Ep.1 - อนาคตที่ดับสูญ –
________________________
@ห้องทะเบียนมหาลัย
"การทุจริตสอบคัดเลือกนั้นไม่สามารถเอาผิดทางอาญาได้ก็จริง"เสียงของชายวัยกลางคนลุกขึ้นพูด เสียงดังฟังชัดเจน
"แต่ทางผมจะดำเนินการเอาผิดตามระเบียบของมหาวิทยาลัยอันทรงเกียรติของเรา! " คณบดีทุบโต๊ะและมองตรงมาที่ฉันอย่างเอาเรื่อง
"หนูขอโทษค่ะ หนูจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วจริงๆ "ฉันยกมือไหว้พวกเขาท่วมหัวอย่างหน้าซีดตัวสั่น เพราะนี่เป็นความผิดครั้งแรกในชีวิตของฉันเลยจริงๆ
"การเข้าสอบแทนผู้อื่น ถือว่าเข้าข่ายขบวนการทุจริตอย่างชัดเจน" เสียงของกรรมการคุมสอบคนหนึ่งเอ่ยเสียงดังและหยิบกระดาษข้อสอบที่ถูกกาหัวข้อสอบทุกแผ่น ส่งให้กรรมการท่านอื่นๆ ได้พิจารณาต่อ
ส่วนฉันทำได้แค่เพียงนั่งก้มหน้าอย่างยอมรับความผิดที่ตัวเองก่ออย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ไม่มีแม้แต่คำที่จะใช้อธิบายใดๆ
"การกระทำของคุณ มันเป็นความผิดที่ไม่น่าให้อภัยเลยจริงๆ "กรรมการอีกคนก็ผสมโรงพูดขึ้นอย่างใส่อารมณ์
ฉันทำได้แค่ปาดน้ำตาตัวเองอย่างไม่อาจจะห้ามมันได้เลย พร้อมๆกับก้มหน้าอย่างยอมจำนนต่อความผิดที่ตัวเองได้ลงมือกระทำไป ฉันยังคงต้องนั่งรับฟังคำตัดสินต่อไปอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือหลบหนีไปที่ไหนได้
"นางสาวพลอยลาลิลณ์ เป็นนักเรียนทุนจากโรงเรียนเอกชนชื่อดังระดับประเทศ"
"เกรดเฉลี่ยสูงที่สุดในชั้นเรียนมาตลอด6ปีการศึกษา"อาจารย์อีกคนหนึ่งเอาประวัติของฉันมากลางต่อหน้าเหล่ากรรมการ และคณบดีของทางมหาลัย
"แถมเธอยังเป็นนักเรียนทุนที่ยื่นขอทุนจากทางมหาลัยของเราและได้รับทุนเรียนต่อเต็มจำนวน ตลอด4ปีการศึกษาในระดับปริญญาตรี"
"นางสาว พลอยลาลิลณ์สอบได้คะแนนเต็มทุกวิชา และจัดอันดับว่าเป็นผู้ที่สอบได้ลำดับที่1 จากผู้สมัครสอบชิงทุนทั้งหมด500คน"เสียงคนมากมายถกเถียงกันไปมาเรื่องของฉัน
ฉันยังคงนั่งสวมชุดนักเรียน ของอลิเซียมือยังคงกำดินสอและยางลบของตัวเองเอาไว้แน่น
"แต่ทุจริตก็คือทุจริต"
"จะเก่งมากแค่ไหน ถ้าโกงเราก็ขอไม่ต้อนรับเช่นกัน"สิ้นคำขาดของคณบดี คณะอาจารย์และกรรมการทุกคนในห้องก็คล้อยตามกันและมองฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำ ตำหนิมากมาย บางคนส่ายหน้า บางคนถอนหายใจออก
"เสียดายอนาคตของเด็กมันนะ"เสียงอาจารย์บางคนบ่นๆ ขึ้นและเริ่มถกเถียงกันดังขึ้นเรื่อยๆ
"จริงๆ คนเก่งๆ แบบนี้เราน่าจะลองให้โอกาสเธอนะ"อาจาร์ยใจดีท่านหนึ่งลุกขึ้นยกมือเพื่อช่วยฉัน
"มันก็ไม่แน่หรอกนะคะบางทีที่สอบชิงทุนเข้ามาได้"
