ตอนที่ : 04 ยาในแก้วนั้น
หญิงสาวหันมองไปตามเสียงก็พบว่านั่นคือ คามิล เพื่อนสนิทของเธอที่ไม่ได้คุยกันมานานแล้ว เขากำลังนั่งจ้องเขม็งไปที่ชายหนุ่มที่เข้ามาชวนเธอคุย สายตาที่แสนจะเย็นชาและดุดันนั้นทำเอาชายหนุ่มคนนั้นถึงกับต้องรีบหลบสายตาทันที
เธอถอนหายใจออกมาอย่างแรง มันน่าหงุดหงิดนะที่ต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ อุตส่าห์หนีมาจนถึงที่นี่แล้วเชียว
“ขอตัวก่อนนะคะ ไว้เจอกันใหม่”
“ครับ”
พูดจบเธอก็ลุกเดินหนีไปนั่งตรงที่อื่น โดยที่ไม่ได้สนใจสายตาของคามิลที่กำลังจ้องมองตามไปเลย
ไม่อยากเจอ ไม่อยากคุย ไม่อยากเห็นหน้า ทำไมต้องมาเจอกันที่นี่ด้วยนะ
“ฮาน่า...”
“…..” หญิงสาวถอนหายใจออกมาอีกครั้ง เพราะเธอได้เจอ ขุนเขา อีกคนด้วย หรือว่าสองคนนี้จะมาเที่ยวที่นี่เหมือนกันนะ “อย่ามายุ่ง กูจะอยู่คนเดียว”
“ยังไม่หายโกรธอีกหรือไง?” ขุนเขาเอ่ยถามเสียงเรียบ ก่อนจะเหลือบมองไปยังหน้าเคาน์เตอร์บาร์ที่คามิลนั่งอยู่ และก็ไม่ต้องเดาอะไรมากไปกว่านั้นเลย “ไอ้มิลมันทำอะไรให้อีกล่ะ?”
“บอกแล้วไง ว่าไม่ต้องมายุ่ง”
“แต่งตัวแบบนี้ออกมาเที่ยว ไม่กลัวบ้างรึไง”
“เรื่องของกู”
“ฮาน่า...”
“…..”
“อย่าดื่มเยอะ”
แก้วเครื่องดื่มถูกขุนเขาดึงออกไปขณะที่เธอกำลังยกขึ้นดื่ม การกระทำนั้นทำให้ฮาน่าไม่พอใจเอามากๆ แต่เธอก็เป็นคนที่เก็บอารมณ์ได้ดีเลยคนนึง เลยไม่ได้แสดงออกมาว่ากำลังไม่พอใจ
“เอาคืนมา”
“ฮาน่า...ฟังกันบ้างดิวะ”
“….” เธอหันไปจ้องตาเขม็ง ก่อนที่เธอนั้นจะเดินออกไปจากคลับ หลีกหนีจากเสียงเพลงและแสงสีที่มันทำให้เธอเริ่มมัวเมา อีกอย่างถ้าเธอยังอยู่ตรงนั้นคงได้ทะเลาะกับขุนเขาแน่นอน
แต่ก็ยังไม่วายที่ขุนเขาจะเดินตามออกมา
“ฮาน่า...หยุดก่อน”
“บอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่ง ไปให้พ้นป่ะ”
“เฮ้ย เราเพื่อนกันนะเว้ย ผ่อนๆ ลงบ้างดิวะ โตๆ กันแล้วเนี่ย”
“…..” คราวนี้เธอหยุดฟัง แต่ก็ไทชม่ได้พูดอะไร เพราะอยากจะรู้ว่าขุนเขาจะพูดอะไรอีกบ้าง เธอไม่ได้อยากฟังอะไรที่มันซ้ำๆ เดิมๆ และก็ไม่อยากฟังคำแก้ตัวด้วย ต่อให้บ้านหลังนั้นจะทำความสะอาด เก็บกวาดจนไม่เหลือร่องรอยอะไรแล้ว แต่มันก็ลบออกไปจากความทรงจำของเธอไม่ได้
“ได้ข่าวว่าซื้อคอนโดใหม่เหรอ?”
