ตอนที่1
ย้อนกลับไปเมื่อ8ปีก่อน
บ้านของ เอริ….
07:00น.
เอริ ฐิติมน….
ติ๊ดๆๆๆๆๆ
“อื้อ!”ฉันขยับตัวไปมาและดีดตัวตรงทันทีที่ได้ยินเสียงของนาฬิกาปลุกที่ข้างหัวเตียงนอนของฉันพลางเอื้อมมือไปกดปิดนาฬิกาปลุกที่ส่งเสียงดังอยู่ในขณะนี้ให้ปิดลงทันที
พรึบ
“อื้อออออ…”ฉันบิดตัวไปมาเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายก่อนจะลุกขึ้นจากที่นอนหยิบผ้าขนหนูมุ่งหน้าไปยังห้องอาบน้ำเพื่อจะอาบน้ำและแต่งตัวไปมหาลัย
ฉันชื่อเอริ ชื่อจริง นางสาว ฐิติมน ยิ้มมโหทัยอายุตอนนี้ก็ยี่สิบปีบริบูรณ์ กำลังเรียนอยู่ที่มหาลัยเอกชนชื่อดังที่ค่าเทอมแพงแสนแพงนี้ขนาดฉันใช้ความสามารถสอบเข้าน่ะเนี่ยยังแพงอ่ะ ฉันเรียนคณะบริหารธุรกิจปีสองแล้วแหละ และที่ฉันต้องตื่นสายแบบนี้ก็เพราะว่าฉันทำงานพาร์ทไทม์ดึกไปหน่อยน่ะ ฉันเป็นเด็กเหนือบ้านอยู่เชียงใหม่เจ้า ผิวของฉันเลยขาวอมชมพูละเอียดกว่าคนที่นี้หน่อยริมฝีปากก็สีชมพูระเรื่อโดยไม่ต้องแต่งเติมและอีกอย่างฉันมีหน้าตาที่ดีเข้าขั้นสวยเลยก็ว่าได้เพราะฉันเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น แม่เป็นคนญี่ปุ่นพ่อเป็นคนไทยฉันเลยกลายเป็นผู้หญิงตัวเล็กผิวขาวจมูกโด่งแก้มป่องๆน่ารักๆเพราะได้เชื้อแม่ที่เป็นคนญี่ปุ่นมาเต็มๆถึงฉันจะเป็นคนลูกครึ่งแต่ฉันไม่ได้รวยหรอกนะ ออกจะจนเสียด้วยซ้ำไป แม่ฉันกลับญี่ปุ่นไปตั้งแต่คลอดฉันได้สองวัน ส่วนพ่อก็มาเสียชีวิตไปอีกตอนที่ฉันอายุได้เพียงสามเดือน มีคนส่งตัวฉันให้ญาติที่เหลือเพียงคนเดียวของพ่อฉันเป็นคนรับเลี้ยงดู นั้นคือป้าบัวพี่สาวแท้ๆของพ่อฉัน ที่ตอนนี้ฉันก็มาอาศัยป้าแกอยู่เหมือนกัน เราสองคนเช่าแฟลตเก่าๆอยู่ที่มีห้องนอนห้องเดียวและก็ห้องน้ำอีกหนึ่งห้องแค่นั้น แต่ป้าฉันไม่ค่อยได้กลับมานอนที่ห้องสักเท่าไหร่หรอก เพราะท่านทำงานเป็นแม่บ้านบ้านเศรษฐีน่ะกินนอนอยู่ที่นั้นเลย ก็เหลือแต่ฉันนี้แหละ
มหาลัย E
09:00น.
พรึบ
“โอ้ย!”ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อร่างกายของฉันโดนใครสักคนเดินชนเข้าอย่างจังทำให้ฉันล้มลงไปนั่งกับพื้นก้นกลมๆของฉันกระแทกพื้นเข้าอย่างจัง ดีนะที่ฉันใส่รองเท้าผ้าใบน่ะ ถ้าเป็นส้นสูงเหมือนทุกวันมีหวังขาฉันพลิกแพลงแน่
พรึบ
“เราขอโทษ…เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”เสียงทุ้มนุ่มของผู้ชายเอ่ยขึ้นพร้อมกับร่างสูงของผู้ชายในชุดนักศึกษาที่เข้ามานั่งยองๆและช่วยฉันเก็บตำราหนังสือเรียนหลายเล่ม เสื้อนักศึกษาของเขาไม่ได้ผูกเนคไทแสดงว่าเขาไม่ใช่เด็กปีหนึ่งรุ่นน้องของฉันเป็นแน่ อาจจะเป็นรุ่นพี่หรือไม่ก็รุ่นเดียวกัน
“ไม่เป็นไรค่ะ..”ฉันตอบเขาไปเป็นในจังหวะเดียวกับที่ฉันเงยหน้าขึ้นไปสบตาเข้ากับเขาพอดี ผู้ชายตรงหน้าฉัน โครงหน้ารูปไข่เรียวจมูกโด่งเป็นสันรับกับโครงหน้าที่ฟ้าประทานริมฝีปากหยักสีชมพูดวงตาคู่คมที่หวานและอ่อนโยนไปในขณะเดียวกันทำให้หัวใจดวงน้อยๆของฉันเต้นรัวเร็วขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุและไม่เคยเป็นมาก่อน
“เราขอโทษนะ…พอดีเราคุยแชทกับแม่อยู่น่ะ..เลยไม่ได้มองทาง…”เขาว่าเสียงอ่อนแววตาของเขาสื่อว่าเขารู้สึกผิดจริงๆ