"ก็อาจจะเพราะใช้กลยุทธ์ หรือวิธีการโกงอย่างอื่นก็เป็นได้"กรรมการผู้หญิงคนนั้นก็หันมา ฉันอย่างวิพากษ์วิจารณ์ทันทีที่เห็นว่าคณบดีเลือกที่จะไม่เอาฉันเอาไว้อีกแล้ว
ฉันทำได้แค่ส่ายหน้าตอบปฏิเสธไปอย่างไม่มีเสียงจะเอื้อนเอ่ยใดๆ
"ทุจริตถือเป็นเรื่องร้ายแรง ไม่ว่าตัวนักเรียนคนนี้จะเก่งสักแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วเธอก็คือนักเรียนที่ใช้ความเก่งความฉลาดในทางฉ้อโกง"คณบดียืนกรานเสียงแข็ง
จนอาจารย์ใจดีท่านนั้นต้องยอมนั่งลงตามเดิม
"เด็กคนนี้ควรได้รับบทลงโทษตามกฏของทางมหาลัยเรา"คณบดีทุบโต๊ะเบาๆ อย่างได้ข้อสรุป
"เพื่อที่จะไม่มีใครกล้าทำแบบนี้อีกในอนาคต! "
จากการถกเถียงกันอยู่เกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม
"ในนามของตัวแทนมหาลัย"
"ผมขอตัดสิทธิ์ที่จะรับคุณเข้าศึกษาต่อในมหาลัยอันทรงเกียรติของเรา และคุณจะไม่มีโอกาสได้ทำข้อสอบ หรือสอบสัมภาษณ์ใดๆ ต่ออีกทั้งสิ้น"
"ทุกสิ่งทุกอย่างถือว่าเป็นโมฆะ และชื่อของคุณจะขึ้นอยู่ในแบล็คลิสของมหาลัยเราอย่างไม่อาจเลี่ยงได้"คำตัดสินสุดท้ายของคณบดีคนนั้นทำเอาฉันนั่งก้มหน้าน้ำตาไหลพรากอย่างไม่มีคำพรรณนาใดๆ จะเอ่ยขอร้องหรือวิงวอนต่อพวกครูบาอาจารย์มหาลัยเหล่านั้น
"เราไม่ขอรับคนที่ทุจริตแบบคุณเข้ามาเป็นนิสิต! "
"เชิญออกไปได้"และนั้นคำพูดสุดท้ายก่อนที่ฉันจะถูกเชิญให้ออกจากห้องทะเบียนของมหาลัย ชื่อดัง
หลังจากที่ถูกจับได้ว่า ฉันปลอมเป็นอลิเซียเพื่อที่จะเข้าทำข้อสอบเข้ามหาลัยแทนเธอด้วยความจำเป็น
.....
.......
ทันทีที่เดินออกมาจากห้อง ฉันก็เจอกับพี่ลูคัส พี่ชายอลิเซียที่ดักรออยู่ฉันรีบปาดน้ำตาที่ยังไม่ทันจะแห้งสนิทของตัวเองแบบลวกๆ
เขาเดินมาหยุดตรงหน้าของฉันและก้มมองที่ป้ายชื่อบนชุดนักเรียนของฉันด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง
"เธอรับเงินค่าจ้างฉันไปแล้ว”
"แต่เธอทำงานไม่สำเร็จ!! "เขาพูดขึ้นเสียงเรียบ
"..."ฉันพยักหน้าตอบไปทั้งน้ำตา
ฟุ๊บ!! ลูคัสเอื้อมมือเข้ามากระชากเอาป้ายชื่อของอลิเซียจากชุดนักเรียนที่ฉันใส่อยู่
"..เฮ่อ...." ฉันแอบตกใจเล็กน้อยเมื่อเขากระชากป้ายชื่อนั้นออกจากอกด้านซ้ายของฉันแบบที่ฉันเองก็ ไม่ทันได้ตั้งตัว
"ฉันขอโทษค่ะ คือฉันไม่เคยทำมาก่อนจริงๆ" ฉันยกมือขอโทษไปทันทีอย่างไร้ข้อแก้ตัว
"เธอมันขี้ขลาดตาขาวไง ไอ้อาจารย์พวกนั้นถึงจับได้! "เขาพูดราวกับเห็นทุกอย่าง
"และเพราะฉันทุจริตในครั้งนี้ ฉันเองก็ถูกตัดทุนและก็ ไม่มีสิทธิ์ได้เข้าเรียนที่นี้อีกแล้วเพราะเรื่องนี้เหมือนกันนะคะ"ฉันเงยหน้าพูดบอกเขาไปทั้งน้ำตา
