน่น
"แล้วเจ๊จะไปเมื่อไหร่คะ"
"คงเป็นอาทิตย์หน้า ขนมก็เริ่มงานอาทิตย์หน้าเลยนะ สู้ ๆ เจ๊เชื่อว่าเราทำได้ น่ารักจริง ๆ เลย" ชูสองนิ้วให้ฉันพร้อมกับเอามือมาเขี่ยคางฉันเล่นอย่างมีความสุข
"เจ๊ เราไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะคะ" ฉันทำเป็นมองค้อนอย่างไม่พอใจ แต่จริง ๆ ก็ไม่ได้ถือสาอะไรหรอก ฉันรู้ว่าเจ๊ดาวคงเหงา คนแก่ก็แบบนี้ล่ะนะ
"ฮ่า ๆ ๆ " แล้วเจ๊ดาวก็หัวเราะอย่างชอบใจ
“...” ฉันเองก็พยายามยิ้มและหัวเราะไปกับเธอด้วย แต่ในใจมันก็อดกังวลไม่ได้อยู่ดี ฉันต้องไปอยู่ไปเจอกับใครบ้างก็ไม่รู้ ต้องทำอะไรยังไงบ้าง จะรอดหรือจะร่วง ฉันเองก็บอกไม่ได้
เฮ้อออ เป็นไงเป็นกันวะ แล้วเจอกัน นายขุนเขา!
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
@Lucky Airport
"เดินทางปลอดภัยนะคะเจ๊ ขอให้อยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุขนะคะ ฝากบอกต้นไม้ด้วยว่าหนูคิดถึง" ฉันกอดเจ๊ดาวพร้อมกับอวยพรให้เธอไปด้วย
"โอเคจ้ะ เราก็เหมือนกันนะ ขอให้ทำงานอย่างราบรื่น เจ๊ฝากขุนเขาด้วยนะ" ว่าจบเราสองคนก็ผละออกจากกัน เหอะ เป็นห่วงเขาขนาดนี้แต่กลับไม่มีวี่แววของนายนั่นเลย ไม่คิดจะมาส่งเจ๊ดาวเลยรึไง นิสัยแย่จริง ๆ
"แล้วเขาไม่มาส่งเจ๊เหรอคะ" ที่ถามก็เพราะอยากรู้จริง ๆ
"เราลากันที่คอนโดเรียบร้อยแล้ว ถ้าขุนเขามาจริง ๆ สนามบินคงแตกกันพอดี ฮ่า ๆ ๆ " เอาเข้าไป อวยกันเข้าไปสิ
"จริงสิ ถ้าเจ๊ได้ไปเที่ยวเมืองโลซานน์อย่าลืมถ่ายรูปสวย ๆ มาฝากหนูด้วยนะคะ" ฉันอยากไปเที่ยวเมืองนี้มาก ๆ เลยนะ พอพูดถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์ฉันก็นึกถึงเมืองโลซานน์ และในหลวงรัชกาลที่๙ เพราะเมืองโลซานน์เป็นเมืองที่พระองค์และครอบครัวเคยอาศัยอยู่ในสมัยที่ยังทรงพระเยาว์
"ได้สิจ๊ะ เจ๊จะไปเที่ยวเทือกเขาแอลป์แล้วก็ทุก ๆ เมืองเลย เดี๋ยวจะถ่ายมาให้นะ ถ้ามีโอกาสเราไปเที่ยวด้วยกันนะขนม"
"ได้สิค่ะ หนูจะรอวันนั้นนะ"
"โอเคจ้ะ อ้อ อันนี้ของเรา เจ๊จดรายละเอียดทุกอย่างไว้ในนี้หมดแล้ว นี่ คีย์การ์ด ส่วนห้องของเราเจ๊เก็บของให้เรียบร้อยแล้ว มีอะไรก็โทร. หาเจ๊นะ" เจ๊ดาวยื่นสมุดขนาดเอห้ามาให้ฉันพร้อมกับคีย์การ์ดคอนโด
"หนูจะทำให้เต็มที่ เจ๊ไม่ต้องห่วงนะคะ" เจ๊ดาวเอามือมาลูบกลุ่มผมของฉันเบา ๆ ก่อนจะก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือ
"เจ๊ต้องไปแล้วนะ เครื่องใกล้จะออกแล้ว ขอบคุณอีกครั้งนะขนม แล้วเจอกันนะ"
"เดินทางปลอดภัยนะคะเจ๊ สวัสดีค่ะ"
"จ้า ไปแล้วน๊า" ฉันยกมือไหว้เจ๊ดาวก่อนที่เธอจะเดินลากกระเป๋าออกไปโดยไม่ลืมที่จะหันมาโบกไม้โบกมือลาฉันแล้วหายลับไปท่ามกลางผู้คนมากมาย
คราวนี้ก็เหลือแค่ฉันแล้วสินะ หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาฉันคุยกับขนุนเรื่องนี้แล้ว ทีแรกมันก็ไม่ยอมหรอกที่ฉันต้องไปอยู่กับผู้ชายตามลำพังสองต่อสอง แต่พอบอกไปว่าถ้ามันยังอยากเรียนต่อฉันก็จำเป็นต้องทำ แค่นั้นแหละค่ะ มันก็ยอมเฉยเลย น้องฉันนี่มันสุดยอดจริง ๆ
"ไปไหนต่อครับน้อง" พอฉันเดินกลับมาหารถแท็กซี่ที่จอดรออยู่หน้าสนามบิน พี่คนขับก็ถามขึ้น พอดีพี่แท็กซี่คันนี้เจ๊ดาวจ้างมาจากคอนโด ก่อนจะไปรับฉันที่บ้านเพื่อมาสนามบินพร้อมกัน
เฮ้อ! วันนี้แล้วสินะ
"ไปยูนิเวิร์ดคอนโดค่ะพี่"