6.เลิกเป็นเพื่อน
Chapter06.เลิกเป็นเพื่อน
การรับประทานอาหารผ่านไปด้วยสีหน้าอึดอัดของทั้งสองคน ความตึงเครียดระหว่างแอนดริวกับจีจี้ทำให้โบว์วี่กับเรนเดลเริ่มทำตัวไม่ถูก แต่ถึงอย่างนั้น โบว์วี่ก็พยายามเป็นตัวกลางในการชวนคนนี้คนนั้นคุยไม่หยุด จนกระทั่ง....ทุกคนเริ่มรู้สึกอิ่มกับอาหารมื้อนี้
ปากหนักจึงไม่รอช้าที่จะเอ่ยออกมา
“กูจะไปสูบบุหรี่” แอนดริวพูดขึ้น
“มึงอิ่มแล้ว?” เรนเดลถามกลับด้วยสีหน้าสงสัย เพราะเห็นว่าอีกคนทานไปได้ไม่เท่าไหร่ ปกติหมอนี่กินเยอะจะตาย
“อืม ไม่ค่อยหิว” ว่าจบร่างสูงก็ไม่รอช้าที่จะลุกขึ้นเดินออกไป ท่ามกลางสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของทุกคน
“งั้นเดี๋ยวกูไปสูบเป็นเพื่อนมันก่อน” เรนเดลว่าก่อนจะลุกขึ้นเดินตามเพื่อนร่างสูงไป
นาทีนี้จึงเหลือแต่สองสาวที่นั่งอยู่หน้าหม้อชาบูและแน่นอนโบว์วี่ไม่รอช้าที่จะหันไปถามจีจี้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับอินดริวกันแน่
“มึงจะไม่เล่าอะไรให้กูฟังหน่อยเหรอ มึงสองคนมีปัญหาอะไรกัน “
จีจี้ได้ยินคำถามก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย เรื่องนี้มันค่อนข้างจะละเอียดอ่อนสำหรับเธอ อันที่จริงเธอก็ไม่ได้รู้สึกดีที่แอนดริวตีตัวออกห่างเธอแบบนี้
“กูก็แค่รู้สึกอึดอัด”
“อึดอัดเรื่อง?”
“ไม่รู้ว่ะ มึงก็รู้ว่าเวลามีผู้ชายมาจีบกู ไอ้ดริวมันชอบหวงก้าง” เสียงหวานบ่นออกมาตามประสา เพราะเธอรู้สึกแบบนั้นจริงๆ
“มึงรู้เหรอ” โบว์วี่ถามกลับ เพราะไม่คิดว่าจีจี้จะรู้ในเรื่องนั้น
“มึงหมายถึงอะไร”
“ที่มันชอบไปบอกให้คนที่จีบมึงเลิกยุ่งกับมึง”
“อืม รู้ดิ เพราะผู้ชายบางคนเขาก็บอกกูว่ามันทำงั้น แต่ที่กูไม่อยากพูดเพราะตอนนั้นกูเข้าใจว่ามันเป็นห่วง แต่ตอนนี้กูโตแล้วนะเว้ย กูก็อยากมีความรักเหมือนคนอื่นบ้าง”
พอได้ยินแบบนั้นโบว์วี่ก็พยักหน้าเข้าใจ เธอก็พอเข้าใจในเหตุผลของเพื่อน
“มึงก็เลยขอห่างกับมันเหรอ”
“อืม แต่ดูเหมือนมันจะเลวร้ายกว่านั้น มันเล่นตัดขาดจากกูเลยนะเว้ย” จีจี้พูดออกไปด้วยความรู้สึกอัดอั้นตันใจ แต่ที่เธอเลือกจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปแบบนั้นเพราะไม่อยากมีปัญหากับหมอนั่นเพิ่ม
ดูจากดาวอังคารยังมองออกว่าแอนดริวโกรธเธอ....
