บทที่ 5 ขออยู่ด้วยคน
กุ๊กไก่เช็ดน้ำตาที่ไหลเพราะขบขัน ดูนาฬิกาก็เห็นว่าต้องกลับบ้านแล้วเธอจึงลุกขึ้นบอกเขาว่า
"เอาล่ะ ก็ดีใจนะที่เจอนายแต่ฉันต้องกลับแล้วยังมีธุระอีก"
อชิลุกขึ้น
"อืม ฉันด้วย"
กุ๊กไก่ไม่ได้ถามถึงเบอร์มือถือของเขา ไม่คิดจะติดต่อเขาอีก เจอกันด้วยความบังเอิญครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว คนที่เคยทิ้งเธอไม่คู่ควรที่จะเป็นเพื่อนของเธออีกต่อไป
จนกระทั่งกุ๊กไก่เห็นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ใบหนึ่งวางอยู่ใกล้ประตูทางเข้า เธอจึงอุทานออกมาอย่างตกใจ
"แย่แล้ว ของลูกค้าคนไหนกันลืมไว้"
อชิเดินมาหยุดข้าง ๆ เธอแล้วบอกว่า
"ของฉันเอง"
กุ๊กไก่มองเขาด้วยความสงสัย
"นายจะไปไหน"
เขายิ้มยังไม่ตอบ หญิงสาวเห็นว่าไม่ใช่เรื่องของเธอที่จะไปถามแบบนั้น สองคนไม่สนิทกันแล้วนี่นา เธอจึงบอกเขาว่า
"เอาเถอะ จะไปไหนก็ไปเถอะเรื่องของนางโชคดีแล้วกัน ออกมาได้แล้วฉันจะล็อคร้าน"
อชิเดินลากกระเป๋าออกมาหน้าร้าน ยังช่วยกุ๊กไก่ดึงประตูเลื่อนลงแล้วล็อคอย่างแน่นหนา
"ขอบใจลาก่อน"
เธอเดินนำหน้าเขา อชิเดินตาม กุ๊กไก่กรอกตาเมื่อชายหนุ่มยังไม่ยอมไปไหน กระทั่งในที่สุดเธอก็เดินมาหยุดที่หน้าตึกรอเรียกแท็กซี่เพื่อกลับบ้าน
"นายจะไปไหน ฉันเรียกรถให้ก่อนล่ะกัน"
อชิพยักหน้ากระทั่งมีรถแท็กซี่จอดรับ ชายหนุ่มเก็บกระเป๋าที่กระโปรงท้ายรถเรียบร้อยก็เปิดประตู แล้วลากแขนกุ๊กไก่ให้ขึ้นมาด้วย
กุ๊กไก่ไม่ทันตั้งตัวจึงขึ้นรถมาพร้อมเขาด้วยความสับสน
"ไปที่คอนโดXครับ"
เขาบอกคนขับกุ๊กไก่ตาโต
"อ้าวนายพักคอนโดเดียวกันกับฉันเหรอ"
เขาไม่พูดอีกดีที่ยังพยักหน้า กุ๊กไก่บิดข้อมือของตัวเองที่ถูกเขากุมอยู่ บ่นเบา ๆ พอได้ยิน
"โลกกลมชะมัด ยังพักที่เดียวกันกับฉันอีก"
คนขับแท็กซี่มองดูพวกเขาสองคน คนหนึ่งท่าทางเป็นคุณหนูหน้าตาสวยมากและคงสำออย อีกคนหนึ่งเหมือนนายแบบสำเนียงยังติดฝรั่งนิด ๆ เขาจึงกระแอมพูดว่า
"ช่วงนี้แถวนั้นรถติดครับ คิดเหมานะครับเจ็ดร้อยบาท"
กุ๊กไก่ได้ยินแบบนั้นก็เลือดขึ้นหน้า
"คิดเลยสิฉันจะโทรฟ้องเดี๋ยวนี้ นี่มันหากินแบบนี้ทำให้คนที่เขาขับแท็กซี่ดี ๆ เสียหมด คุณนี่สมควรโดนจับจริง ๆ อ้อ ชื่อนายนพดล เหรอ ได้ฉันจะโทรแจ้งร้องเรียนเดี๋ยวนี้"
ว่าแล้วเธอก็ดึงโทรศัพท์ออกมาไม่ยอมลงจากแท็กซี่คันนี้ ใช่เพราะมันเรียกยากเหลือเกินจนกุ๊กไก่โมโหแล้ว
"เบอร์อะไรนะแล้วนะ เดี๋ยวก่อนฉันหาก่อน"
กุ๊กไก่ยังไม่ได้หาเบอร์อชิก็ตอบทันที
"1584 เบอร์ร้องเรียนแท็กซี่ 1584"
