EP 7 : ONS and First love
“พี่...ถ่ายคลิปทำไมวะ”
“มีแค่คลิปเสียง อัดไว้ตอนตกลงกันจะได้ไม่มีปัญหาทีหลังเหมือนที่กำลังเป็นนี่ไง”
“...ปัญหาอะไร?”
“ปัญหาที่สมยอมแล้วมาเรียกร้องทีหลังไง เข้าใจรึยัง?”
“...” ฉันไม่ได้โง่ เขาบอกแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาต้องการอะไร
พูดง่าย ๆ ก็คือ...น้ำแตกแล้วแยกทาง
ฉันรู้แต่ฉันไม่คิดว่าจะมีคนทำกับฉันขนาดนี้ ซิงของฉันถูกกระชากไปตอนไหนยังไม่รู้เลย ตอนนี้อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ที่สำคัญคือผู้ชายคนนี้นอกจากหล่อหุ่นดีแล้วเขาชื่ออะไรวะ!
“มีอะไรอยากคุยอีกไหม ถ้าไม่จะขอตัวไปอาบน้ำ”
“...หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ที่นี่ที่ไหน” เสียงฉันเบามาก ไม่อยากคุยกับเขาเลย มัน...ไม่รู้สิคะอธิบายความรู้สึกตอนนี้ไม่ได้เลย มันแย่ไปหมด
“เธอเมามากเลยพาขึ้นมาที่ห้องทำงานก่อน ตอนแรกก็แค่จะพามานอนพักแต่เธอรุก”
...รุก
นอกจากบอกว่าฉันสมยอมยังบอกว่าฉันรุกอีกเหรอ?
“...ไม่จริงอ่ะ” ฉันปฏิเสธถึงจะปฏิเสธช้าก็ตาม ฉันนี่นะจะไปรุกเขา? ไม่มีทางแน่นอนขนาดคนที่ชอบมาก ๆ มาตั้งแปดปีฉันยังไม่เคยรุกรู้ว่าเขามีแฟนแล้วฉันก็ถอยออกมานั่งอกหักทันทีโดยที่ไม่แสดงออกให้เขารู้ความรู้สึกของตัวเองให้อีกฝ่ายลำบากใจแล้วคนอย่างเซย์นิสคนนี้นี่นะจะไปรุกคนแปลกหน้า?
บ้าสิ้นดี!
“จะฟังให้ชัดอีกรอบไหมล่ะ”
“ไม่!”
“ถ้างั้นขอตัวไปอาบน้ำก่อน” เขาไม่ได้ขออนุญาตหรอกแค่บอกฉันตามมารยาทบ้างเท่านั้น พูดจบก็ลุกขึ้นยืนหน้าตาเฉยจนฉันแทบจะหันหน้าหนีแทบไม่ทัน!
“...” ฉันหันหน้าหลบภาพที่อาจจะอุจาดตาจนแน่ใจว่าเสียงประตูห้องน้ำหรือประตูอะไรสักอย่างถูกเปิดและปิดลงถึงได้รีบมองหาเสื้อผ้าของตัวเอง มันกองอยู่ที่พื้นข้างเตียงสภาพที่เห็นไม่น่าดูสักนิด ไม่อยากคิดไม่อยากจินตนาการเลยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่แม้แต่จะกล้าก้มลงมองร่างกายของตัวเองด้วยซ้ำ
“อ๊ะ!” ฉันขยับขาลงที่เตียงก็ต้องพบความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นตรงหว่างขา เจ็บมาก ร้าวระบมไปหมด ความรู้สึกยิ่งกว่าตอนไปยิมส์ครั้งแรกแล้วสควอชทีเดียวหนึ่งร้อยครั้งซะอีกแต่ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องฝืนทนความเจ็บแล้วรีบใส่เสื้อผ้าหยิบกระเป๋าของตัวเองเช็คของในกระเป๋าให้เรียบร้อยว่าไม่มีอะไรหลุดล่วงหายไปจากนั้นก็เดินไปที่ประตูทันที
กริ๊ก!
ฉันเปิดประตูห้องนี้ด้านนอกที่เห็นก็เป็นเหมือนห้องทำงาน อย่าบอกนะว่าเป็นห้องพักเจ้าของผับที่อยู่ในห้องทำงานอีกทีเหมือนในนิยายที่เคยอ่านมาหลายเรื่อง นี่อย่าบอกนะว่าห้องนอนแบบนี้ผ่านสมรภูมิมาเยอะแล้ว
ฉัน...จะติดโรคไหม???