"ก็แหง๋ล่ะ....พวกมึงเป็นเพื่อนกันมาตั้งนานนี่ “
” แล้วที่บอกอยากมีแฟนอะ มึงมีคนคุยสักคนหรือยังจ๊ะ “โบว์วี่ถามเปลี่ยนเรื่อง เพราะอย่างน้อยๆ เธอก็รู้แล้วว่าทั้งสองคนมีปัญหาอะไรกัน
แต่เธอจะไม่เข้าไปยุ่งเพราะเรื่องของมันสองคนก็ควรจะปล่อยให้จัดการกันเอง
” โอ้ยอีนี่ ระดับกูนะคะ สวยขนาดนี้ มึงนับไม่ไหวหรอก “
ครืด~ ครืด~
ว่าจบเสียงโทรศัพท์ของจีจี้ก็ดังขึ้นมาทำเอาสองสาวหันไปมองพร้อมกัน ซึ่งจีจี้เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่ทักเข้ามาก็ไม่รอช้าที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปิดแชทเอาไว้
พรึ่บ!
“ไรอัน? ไรอันไหนวะอีจี้ นี่มึงมีคนคุยแล้วจริงเหรอ “โบว์วี่เอ่ยถามออกมาเสียงดังอย่างลืมตัว เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่จีจี้เริ่มอยากมีความรักจริงจัง
เธอจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นไปกับเพื่อน
” อะไร? ไรอันไหน? ไม่มี! มึงตาฝาดละ” จีจี้ตอบกลับหน้าตาไขสือ
มันคือความจริง....เธอมีคนคุยแล้ว ไรอันคือหนุ่มไทยลูกครึ่งสเปนที่เธอบังเอิญเจอที่ญี่ปุ่น มีหลายครั้งที่เธอออกไปเดตด้วยกันตอนอยู่ที่นั่น แต่ด้วยความที่ทุกอย่างอยู่ในสายตาของพี่จอมทัพพี่ชายของเธอ ทำให้ทั้งสองไม่ได้มีอะไรเกินเลยกันไปมากกว่าจับมือ
แม้จะอายุน้อยกว่าเธอหนึ่งปีแต่ไรอันก็เป็นผู้ชายที่มีความเป็นผู้ใหญ่สูง ตลกและขี้เล่น นั่นทำให้จีจี้เริ่มรู้สึกว่าการได้ชอบใครสักคนมันก็ดี แต่น่าเสียดายที่เธอต้องบินกลับมาเรียนก่อน ก็เลยจำต้องห่างกัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะมีข่าวดี เด็กนั่นบอกเธอว่าจะบินมาหาเธอในอาทิตย์หน้า ซึ่งมันตรงกับวันเกิดของเธอพอดี
แต่ที่ยังไม่อยากบอกให้ใครรู้เพราะเธอเองก็ยังไม่มั่นใจว่าจะไปกันได้ไกลแค่ไหน
อีกด้าน
@ชั้นดาดฟ้า
เรนเดลเดินเข้ามาหาแอนดริวที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ก่อนแล้วด้วยสีหน้าราบเรียบ ก่อนที่เขาจะหันไปถามหาไฟแช็คจากอีกคน
“ยืมไฟแช็คหน่อย”
ฟึ่บ!
แอนดริวยื่นสิ่งที่เพื่อนต้องการให้ไปด้วยสีหน้าที่ไม่บ่งบอกถึงความรู้สึกใดๆ แต่ตอนนี้อารมณ์ของเขามันกลับไม่ได้นิ่งเหมือนหน้าตาเลยสักนิด
หลายวันที่ผ่านมา เขาพยายามเป็นอย่างมากที่จะไม่หันไปสนใจอดีตเพื่อนสนิทที่อยากเลิกเป็นเพื่อนกับเขาเพียงเพราะว่าอยากจะไปมีแฟน นี่คือครั้งแรกที่แอนดริวรู้สึกว่าตัวเองกำลังสูญเสียอะไรบางอย่างในชีวิต เพราะที่ผ่านมา เขาไม่เคยคิดเลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับจีจี้จะจบลงด้วยเหตุผลพวกนี้
“มึงเป็นอะไรกัน “เสียงทุ้มของเรนเดลทำให้แอนดริวหลุดออกจากภวังค์ของตัวเอง
” เปล่า “เขาไม่แน่ใจว่าจะพูดมันออกไปดีไหม เพราะเขาไม่อยากให้อีกคนรู้ว่าตอนนี้เขากำลังรู้สึกขุ่นมัวเกี่ยวกับเรื่องของจีจี้
” แน่ใจว่าจะไม่เล่า? “เรนเดลเลิ่กคิ้วถาม เอนหลังพิงระเบียง หันหน้ามามองเพื่อนสนิทด้วยสีหน้าชักชวนให้เล่าอย่างเต็มที่ เพราะเขารู้ในนิสัยของอีกคนดี
บางทีเขาอาจจะรู้จักแอนดริวมากกว่าที่มันรู้จักตัวเองด้วยซ้ำ
“.......”