กุ๊กไก่ตบมือ "ใช่ 1584"
เธอยังไม่ได้กดลงไป คนขับรถก็หันมาบอกเธอพร้อมกับขอโทษทันที
"อย่าโทรเลยนะครับ ผมต้องโดนปรับและโดนงดขับด้วย เอาแบบนี้ผมกดมิเตอร์แล้วและจะไปส่งถึงที่เลยครับ ขอโทษนะครับ"
"แน่นะ"
กุ๊กไก่กำมือ เธอมองเห็นกล้ามอชิแล้ว กล้ามโตใช้ได้ต่อยคุณลุงคนผอมนั้นสักหมัดคงสลบ เอาล่ะในเมื่อเธอเป็นต่อเธอจึงกล้าข่มขู่คน
"ถ้ายังทำนิสัยแบบนี้อีก หนูให้เพื่อนจัดการลุงแน่นอนเขาเป็นลูกชายอธิบดีกรมตำรวจ รู้จักหรือเปล่าท่านอธิบดีน่ะ สนิทกัน"
อชิมองกุ๊กไก่ด้วยความขบขัน เอาล่ะสิอยู่ ๆ ก็มีหน้ามีตามีพ่อเป็นคนใหญ่คนตัวเพราะยัยกุ๊กไก่นี่อวยยศให้ซะแล้ว
คนขับแท็กซี่ตกใจอยู่มาก เขาจึงลนลานขับรถไปโดยไม่พูดอะไรอีก
จนกระทั่งพวกเขามาถึงคอนโด กุ๊กไก่ดึงกระเป๋าตังค์ออกมา เธอแอบหลบนิดหน่อยไม่ให้อชิเห็น เมื่อในกระเป๋าชาแนลตังค์ใบละหลายแสนของเธอมีเงินอยู่ในนั้นไม่ถึงพันบาท
อยากจะด่าตัวเองนักที่ลืมตัวไม่ยอมขึ้นรถไฟใต้ดินกลับยังจะประหยัดกว่านี้อีก แง แง
เธอไม่ได้บอกให้อชิจ่ายค่าแท็กซี่ เพราะตัวเองกลัวเสียหน้า แต่แกล้งดึงเงินออกมาช้า ๆ จนกระทั่งอชิพูดขึ้นว่า
"เท่าไหร่ครับ"
กุ๊กไก่ลอบยิ้ม เหอะ แผนนี้ได้ผลว่ะ
คิดแล้วก็เก็บกระเป๋าอย่างเงียบเชียบ
คนขับแท็กซี่จ้องเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ประหนึ่งจะด่าว่า ไม่แหกตาดูมิเตอร์เหรอ ยังพูดห้วน ๆ อีก
"สี่ร้อยห้าสิบบาท"
ก่อนจะลงจากรถกุ๊กไก่ยังขู่คุณลุงคนนั้นอีกหน่อย ไม่ให้เขาทำนิสัยแบบนี้กลับใคร
"หนูจำชื่อลุงแล้วแจ้งไปที่อธิบดีแล้ว ต่อไปถ้าลุงทำอีกลุงหมดหนทางทำมาหากินแน่ กดมิเตอร์ทุกครั้งจำไว้ด้วย"
แท็กซี่รับคำแล้วรีบขับออกไปอย่างรวดเร็ว
กุ๊กไก่ไม่สนใจอชิแล้วเธอเดินเข้าไปในคอนโดก่อนโดยมีอชิลากกระเป๋าตามมาติด ๆ กระทั่งกดลิฟต์อชิก็ปล่อยให้กุ๊กไก่กดคนเดียว เขายังตามมาเงียบ ๆ เธอมองเขาอย่างระแวงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
เมื่อถึงหน้าห้องเธอกุ๊กไก่ก็รู้แล้วว่าเขาตามเธอมาจริง ๆ ห้องตรงข้ามเป็นห้องของเควิลและลูเซียโน่ที่ซื้อเอาไว้ ทั้งชั้นมีแค่สองห้อง เจ้าหมอนี่ถูกจับได้แล้ว
"ว่ายังไงจะบอกมาได้หรือยังว่าตามฉันมาทำไม"
อชิวางปล่อยกระเป๋าใบโตแล้วกอดอกมองเธอยิ้ม ๆ
"มาทำข้อตกลงกัน ฉันจะช่วยเธอทำร้านให้ได้กำไรและใช้หนี้ให้ทั้งหมดแต่เธอต้องให้ฉันอยู่กับเธอที่นี่ในฐานะสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของเธฮ"
กุ๊กไก่ได้ยินดังนั้นก็ร้องออกมา
"นายบ้าไปแล้วเหรอ ใครจะมาเป็นสามีของฉันกัน"