“อืม...”
“ไม่คิดจะกลับไปที่บ้านของเราแล้วจริงดิ”
“ต่างคนต่างทำงาน ต่างคนต่างอยู่ แยกย้ายกันไป มันแปลกตรงไหน?”
“…..” ขุนเขาไม่เถียง เพราะเธอก็พูดถูกที่ว่าพอโตขึ้นแล้วทุกคนต่างก็ต้องแยกย้ายกันไปเพื่อมีชีวิตเป็นของตัวเอง แต่เขารู้ว่าที่เธอเป็นแบบนี้เพราะอะไร “มาเที่ยวทำไมไม่บอก?”
“แล้วทำไมต้องบอก?”
“ที่นี่กูเป็นหุ้นส่วนอยู่ มึงไปเรียนต่างประเทศอยู่นานคงไม่รู้”
“อ๋อ...” เป็นการตอบกลับสั้นๆ แต่เต็มไปด้วยคำพูดต่างๆ มากมายที่เธอไม่ได้ถามกลับไป
มันก็จริงแหละ เธอไปเรียนต่างประเทศอยู่เป็นปี ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพื่อนสนิทสองคนนี้ทำธุรกิจอะไรอีกบ้างนอกจากบริษัท แล้วก็ธุรกิจส่วนตัวของตัวเอง
“มาเที่ยวไกลนะ”
“ไม่ไกลสักหน่อย”
“งั้นก็แสดงว่าคอนโดที่ซื้อก็อยู่แถวๆ นี้สินะ”
“…..” อ่า ให้ตายสิเสียรู้ซะจนได้ กะว่าจะไม่บอกแล้วเชียวว่าพักอยู่คอนโดตรงไหน แต่ก็โดนถามทางอ้อมจนได้ ถึงมันจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรกับการที่สองคนนี้จะหาคอนโดที่เธอพักอยู่ แต่เธอก็ไม่อยากให้ใครรู้อยู่ดี
“ขอสูบบุหรี่นะ”
“อืม..”
พอได้คำตอบจากหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ขุนเขาก็หยิบซองบุหรี่ในกระเป๋าเสื้อออกมาทันที ก่อนที่ปากจะปากคาบก้นบุหรี่ออกมาจากซองพร้อมด้วยจุดไฟสูบควันเข้าปอดอึกใหญ่และพ่นออกมาอย่างแรง
“ฮู่ว~ งานเป็นยังไงบ้าง?”
“ก็ดี เรื่อยๆ”
“จะกลับไปที่อเมริกาอีกหรือเปล่า?”
“ไม่แน่ใจ”
“อ๋อ...”
ทั้งสองไม่ได้มีการสนทนากันอีกจนกระทั่งบุหรี่ในมือของขุนเขาหมดตัวลง ก้นบุหรี่ถูกทิ้งลงพื้นและถูกขยี้ด้วยรองเท้าหนังสุดหรูของขุนเขา
“จะกลับเข้าไปดื่มอีกหรือเปล่า?”
“จะมายุ่งทำไม จะดื่มหรือไม่ดื่มก็เรื่องของกูสิ”
"ขับรถมาเองไม่ใช่หรือไง"
"อืม..."
"เดี๋ยวกูไปส่ง"
"ขอบใจ แต่ไม่ต้อง" ฮาน่าหันกลับไปมองด้วยสายตาที่เย็นชา ก่อนที่เธอจะเดินกลับเข้าไปข้างในต่อ เธอกลับเข้าไปนั่งตรงเคาน์เตอร์บาร์ที่เดิม แต่ก็ยังไม่ได้มีการสั่งเครื่องดื่มอะไรมา
"คุณฮาน่า..."