กริ๊ก~
ฉันปิดประตูบานเดิมลงแล้วหันหลังกลับไปหาที่นั่งรอเขา ฉันยังกลับไม่ได้ ฉันยังมีเรื่องที่ต้องถามเขา ฉันกลับไม่ได้เด็ดขาดต่อให้ใจจะถึงคอนโดไปแล้วก็ตาม
ฉันนั่งรอเขาที่โซฟาตรงมุมห้องรอไม่นานเขาก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพผ้าเช็ดตัวพันเอวสอบไว้อย่างหมิ่นเหม่ เขามองมาที่ฉันโดยที่ไม่มีอาการเคอะเขินเลยสักนิดมีแค่คิ้วที่ยกขึ้นข้างหนึ่ง
“ไม่อยากอาบน้ำเหรอ อาบก่อนก็ดีนะจะได้สบายตัว”
“เมื่อคืนป้องกันใช่ไหม” ใครจะมีอารมณ์อาบน้ำในห้องผู้ชายแปลกหน้าตอนนี้ฉันแค่อยากรู้เรื่องนี้เรื่องเดียวว่าเขาป้องกันใช่ไหมเพราะท่าทางแบบนี้คงนอนกับผู้หญิงมาเยอะแน่ ๆ
“ฉันไม่เคยไม่ป้องกัน”
“แน่?”
“ถังขยะอยู่ตรงนั้น ดูได้”
“...” ฉันมองมือเขาที่ชี้ไปตรงจุดหนึ่งแต่ฉันไม่ได้มองตาม ฉันไม่กล้ามองเพราะรู้แก่ใจว่าเขาจะให้ไปดูอะไร
“ว่าไง ดูสิ”
“...ฟู่ว์~ โอเคค่ะ” ฉันไม่ดูแต่เลือกถอนหายใจด้วยความโล่งอกจากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วเดินช้า ๆ ตรงไปที่ประตูห้อง ที่เดินช้าไม่ได้อยากให้เขารั้งไว้เพื่อแสดงความรับผิดชอบหรอกนะเพราะจากการแสดงออกตั้งแต่แรกก็รู้แล้วว่าไม่รับผิดชอบหรอกแต่ฉันเจ็บตรงนั้นจนเดินลำบากต่างหาก
“ให้ลงไปส่งไหม”
“ไม่ต้อง”
“ออกไปเลี้ยวซ้ายจะเจอบันได ลงไปแล้วเลี้ยวขวา ตรงไปนิดหน่อยแล้วเลี้ยวซ้ายจะเป็นทางออกหลังร้าน กดปุ่มที่ประตูเปิดออกไปได้เลย”
“...” ฉันไม่ตอบอะไรแค่ฟังแล้วเดินออกมาจากห้องนี้ ไม่จำเป็นต้องขอบคุณที่บอกทางหรอกเพราะเมื่อคืนสู้เขาปล่อยฉันให้นอนเมาตากยุงอยู่ข้างรถหรืออยู่ที่เดิมยังดีกว่า
แอด~ / แอด~
“เร็ว ๆ เลยค่ะ”
“ครับ~ เร็วแล้วครับที่รัก~”
“...” ฉันมองตามเสียงที่ดังอยู่ไม่ไกลเพราะมีคนอยู่แถวนี้ เพิ่งเปิดประตูเตรียมออกไปแต่ได้ยินเสียงคนซะก่อนเลยชะงักขาตัวเองไว้ ฉันไม่กล้าออกไปให้ใครเห็นหรอกค่ะ ออกไปคนข้างนอกก็รู้สิว่าเมื่อคืนฉันคือคู่นอนของเจ้าของผับนี้ ยิ่งเจ้าของเสียงที่ได้ยินยิ่งทำให้ฉันไม่กล้าออกไปเด็ดขาดเสียงผู้หญิงฉันไม่คุ้นหรอกแต่เสียงผู้ชายต่อให้ไม่ได้เจอกันมานานฉันก็จำได้ขึ้นใจอยู่ดี
“เร็วแต่ไม่ออกมาสักที”
“ไม่อยากให้ช้าทีหลังปริมก็อย่าสะกิดพี่ตอนเช้าสิคะจะได้กลับบ้านเร็ว ๆ”
“พี่แฟรงค์!”
“...”
“ฮ่า ๆๆ แซวเล่นครับเมีย~ ไปกันดีกว่า กลับบ้านกัน”
กริ๊ก~
“...” ฉันปิดประตูเบา ๆ หลังได้ยินคำพูดหยอกล้อของคู่รักคู่หนึ่ง ปิดประตูห้องที่เพิ่งเปิดแต่ยังไม่ก้าวเท้าออกไปแล้วเดินแบบคนที่ไม่อยากรับรู้อะไรไปทิ้งตัวนั่งที่โซฟาขนาดใหญ่
เมื่อวานฉันอกหักจากรักแรกที่แอบรักมานานแปดปี
เมื่อคืนฉันนั่งดื่มจนเมาเละกับคนแปลกหน้า
เมื่อเช้าฉันตื่นขึ้นมาบนเตียงพร้อมผู้ชายคนนั้น
และตอนนี้ที่ฉันเพิ่งผ่านเหตุการณ์แย่ ๆ ในชีวิตมาฉันกลับต้องมาบังเอิญได้ยินรักแรกของฉันคุยกับ เมียของเขา อย่างหวานชื่น
ฉันต้องมารับรู้ว่าข้างห้องที่ฉันเพิ่งเสียเวอร์จิ้นให้ใครก็ไม่รู้ไปมีคนที่ฉันแอบชอบมานานถึงแปดปีนอนอยู่กับเมียของเขาและเพิ่งทำอะไรกันไปในตอนเช้าน่ะเหรอ?