“อืม…ไม่เป็นไรหรอก..”ฉันตอบเขาไปเสียงแผ่วเบา
“เดี๋ยวเราช่วย…”เขาว่าอย่างเป็นสุภาพบุรุษที่เขาเห็นว่าฉันกำลังจะลุกขึ้นแต่กระโปรงทรงเอเจ้ากรรมของฉันมันไม่อำนวยเลย วันนี้ไม่น่าใส่ตัวที่สั้นๆมาเลย ฉันจึงต้องยื่นมือขึ้นไปจับมือหนาของเขาที่ยื่นมือมาตรงหน้าฉัน เขาก็ยิ้มละมุนให้ฉันก่อนจะค่อยๆดึงร่างของฉันให้ลุกขึ้นยืนทรงตัวได้เอง
พรึบ
“ขอบคุณนะ…”ฉันเอ่ยขอบคุณเขาไปทันทีที่ฉันยืนเต็มความสูงได้แล้ว เขาก็ยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยนและละมุน
“เราสิ…ต้องขอโทษเธอ…”เขาว่าพลางหลบสายตาฉันอย่างรู้สึกผิด
“อื้อ…ก็ผิดด้วยกันทั้งคู่แหละ…”ฉันบอกเขาเพื่อตัดบทจะได้ไม่ต้องมาเกี่ยงกันว่าฉันผิดหรือเขาผิด
“เราไปก่อนนะ…มีเรียนอ่ะ…”ฉันว่าอย่างนึกขึ้นได้และรีบเดินหลีกร่างสูงของเขามาทันที โดยที่มุ่งหน้าก้มหน้าก้มตาเดินไปยังห้องเรียนรวมของฉันโดยที่ฉันรู้สึกแปลกๆกับร่างกายของฉันที่มันเบาหวิว
พรึบ
“ยัยเอริบ้าเอ้ย!”ฉันที่นึกขึ้นได้ถึงความตัวเบาว่าสิ่งที่ฉันหอบหิ้วมาจากบ้านแล้วนั่งรถเมล์มาลงที่หน้ามหาลัยที่มันหนักอึ้งแต่ตอนนี้ความหนักอึ้งทั้งหมดได้หายไปหมดแล้ว
พรึบ
“ของเธอ…”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับเงาของคนที่สูงกว่าฉันที่ยืนค้ำหัวฉันอยู่และหนังสือหลายเล่มที่ถูกวางลงตรงหน้าของฉันอย่างนุ่มนวลทำให้ฉันที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมเตรียมเรียนในคลาสนี้เต็มที่ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่เอาหนังสือของฉันมาคืนฉัน
“นาย…ขอบคุณนะ…ที่เอาสมุดมาคืนฉันน่ะ”ฉันเอ่่ยบอกเขาไปอย่างซาบซึ้งในน้ำใจของเขา
พรึบ
“ไม่เป็นไรครับ…เราเต็มใจ^_^”เขาว่าเสียงอ่อนโยนพลางยิ้มละมุนให้ฉัน
“ที่ตรงนี้ว่างไหม…?”เขาว่าพลางชี้นิ้วมาที่เก้าอี้นั่งข้างๆฉันซึ่งตอนนี้มันว่างและห้องทั้งห้องก็มีนักศึกษาอยู่เพียงแค่สิบคนรวมฉันกับผู้ชายหน้าหล่อคนนี้ด้วย
“วะว่าง…”ฉันเอ่ยตอบเขาไปเสียงกระตุกในใจร้อนรุ่ม เขาก็ยิ้มบางๆให้ฉัน
“งั้น…เราขอนั่งด้วยคนนะ..”
“อื้อ…นั่งสิ..”ฉันเอ่ยอนุญาตเขาไปด้วยหัวใจที่เต้นตุ้มๆต่อมๆอย่างแปลกๆกลิ่นน้ำหอมผู้ชายลอยเข้ามากระทบจมูกฉันทำให้ฉันรู้ทันทีว่าเป็นกลิ่นกายของผู้ชายคนที่นั่งอยู่ข้างๆฉันแน่นอน เพราะกลิ่นหอมๆแบบนี้มันใกล้จมูกของฉันมาก
“เธอชื่ออะไรเหรอ?”เขาหันมาเอ่ยถามฉัน ฉันก็มองหน้าเขา
“เอริ…”ฉันตอบเขาไปสั้นๆเขาก็อมยิ้มให้ฉัน
“เราชื่อ…ขุนศึกนะ…ยินดีที่ได้รู้จักครับ…เอริ^_^”ขุนศึกว่าพลางยื่นมือหนานุ่มสีขาวเนียนจนมองเห็นเส้นเลือดสีเขียวได้ชัดเจนมาตรงหน้าฉันเพื่อทำการทักทายแบบพวกฝรั่ง ฉันก็ยิ้มแหยๆให้เขาและไม่ยอมยื่นมือไปจับทักทายกับเขาทำให้เขาเก้อหน้าถอดสีไปและก็เป็นจังหวะเดียวกับที่อาจารย์เข้ามาสอนพอดี เราสองคนเลยไม่ได้พูดคุยอะไรกันต่อ ว่าแต่เขาลงเรียนวิชานี้ด้วยเหรอ…?ฉันเข้าเรียนมาตั้งหลายครั้งยังไม่เคยเจอเขาเลยนะ….?ผู้ชายหน้าหล่อ ที่หน้าตาและการแต่งกายรวมไปถึงของใช้ที่เป็นแบรนด์เนมทั้งชุด ผู้ชายที่หล่อและรวยมากๆคนนี้น่ะ?