"นึกว่าคุณกลับไปแล้วซะอีก" เธอมองหน้าผู้ชายที่เรียกชื่อของเธอ เป็นผู้ชายที่เข้ามาสนทนากับเธอก่อนหน้านี้นั่นแหละ นึกว่าเขาจะกลับไปแล้วซะอีก
"ผมเห็นผู้ชายคนนั้นเดินขึ้นไปข้างบนแล้วก็เลยเดินมาหาคุณครับ"
ผู้ชายคนนั้นที่ว่าก็คงไม่พ้นคามิลสินะ
"อ๋อ..."
"เพื่อนเหรอครับ"
"ค่ะ เพื่อนสมัยเรียนน่ะ"
"ดูเขาสนิทสนมกับคุณจังเลยนะครับ"
"นี่ตกลงคุณมาเที่ยวหรือมาถามชีวิตส่วนตัวของฉันกันแน่คะ?"
"เอ่อ...."
"ขอโทษนะคะที่ต้องบอกตามตรง แต่ฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องส่วนตัวจริงๆ"
"ต้องขอโทษด้วยครับ"
ตอนแรกก็ว่าจะชอบแล้วนะ แต่พอถูกถามเรื่องราวต่างๆ มากมาย เธอก็เริ่มไม่ชอบเช่นกัน โดยเฉพาะคนที่ชอบถามเรื่องส่วนตัวของเธอ หรือบางเรื่องที่เธอไม่อยากให้ใครรู้ ต่อให้มันจะไม่ใช่เรื่องส่วนตัวก็ตาม
"ฮาน่า..."
"จะตามมาทำไมอีก" เธอหันไปพูดพึมพำกับชายหนุ่มที่เรียกชื่อของเธอ สองคนนี้นี่เป็นอะไรกัน ทำไมถึงได้ตามติดชีวิตเธอขนาดนี้
"ขอโทษนะ ผมจะขอนั่งดื่มด้วยได้หรือเปล่า" ขุนเขามองไปที่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ ฮาน่าเพื่อนสนิทของตัวเองและก็อยู่ตรงข้ามกับเขา
"อ๋อ เชิญครับ"
"....." ขุนเขาไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แต่ก็คิดไว้อยู่แล้วแหละว่าต่อให้อีกฝ่ายจะไม่ยอมเขาก็จะนั่งอยู่ตรงนี้
"ก่อนหน้านี้คุณฮาน่าบอกว่าเรียนจบมาจากอเมริกาใช่ไหมครับ"
"ค่ะ"
"ผมอยากรู้จังเลยครับว่า การเรียนการศึกษาที่อเมริกาเป็นยังไงบ้าง"
"ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากที่นี่เลยนะคะ"
"อ๋อ..."
"ทำไมคะ คุณอยากจะไปเรียนที่นั่นบ้างงั้นเหรอคะ"
"แหม...ผมไม่คิดถึงขนาดนั้นหรอกครับ"
"....."
"ถ้าคุณฮาน่าไม่ติด ผมอยากจะชวนคุณฮาน่าไปดื่มต่อที่ห้องของผม จะว่ายังไงครับ?"
"หึ!" ฮาน่าแค่นหัวเราะ พร้อมกับยกยิ้มมุมปาก มาด้วยวิธีการแบบนี้อีกแล้วเหรอ ก่อนหน้านั้นโดนเธอปฏิเสธก็ไม่ยักจะรู้สึกขายหน้าบ้างเลยนะ เห็นเธอยอมพูดเห็นเธอยอมคุยด้วยเข้าหน่อย ก็กลับคิดว่าเธอง่ายไปซะงั้น
"แล้วถ้าผมไม่ให้เพื่อนของผมไปล่ะครับ คุณจะมีปัญหาอะไรไหม?" ขุนเขาถามกลับ พร้อมกับจ้องตาเขม็งไปที่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอ เขาเองก็เป็นเสือผู้หญิงเหมือนกัน ทำไมจะไม่รู้ว่าผู้ชายที่กำลังพูดอยู่ตอนนี้ต้องการอะไรจากฮาน่า
"ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ แต่ผมคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของผมกับคุณฮาน่านะครับ คุณเป็นใคร แค่เพื่อนผมว่า...."