ทำไมโลกใจร้ายกับฉันจัง ใจร้ายทั้งกับร่างกายและความรู้สึกของฉันเลย...
แอด~
“ยังไม่กลับเหรอ” ฉันไม่รู้ว่าตัวเองนั่งตั้งสตินานแค่ไหนแต่รู้ตัวอีกทีก็มีน้ำเสียงที่ทุ้มแต่ไม่บ่งบอกความรู้สึกดังขึ้นร่างกายเลยหันไปมองที่เสียงนั้นโดยอัตโนมัติ
“...มึน ๆ หัวเลยนั่งพักก่อน” ไม่รู้เหตุผลของฉันจะฟังขึ้นไหมแต่ได้โปรดเถอะอย่าได้คิดว่าที่ยังนั่งอยู่ตรงนี้เพราะอยากอ่อยเขาเลยเพราะฉันไม่มีความคิดนั้นจริง ๆ
“ให้ไปส่งรึเปล่า”
“ไม่เป็นไร” ฉันปฏิเสธก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน
ไปแล้วมั้ง คงไม่อยู่กันแล้วล่ะเขาคุยกันว่าจะรีบกลับบ้านนี่คะ ลงไปตอนนี้คงไม่เจอหรอก
“ถ้างั้นลงไปพร้อมกันเลยก็แล้วกัน” เขาบอกเพราะสภาพเขาก็ดูเหมือนพร้อมออกไปข้างนอกแล้ว
“ขอล้างหน้าสักนิดได้รึเปล่า” ไม่ได้ประวิงเวลานะคะฉันแค่รู้สึกว่าตัวเองอยากล้างหน้าให้สดชื่นเผื่ออะไรจะดีขึ้น พอถามเขาก็พยักหน้าฉันเลยเดินกลับไปที่ประตูบานเดิม
“ถ้าอยากอาบน้ำก็ตามสบาย” เสียงเขาดังไล่หลังแต่ฉันไม่ได้ตอบอะไร ไม่อาบหรอกแค่ล้างหน้าก็พอแล้ว
ฉันพาตัวเองเดินกลับเข้ามาในห้องนอนห้องเดิม พยายามไม่มองไปที่เตียงแพราะเมื่อกี้เผลอมองแล้วหัวใจมันบีบรัดยังไงก็ไม่รู้ ฉันรีบตรงไปที่ห้องน้ำ เข้ามาถึงก็เห็นแปรงสีฟันที่ยังไม่ได้ใช้วางอยู่เลยแอบแปรงฟันนิดหน่อยแล้วล้างหน้าให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้รีบออกไปจากที่นี่ ล้างเสร็จก็มองตัวเองผ่านกระจกและต้องตกใจจนแทบร้องไห้ที่เห็นรอยแดงเต็มเนินอกไปหมดเลย
ฉันจะกล้าเดินขึ้นคอนโดในสภาพเพิ่งถูกรุมโทรมได้ยังไง
“พี่” ฉันล้างหน้าเสร็จก็เดินออกมาหาเขาที่นั่งรออยู่ด้านนอก
“พร้อมรึยัง”
“มี...มีเสื้อหรืออะไรให้ยืม ไม่ ๆๆ ไม่ยืม ขอเลยจะได้ไม่ต้องเอามาคืน มีไหมจะเอามาคลุมตัว” ฉันบอกเขาเพราะชุดฉันโป๊ ไอ้โป๊มันไม่เท่าไหร่แต่รอยดูดมันเยอะเกินไป
“อ่อ โอเค รอแป๊บนึง” เขาพยักหน้ารับแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องนั้นอีกรอบก่อนจะเดินกลับออกมาพร้อมเชิ๊ตสีขาวแล้วเอามายื่นให้ฉัน
“ไม่คืนนะ” ฉันย้ำคำนี้เพราะไม่อยากเอากลับมาคืน
“อื้ม” ฉันรับมาและเหมือนเดิมคือไม่มีคำขอบคุณ ไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำนี้หรอก ฉันรีบสวมแล้วเดินไปที่ประตูโดยไม่รอเขาทันทีแต่เขาก็เดินตามหลังมา ฉันจำทางที่เขาบอกได้เลยเดินนำหน้าอย่างไม่ลังเลจนกระทั่งเลี้ยวซ้ายสุดท้ายเรียบร้อยขาฉันก็ชะงัก
“อืม~ / อื้อ~” ฉันมั่นใจว่ากำลังจะใกล้ถึงทางออกหลังร้านอย่างที่เขาบอกแล้วแต่สิ่งที่อยู่ไม่ไกลห่างไม่ถึงสิบเมตรก็ทำให้ฉัน...ทำอะไรไม่ถูก
พวกเขา...ยังไม่ไปไหนเหรอคะ?
