คุณอาสุดหล่อ
“ปวดฉิ่งฉ่องจังเลย ปวดเวอร์ ๆ จนจะราดกางเกงอยู่แล้ว” เด็กหญิงนั่งมือกุมเป้า เมื่อนั่งเล่นได้ไม่นานก็มีอาการอยากเข้าห้องน้ำ หล่อนมองไปเห็นผู้เป็นแม่นั่งคุยงาน คำสัญญาที่ให้ไว้ก่อนมาว่าจะไม่ซนและไม่กวนแม่ทำงาน จึงทำให้เธอไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปหา จึงส่องสายตามองหาห้องน้ำ ซึ่งเธอมองสัญลักษณ์ออกเพราะครูสอนที่โรงเรียนแล้วจดจำ
“ห้องนั้นแหละ คุณครูเรย์บอกว่าห้องน้ำผู้หญิงจะมีคนใส่กระโปรงอยู่ข้างหน้า” เด็กหญิงลุกออกมาแล้วเดินหาห้องน้ำด้วยตัวเอง จนเห็นป้ายสัญลักษ์ที่คุ้นตา จึงมุ่งหน้าเพื่อเข้าไปปลดทุกข์ เธอจดจำสิ่งที่ครูและแม่บอกได้ดี จนทำกิจวัตรประจำวันได้โดยไม่ต้องผู้เป็นแม่
“เกือบฉิ่งฉ่องแตกเลย” เด็กหญิงทำกิจวัตรเสร็จเรียบร้อย จึงเปิดก๊อกล้างมือ ส่วนสูงของเธอที่มีไม่มากพอ จนเธอเขย่งเท้าใช้พุงพาดกับขอบอ่างขาห้อยโตงเตง แล้วเอื้อมมือไปเปิดก๊อกน้ำ แต่...
“เอ้า!! แขนไม่ถึง...จะทำยังไงดี...ขา ขาน้องไม่ถึงพื้นลงไม่ได้ คุณแม่ช่วยน้องด้วย ฮือ คุณแม่ขาน้องเจ็บพุง ฮือ ใครก็ได้ช่วยน้องด้วย” เด็กหญิงเริ่มรู้สึกหวาดกลัว เมื่อทุกอย่างเธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย ขาก็ไม่สามารถเยียบพื้น หากจะกระโจนลงก็กลัวหงายหลังหัวแตก คนในห้องน้ำตอนนี้ก็ไม่มี มันทำให้เธอกลัวจนร้องไห้สะอื้นออกมา เรียกหาผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงติดขัดไม่ชัดเจน เพราะท้องพาดลงขอบข้างหายใจไม่ค่อยเต็มอิ่ม “ช่วยน้องด้วย” เธอพยายามตะเบ็งเสียงเรียกให้คนช่วย แต่ก็ไม่มีใครได้ยินสักคน จนตอนนี้ร้องไห้น้ำตาไหล ท้องที่พาดขอบอ่างก็เริ่มเจ็บขึ้นเรื่อย ๆ
(หนู) เสียงของใครคนหนึ่งแว่วเข้ามา ทำให้เด็กหญิงรีบหันหน้าไปมองทั้งน้ำตา เป็นผู้ชายตัวสูงซึ่งเธอไม่รู้จักกำลังเดินปรี่เข้ามาใกล้ จากนั้นก็อุ้มเธอลงมา เขานั่งยอง ๆ ลงเสมอตัวของเด็กหญิง แล้วลูบหัวปลอบใจ น้ำตาของเด็กหญิงที่ไหลรินอาบแก้มทำให้เขารู้สึกสงสาร
“หนูมากับใครครับ ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้คนเดียว” ผู้ชายปริศนาเอ่ยถามน้องมะนาว ที่กำลังร้องไห้ยกมือปาดน้ำตา
“น้องมากับคุณแม่ อึก อึก น้องปวดฉิ่งฉ่องเลยมาเข้าห้องน้ำ จะล้างมือแต่ว่าน้องลงไม่ได้” เด็กหญิงบอกเล่าด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น คำพูดที่ช่างเจรจาทำให้คนฟังนั้นรู้สึกหลงรักและเอ็นดูเธอไม่น้อย “คุณอาเป็นใคร”
“อามาทำงานที่นี่ครับ”
“ไม่ได้เป็นโจรขโมยเด็กใช่ไหม?” เธอเอ่ยถาม เพราะแม่ของเธอจะบอกเสมอว่าอย่าพูดคุยกับคนแปลกหน้าหรือคนที่ไม่รู้จัก จึงทำให้เธอเอ่ยถามเขาออกไปแบบนั้นตามสิ่งที่คิดเหมือนเด็ก
“แน่นะคะ ฮึ ฮึก...”
“แน่ครับ...ไม่ใช่โจรขโมยเด็กแน่นอน”
“อึก อึก”
“เด็กดีไม่ร้องนะ” ชายปริศนาลูบหัวปลอบ พร้อมกับคำพูดแสนอบอุ่น จนทำให้เด็กหญิงรู้สึกปลอดภัย
“น้องกลัวตายบนอ่าง ลงไม่ได้และเจ็บตรงนี้เวอร์ ๆ เลยค่ะ” เด็กหญิงบอกเล่าทั้งน้ำตา พร้อมกับชี้นิ้วไปยังพุงแสนกลมที่มันยังรู้สึกเจ็บจากการกดทับ
“แล้วตอนนี้คุณแม่หนูอยู่ไหนเอ่ย” เขาถามด้วยน้ำเสียงละมุน
“คุณแม่ทำงานอยู่ในห้องนั้นค่ะ” เด็กหญิงชี้นิ้วบอกไปยังห้องเดิมที่เธอเดินออกมา
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวอาไปส่งหาคุณแม่ เพราะอาก็มาทำงานที่ห้องนั้นเหมือนกัน” เขาหยัดตัวลุกยืน แล้วเอ่ยชวนเด็กหญิง จับมือป้อม ๆ ของเธอให้เดินตาม
“คุณอาเป็นเทวดาเหรอคะ?” เด็กหญิงมะนาวผู้เดียงสาเดินขนาบข้าง ระหว่างทางบางครั้งเธอก็เงยมองเขาที่ตัวสูงและคิดสงสัย รูปหน้าที่โดดเด่น ทำให้เด็กหญิงมะนาวต้องออกปากถามตามประสา
“หืม?” ทำให้ชายปริศนาก้มมองหน้าเธอ และขมวดคิ้วสงสัยในสิ่งที่เด็กหญิงมะนาวเอ่ยถาม
“คุณอาหล่อเวอร์ ๆ เลยค่ะ หล่อเหมือนกับคนที่คุณแม่ชอบเลย”
“อะ เอ่อ...อย่างนั้นเหรอครับ” คำชมอย่างเดียงสาของเด็กน้อย แต่ทำเอาผู้ใหญ่รู้สึกเขินได้ เพราะรอยยิ้มสดใสของเธอมันมีเสน่ห์ จนเขารู้สึกเอ็นดูเพียงแค่การพบเจอกันโดยบังเอิญครั้งแรก
“ค่ะคุณอาสุดหล่อ” เด็กหญิงก็ยังคงปากหวานร่ำไป จนเขารู้สึกเขินอายในคำชมของเด็กน้อยจนแก้มแดง แพ้ในความน่ารักช่างพูดของเธออย่างกับต้องมนตร์
“ไปกัน...เดี๋ยวอาพาไปส่งหาคุณแม่นะ”
“ค่ะ”