"แค่เพื่อนแล้วยังไง กูเป็นคู่หมั้น ทีนี้มีสิทธิ์แล้วหรือยัง?" เสียงห้าวหาญของคามิลดังขึ้นทางด้านหลังของชายหนุ่มที่กำลังล่อลวงฮาน่า
"จริงเหรอครับคุณฮาน่า!?"
"....." ฮาน่าไม่ได้ตอบอะไร เพราะเธอกำลังตกใจกับคำพูดของคามิลอยู่ ไม่คิดว่าเขาจะพูดออกมาแบบนี้ และเธอก็รู้ว่าพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายเองก็เห็นดีเห็นงามถ้าทั้งสองคนจะคบกัน แต่เรื่องแบบนั้นมันยังไม่ทันได้เกิดขึ้นสักหน่อย และตอนนี้เรื่องบาดหมางระหว่างเพื่อนสนิทมันก็ยังไม่จบลงเลย
"กูเป็นว่าที่คู่หมั้น ได้ยินชัดไหม?"
"พูดอะไรของมึง!" ฮาน่าข่มเสียงพูดใส่
ในขณะที่เธอกำลังยืนตกใจอยู่ และผู้ชายคนนั้นเองก็หน้าเหวอไม่ต่างกัน แต่ขุนเขากลับยืนยิ้มเหมือนกำลังสะใจมาก
"ไอ้มิล!"
"พ่อแม่ของเราคุยกันแล้ว เรื่องการหมั้นหมาย" คามิลตอบ
"จะเถียงอะไรอีกไหมล่ะ หน้าเหวออ่ะดิ เถียงไม่ออกเลยดิ คราวนี้จะกวนส้นตีนอีกไหม?" ขุนเขาจ้องมองไปยังชายหนุ่มตรงหน้า ด้วยสายตาที่พร้อมปะทะ เขาก็ไม่ใช่คนใจเย็นอะไรขนาดนั้นหรอก และก็ไม่ใช่คนพูดดีอะไรกับใครขนาดนั้นด้วย ถ้าไม่มากวนตีนเขาก่อนอ่ะนะ
"พวกมึงนี่มัน...!!"
ฮาน่าคว้าแก้วเครื่องดื่มที่อยู่บนเคาน์เตอร์บาร์ดื่มรวดเดียวจนหมด เธอหมดคำจะพูดกับสองคนนี้จริงๆ
คามิลที่ได้เห็นฮาน่าหยิบแก้วเครื่องดื่มนั้นขึ้นมาดื่มก็ทำเอาเขาหน้าเหวอไปเล็กน้อย เพราะก่อนหน้านั้นเหมือนจะเห็นว่าผู้ชายคนนี้ใส่อะไรลงไปในเครื่องดื่มแก้วนี้
"ฮาน่า!"
"พวกมึงนี่มันแม่งโคตร...!! อึก!" สายตาของฮาน่าดูผิดหวังกับคนตรงหน้าเอามากๆ แต่ไม่รู้จะพูดอะไรออกไป นอกจากการหันหลังและเดินออกไปแทน
"อย่าให้กูเห็นมึงมาที่คลับของกูอีก!" คามิลพูด นั่นไม่ใช่คำขู่แต่มันคือคำเตือน ซึ่งก็แน่นอนว่าถ้าไม่คิดที่จะทำตาม ก็เตรียมตัวที่จะได้รับผลจากนี้ได้เลย
"มีอะไรวะไอ้มิล!?" ขุนเขาที่เห็นคามิลวิ่งออกมาจากคลับก็รีบตามออกมา พร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน
"ตามหาฮาน่าก่อน ไอ้เหี้ยนั่นเอายาอะไรก็ไม่รู้ใส่ไปในแก้วของฮาน่า" คามิลพูดอย่างลนลาน เพราะถ้ายาที่ใส่ไปในแก้วนั้นออกฤทธิ์ก่อนที่เขาจะเจอตัวเธอ มันจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีมากแน่ๆ
"สัสเอ้ย!!"