บทที่ 3 ยอม
เมื่อฉันบอกแบบนี้ เฮียเฟยปาดน้ำตาออกจากใบหน้า แล้วเอื้อนเอ่ย “อย่าเพิ่งตาย เสียดายของ ไปอยู่กับผัวตำรวจคนรวย ดูดีมีน้ำมีนวลขึ้นมาเยอะนี่ งั้นก็รำลึกความหลังแล้วกัน”
“หมายถึงอะไรคะ กลับไปคบ…”
“อย่าเพิ่งคิดไปไกลขนาดนั้นสิ แค่ของเล่น ของเล่นน่ะเข้าใจไหม” เขาพูดได้เจ็บดี ไม่สิ เจ็บมากต่างหาก
“นานเท่าไหร่คะ” เอาสิ อยากให้ชดใช้ฉันก็จะทำให้ เราจะได้ไม่ติดค้างกันอีก
“จนกว่าฉันจะพอใจ”
“แบบนั้นไม่ได้ค่ะต้องกำหนดวันเวลาให้ชัดเจน”
“7 เดือน แต่ฉันอาจจะเบื่อเธอก่อนจะถึงวันนั้น”
“ค่ะ 7 เดือน จากนั้นเราอย่ารู้จักกันอีกนะคะ”
“แน่นอน เธอชดใช้แล้วฉันก็ไม่จำเป็นต้องรู้จักเธออีก อ้อ! อย่ามาหลงรักฉันอีกรอบนะ ฉันไม่รับผิดชอบความรู้สึกใคร”
“ค่ะ” ฉันไม่หลงรักเขาอีกรอบอยู่แล้ว เพราะว่าฉันยังคงรักเขาไม่เคยเสื่อมคลาย
“งั้นเริ่มกันเลยดีไหม” เฮียเฟยตั้งท่าจะเข้าหา
“ไม่ได้ค่ะ ถึงเวลารับลูกแล้ว ฉันต้องไปรับลูก” ฉันเบี่ยงตัวหลบเดินมาทางด้านหลังของเคาน์เตอร์ ซึ่งเปิดประตูก็จะเป็นตัวห้องนั่งเล่น
“ฉันไม่อยากเห็นหน้าเด็กนั่น” เฮียเฟยพูดตามหลังมา
“…”
“พยานรักของเธอ ฉันไม่อยากเห็น”
“แต่ฉันกับลูกอยู่ด้วยกันตลอด จะให้แยกกันเป็นไปไม่ได้ค่ะ” ฉันพูดโดยไม่หันไปมองหน้า
“ต้องได้”
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาไว้ชาติหน้าคุณค่อยมาทวงคืนนะคะ” เป็นตายยังไงฉันจะไม่มีทางปล่อยน้องปลายฝันให้ใครดูเด็ดขาด ฉันเลี้ยงมาแต่อ้อนแต่ออดและน้องปลายแกยังไม่สนิทกับแม่ฉันนัก
“ไปรท์” เฮียเฟยเรียกเมื่อฉันยังหันหลัง เขาจึงตะเบ็งเสียง “สไปรท์! มาคุยให้รู้เรื่อง”
“ขอร้องค่ะ ปลายฝันขาดฉันไม่ได้ ปลายฝันยังไม่คุ้นกับแม่ แกต้องอยู่กับฉันค่ะ ถ้าคุณอยากให้ชดใช้ช่วยเข้าใจข้อนี้หน่อยได้ไหมคะ” ฉันวางของแล้วยกมือไหว้เลยนะ ลูกสาวของฉันไม่ใช่เด็กที่จะผูกมิตรกับใครง่ายเท่าไหร่นัก แกต้องสนิทใจจริง ๆ ว่าคนนี้ปลอดภัย คนนี้โอเคถึงจะเล่นด้วย ซึ่งแม่ฉันปลายฝันรู้จักดี แต่ว่าแม่ต้องขายของ เตรียมของให้วุ่นตั้งแต่ตีสามตีสี่กว่าจะปิดร้านก็ค่ำมืด จะเอาเวลาไหนให้น้องปลาย ฉันไม่อยากรบกวนแม่ด้วย ฉันมาเพื่ออยู่ใกล้ ไม่ได้มาเพื่อเป็นภาระของแม่
“ก็ได้” แล้วเขาก็ยอมง่าย ๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่คงไม่ใช่ความสงสาร
“ขอบคุณค่ะ”
“คืนนี้เธอจะไปหาฉัน หรือให้ฉันมาหาเธอ” ฉันเข้าใจความหมายของคำว่าระลึกความหลังดี ทุกอย่างไม่พ้นเรื่องเซ็กซ์