ตอนนี้ฉันเหมือนมืดแปดด้านและไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะทำยังไงต่อจากนี้ดี
"แล้วไง? "
"ถ้าทำไม่ได้ แล้วรับปากจะทำงานนี้ทำไม? " เขาพูดต่ออย่างไม่ได้ใส่ใจและยังตอกย้ำความผิดพลาดของฉัน
จนฉันแทบล้มทั้งยืนตรงนั้น..ฉันร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาจจะกลั้นเอาไว้
"และถ้าจะโทษว่าเป็นความผิดที่ฉันจ้างให้เธอไปสอบแทนยัยอลิเซีย"
"อย่าลืมสิว่า เธอเป็นตกลงรับงานนี้เอง"
"การที่เธอโง่และถูกจับได้" พี่ลูคัสตอบกลับมาอย่างเลือดเย็น
"มันไม่ใช่ความผิดของฉัน ดีแค่ไหนแล้วที่ฉันยังถามหาเงินคืน? " พี่ลูคัสอย่างจ้องมองตรงมาที่ฉันและชี้หน้าอย่างคาดโทษ
"แต่ฉันก็จะพอรู้ ว่าคนร้อนเงินอย่างเธอ"
"ตอนนี้คงไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียวจะคืนให้ฉัน! " เขาพูดอย่างดูถูกฉันทุกอย่าง
ซึ่งฉันทำได้เพียงแค่ก้มหน้ารับมัน..
"หวังว่าเธอจะเลิกติดต่ออะไรกับน้องสาวฉันอีกตลอดไปนะ"
"ทำไม? " ฉันถามไปเบาๆ อย่างไม่เข้าใจความหมายที่คนตรงหน้าต้องการจะสื่อถึง
"ฉันไม่เคยไม่หวังดีกับอลิเซียเลยนะคะ" ฉันปาดน้ำตาและพูดออกไปอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมฉันถึงต้องเลิกคบเลิกติดต่อกับอลิเซีย
"งั้นเหรอ? " คนตรงหน้าขยับใบหน้ามาใกล้ จนฉันต้องก้าวถอยหลังเพื่อตั้งหลัก
"การที่เธอหลอกเอาเงินค่าติวเตอร์จากน้องสาวฉันไปทุกเดือนๆ"
"ทั้งที่ยัยอลิเซียไม่เคยไปติวหนังสือ"
"ไม่เคยไปนอนค้างกับเธอเลยสักครั้งเดียว"
"แต่ยัยตัวแสบนั้นหนีไปนอนบ้านผู้ชายแทนโดนอ้างชื่อของเธอ"
"และพวกเธอก็มาเล่นละครตบตาฉันราวกับฉันเป็นคนโง่เชื่อพวกเธอทุกอย่าง"
"คนแบบเธอเนี้ยเขาเรียกว่าหวังดี จริงใจ หรือพวกชอบฉวยโอกาสกันแน่? "คนตรงหน้าเดินเข้ามาประชิดตัวของฉันและจ้องฉันเขม่นอย่างน่ากลัว
"ฉัน..~ไม่ได้คิดแบบนั้น..." ฉันทำได้แค่อ้ำๆ อึ้งๆ อย่างหาคำตอบให้เขาไม่ได้เลย
"จริงๆ ฉันไม่สนใจจะเอาเรื่องเธอหรอกนะ"
"เพราะฉันรู้ว่าไม่มีใครห้ามปามยัยอลิซน้องฉันได้" เขาพูดอย่างถอนหายใจออกมา
"แต่ว่าเธอเองก็มีส่วนที่ทำให้ยัยอลิเซียเสียผู้เสียคนแบบทุกวันนี้ด้วยเหมือนกัน" เขาพูดด้วยน้ำเสียงแข็งๆ และมองฉันอย่างคาดโทษ
"เพราะฉะนั้น ฉันหวังว่าเธอจะไม่เจอกันอีก" ทันทีที่พูดจบคนตัวสูงก็หันหลังและเดินไปขึ้นรถ ก่อนจะขับผ่านฉันไปด้วยความเร็วและเสียงเครื่องยนต์ที่ดังคำรามของเขา
บรื้น....!!
ฉันกำกระโปรงนักเรียนของตัวเองเอาไว้แน่น ไม่ให้มันพัดปลิวไปตามแรงลมนั้น ฉันมองรถสุดหรูเปิดประทุนนั่นขับออกไปจากมหาลัยแห่งนี้ มันเหมือนกับโอกาสในชีวิตของฉันในตอนนี้ ที่จากฉันไปไกลลิบสุดสายตา