แอนดริวนิ่งไปสักพักก่อนที่สุดท้ายจะยอมเอ่ยปากออกมาในที่สุด
” จี้อยากเลิกเป็นเพื่อนกับกูเพราะอยากมีแฟน “แอนดริวเผลอทำสีหน้าเคร่งเครียดออกมาอย่างไม่รู้ตัว เมื่อนึกถึงเรื่องนั้น
” หึ มึงก็เลยโกรธ? “
” ..... “เขาจะไม่ปฎิเสธว่าตัวเองไม่ได้โกรธ
” หรือมึงหึง? “
สิ้นเสียงแหย่ของเรนเดล แอนดริวก็ชะงักไป
“ทำไมกูต้องหึง กูไม่ได้ชอบยัยนั่น” เขาปฎิเสธออกมาเสียงหนักแน่น เพราะมั่นใจว่าเขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับเพื่อนสนิทอย่างจีจี้แน่นอน เขาเห็นอีกคนมาตั้งแต่ฟันน้ำนมยังขึ้นไม่ครบด้วยซ้ำ
“ถ้าไม่ชอบแล้วทำไมมึงต้องโกรธ เว้นแต่มึงจะไม่อยากให้ยัยนั่นมีแฟน เพราะมึงหึง” เรนเดลเอ่ยบอกอย่างมีเหตุผลเพราะเขามั่นใจว่าตัวเองไม่ได้มองเรื่องนี้ผิดไป
แอนดริวชอบจีจี้ เพียงแต่มันไม่รู้หัวใจตัวเอง
“กู....ไม่รู้ว่ะ กูแค่ไม่อยากให้จี้เสียใจเพราะผู้ชาย” แอนดริวพึมพัมพูดออกมา หัวใจรู้สึกแปลกๆ จู่ๆ ทำไมเขาถึงรู้สึกไม่มั่นใจกับคำตอบนั้น
“มึงแน่ใจว่าแค่นั้น”
“มึงหมายความว่ายังไง”
“มึงลองถามหัวใจตัวเองดีๆ บางครั้งคนเราก็ชอบไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง จะทำอะไรก็รีบๆ หน่อย”
แม้จะไม่ค่อยเข้าใจในคำพูดของเพื่อน แต่แอนดริวก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะมีความรู้สึกพิเศษให้กับจีจี้ เขาไม่เคยมีความสัมพันธ์กับคนที่เป็นเพื่อนตัวเองมาก่อนและนั่นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับเขา
“ถ้ายัยนั่นบอกว่าอยากมีแฟน นั่นก็แปลว่าอาจจะกำลังมีคนคุยๆ อยู่”
“ถือว่ากูบอกแล้วนะ ต่อจากนี้มึงก็ไปตัดสินใจเอาเองว่าจะทำยังไง”
เรนเดลพูดทุกอย่างที่อยากพูดจบก็โยนบุหรี่ทิ้งไปก่อนจะใช้เท้าเหยียบมันเพื่อดับไฟ
“......”
เขาปล่อยให้แอนดริวยืนถกเถียงกับตัวเองต่อไปแบบนั้นจนกว่าจะตื่นรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง
#ขอเสียงคนอ่านหน่อยค้าบบ อิอิ