“ฉันทิ้งลูกไม่ได้ค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวฉันมาเอง เอาไลน์มาแอด มาตอนไหนจะได้ทักหา”
“ค่ะ” ฉันทำตามที่เฮียเฟยต้องการทุกอย่าง
“7 เดือนนี้เธอเป็นของฉัน ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ได้เธอนอกจากฉัน หวังว่าเธอจะมีฉันแค่คนเดียวในระยะเวลานี้ได้นะ”
“ค่ะ ถ้าครบกำหนดแล้วเท่ากับฉันชดใช้ให้คุณหมดแล้วนะคะ”
“อืม”
“ตกลงเรียบร้อยแล้ว งั้นฉันขอไปรับลูกนะคะ”
“เชิญ”
“ขอบคุณค่ะ คุณออกประตูหลังบ้านนะ ประตูหน้าฉันล็อกไว้แล้ว”
“อืม”
ไม่เป็นไรไปรท์ แค่ 7 เดือน ทรมานกว่านี้ก็ผ่านมาแล้ว แค่นี้ไม่ตายหรอก และคงจะไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ถือว่าชดใช้ให้เขาที่เขาต้องมาเจ็บตัวเพราะฉัน ถือว่าชดใช้ความเจ็บปวดของเขา แม้ว่าความจริงแล้วจะชดเชยเท่าไหร่ก็ไม่พอ
“แม่ขา” น้องปลายยิ้มกว้างเมื่อเห็นฉันมารับที่ห้องเรียน แกวางของเล่นและคว้ากระเป๋าเดินมาหาฉันด้วยความดีใจ
“สวัสดีค่ะครู น้องปลายเป็นยังไงบ้างคะวันนี้”
“น้องปลายเริ่มคุยกับเพื่อนบ้างแล้วค่ะ ดีขึ้นมาบ้างแล้ว”
“ค่ะ ฝากลูกด้วยนะคะ แกคงต้องใช้เวลาปรับตัวอีกนิด”
“ได้ค่ะคุณแม่ สบายใจได้เลยค่ะ เดี๋ยวแกก็เคยชินกับที่นี่”
“นี่เค้กที่วางขายหน้าร้านค่ะ”
“ขอบคุณค่ะคุณแม่น่ารักอีกแล้ว รอบหน้าต้องคิดเงินแล้วนะคะ”
“ค่ะ งั้นลานะคะ”
“ค่า ขอบคุณสำหรับเค้กนะคะคุณแม่”
ฉันกับน้องปลายเดินออกมาหน้าโรงเรียน พาลูกขึ้นรถกลับบ้าน ระหว่างทางก็ชวนลูกคุย “วันนี้สนุกไหมคะ”
“สนุกค่า แม่ขาน้องปลายหิว”
“กลับไปแม่ทำข้าวผัดไข่ให้กินดีไหมคะ”
“ดีค่า น้องปลายชอบ” เป็นเมนูแสนง่ายที่น้องปลายชอบมาก ลูกสาวของฉันหันมายิ้มเป็นระยะ เมื่อสบตาคราวใดก็ยิ้มให้ฉันทุกครั้ง แบบนี้ไม่รักได้ไง
“ยิ้มให้แม่ขาแบบนี้ น้องปลายอยากได้อะไรคะ”
“น้องปลายอยากกินเค้กรอข้าวผัดค่าแม่ขา” ว่าแล้วเชียวไม่พ้นขนมเค้ก
“วันนี้เป็นเด็กดีหรือเปล่าคะ”
“น้องปลายเป็นเด็กดีทุกวันค่าแม่ขา จริง ๆ นะค้า”
“ก็ได้ค่ะคนเก่ง วันนี้แม่ให้กินเค้กก่อนกินข้าว แต่ต้องกินนิดเดียวนะคะ เดี๋ยวกินข้าวไม่ได้”
“รับทราบค่า รักแม่ไปรท์ขาที่สุดเลย” รอยยิ้มที่ส่งมาทำให้ฉันอิ่มเอมหัวใจทุกครั้ง จากที่เหนื่อยล้ากับงานและปัญหาในแต่ละวัน ฉันสามารถมีแรงฮึดสู้ได้เพียงแค่เห็นรอยยิ้มของเด็กคนนี้ อย่างน้อยก็รู้ว่าต้องมีชีวิตอยู่เพื่อเด็กน้อยคนนี้ไงคะ
“แม่ก็รักลูกขาที่สุดค่า”