“ไอ้แฟรงค์” เสียงคนที่อยู่ข้างหลังฉันเอ่ยปากเรียกชื่อคนที่อยู่ตรงเบื้องหน้าด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแต่แอบดุดันทำให้คู่รักที่กำลังจูบและลูบไล้กันอย่างดูดดื่มแถถมเสื้อผ้าก็เริ่มจะหลุดลุ่ยชะงักผละออกจากกันอย่างรวดเร็วแล้วหันมามองทางนี้ที่มีฉันกับเขายืนอยู่
“เฮีย!” พี่แฟรงค์ของฉัน ไม่สิ พี่แฟรงค์รุ่นพี่ของฉันต่างหาก เขาหันมามองแล้วเรียกผู้ชายคนนั้นด้วยความตกใจส่วนผู้หญิงที่พี่แฟรงค์กำลังจูบก็หน้าซีด หน้าเธอดูตกใจมาก ๆ ที่มีคนมาเห็นแต่ให้ตายเถอะต่อให้หน้าตาจะตกใจแค่ไหนฉันก็ยังเห็นชัดว่าเธอสวยมากจนน่าอิจฉา
“...เซย์~” พี่แฟรงค์ตกใจเพราะเขาทักแล้วแต่พอมองมาที่ฉันเขาก็ตกใจมากกว่าเดิม ฉันเองตอนนี้ก็ไม่รู้แล้วว่าควรตกใจที่เห็นพี่เขาจูบกับเมียหรือตกใจที่พี่เขามาเห็นฉันเดินลงมาพร้อมผู้ชายที่เขาเรียกว่าเฮีย
“ทำอะไรรุ่มร่าม อยากมากก็ขึ้นไปทำที่ห้องทำงานมึง” เสียงเขาดุ แข็ง เย็นยะเยือกจนน่ากลัว
“โทษทีเฮีย แล้วนี่...ไหนเราบอกพี่ว่ากลับบ้านไม่ใช่เหรอไอ้เซย์” พี่เขาดูไม่ได้สนใจเรื่องที่มีคนมาเห็นเขาจูบกับเมียเขาเท่าที่เห็นฉันอยู่ที่นี่เวลานี้แล้วล่ะค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าฉันเป็นเขาก็คงสนใจเรื่องนี้มากกว่าเรื่องอื่นเหมือนกัน
“รู้จักกันเหรอ” ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังขยับเดินมาหยุดอยู่ข้างฉัน ลำตัวเขาอยู่ติดกับฉันด้วยซ้ำแต่ฉันในตอนนี้ทำอะไรไม่ถูก แม้แต่จะขยับออกห่างยังทำไม่ถูกเลย
“รู้จักเฮีย ว่าแต่...รู้จักกันเหรอ” ไม่รู้ ไม่รู้จักหรอก แต่...มีอะไรกันแล้ว T^T
“อืม รู้จัก ไม่รู้จักจะลงมาพร้อมกันได้ยังไง” ...ขอบคุณนะ ถึงยังไงการโกหกคนอื่นว่ารู้จักกันก็ดีกว่าบอกว่าไม่รู้จักแน่นอน เอาเถอะ ขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน
“ไม่เห็นบอกพี่วะไอ้เซย์ว่าแกกับเฮีย... / พี่แฟรงค์กลับกันเถอะค่ะ” เมียของพี่แฟรงค์ที่หน้าซีดตั้งแต่โดนเห็นว่ามายืนจูบแถมกำลังจะถอดเสื้อผ้าของกันและกันกระตุกเสื้อพี่แฟรงค์เบา ๆ พร้อมกระซิบบอก ผู้หญิงคนนี้คงอายที่มีคนมาเห็นเลยไม่กล้าสบตากับใคร ฉันเข้าใจค่ะเพราะขนาดฉันแค่ลงมาจากห้องทำงานที่มีห้องนอนอยู่ในนั้นด้วยพร้อมเจ้าของห้องฉันยังอายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้ว
“มึงพาเมียมึงกลับเถอะไอ้แฟรงค์...อายใหญ่แล้วที่กูสองคนมาเห็นตอนพวกมึงเกือบเอากัน”