บทที่6
"จีน่าลูกทานข้าวสักหน่อยไหม"เพ็ญศรีถามเด็กน้อยจีน่าซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ เธอซึ่งตอนนี้เด็กน้อยกำลังนั่งมองไปยังโลงศพของผู้เป็นแม่
"น้องจีน่าไม่หิวค่ะคุณป้า"จีน่าเด็กสาวตัวน้อยที่สูญเสียผู้เป็นแม่ตั้งแต่ยังเด็กแถมผู้เป็นพ่อก็ไม่เคยไยดีพูดออกมาอย่างเหม่อลอย
"แต่ถ้าน้องจีน่าไม่ทานข้าวน้องจีน่าจะปวดท้องนะลูก"เพ็ญศรีพยายามเกลี้ยกล่อมให้เด็กหญิงตัวน้อยทานข้าวมันเป็นแบบนี้ทุก ๆ วันที่เธอต้องคอยเกลี้ยกล่อม
(......) แต่สิ่งที่เพ็ญศรีได้กลับมานั่นก็คือความเงียบ
"ถ้าน้องจีน่าไม่ทานข้าวคุณแม่ก็จะเป็นห่วงน้องจีน่านะคะน้องจีน่าอยากจะให้แม่เป็นห่วงน้องจีน่าเหรอ"คราวนี้เหมือนจะได้ผลเมื่อจีน่ายอมหันมามองเพ็ญศรี
"น้องจีน่าไม่อยากให้คุณแม่เป็นห่วงค่ะ แต่น้องจีน่าทานไม่ลง มันกลืนไม่ได้มันจุกไปหมด"จีน่าก้มหน้าพูด ทุกวันนี้เธอกินได้เพียงแต่น้ำข้าวเธอไม่ได้แตะมันสักเม็ดตั้งแต่ที่แม่ของเธอเสียไปเรียกได้ว่าจีน่าไม่เคยเจอกับเม็ดข้าวเลย
"โถ่ จีน่าลูกทำไมชีวิตหนูมันชั่งน่าสงสารขนาดนี้"เพ็ญศรีดึงจีน่าเข้ามากอดปลอบเธอรู้สึกสงสารเด็กผู้หญิงคนนี้จับใจ เพราะนอกจากผู้เป็นแม่จีน่าก็ไม่เหลือใคร ส่วนผู้เป็นพ่ออย่าไปพูดถึงเลยเพราะขนาดเมียตัวเองตายยังไม่โผล่หัวมาทั้ง ๆ ที่คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายพรุ่งนี้ก็จะเผาแล้ว
"คุณป้าขา ทำไมคุณพ่อถึงไม่มางานศพคุณแม่เลยล่ะคะ"เจอคำถามนี้เข้าไปเพ็ญศรีถึงกลับไปไม่เป็น เธอไม่รู้จะตอบเด็กน้อยว่ายังไงจะให้บอกเหรอว่าพ่อของตัวเองกำลังติดเมียน้อยอีกคนอย่างหนัก ขนาดวันที่เขารู้ว่าเมียของเขาตายเขายังไม่ชายตาแลแถมยังพูดว่า
"มันตายก็ดีแล้วอยู่ไปก็เกะกะ แล้วก็ฝากทำศพให้มันด้วยนะผมไม่ว่าง จะพาน้องทรายกับสิริไปเที่ยว"นิพลพูดก่อนจะเดินจูงมือเมียและลูกคนใหม่ขึ้นรถก่อนจะขับรถออกไปทิ้งไว้ให้จีน่ายืนร้องไห้ส่วนเพ็ญศรีก็ได้แต่กำมือแน่นรู้สึกไม่ชอบใจกับสามคนนั้นแต่เธอทำอะไรไม่ได้นอกเสียจากจัดงานศพให้
"คุณพ่อของหนูคือว่า...... "
"เขาคงกำลังมีความสุขกับน้าสิริและน้องทรายใช่ไหมคะคุณป้าเขาถึงเลยไม่มางานศพแม่ของหนู"จีน่าร้องไห้สะอื้นอย่างน่าสงสารเกิดเป็นเธอนี้มันชั่งน่าสงสารเสียจริง ๆ ไม่มีใครต้องการ
"หนูไม่ต้องร้องนะลูก หนูยังมีป้ายังมีคุณลุงยังมีพี่ตะวันที่จะคอยอยู่เคียงข้างหนูอยู่นะ"เพ็ญศรีพยายามพูดให้เด็กตัวน้อยไม่คิดมากเพราะแค่เธอสูญเสียผู้เป็นแม่มันก็เจ็บปวดมากพออยู่แล้ว
"ขอบคุณคุณป้ามากเลยนะคะที่เอ็นดูหนู"จีน่าดันตัวออกก่อนที่จะยกมือขึ้นไหว้ผู้ใหญ่อีกคนที่เธอนับถือ
"จ๊ะ งั้นคราวนี้หนูไปทานข้าวได้แล้วนะลูกเดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไป"
"ค่ะ น้องจีน่าจะกินข้าว"เพ็ญศรีลุกขึ้นก่อนที่จะจูงมือให้จีน่าลุกขึ้นตามก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปด้านหลังของศาลาที่มีอาหารเตรียมไว้เลี้ยงแขก.
"ตะวันลูก"เพ็ญศรีเรียกลูกชายของเธอที่กำลังจะทานข้าวอยู่พอดี
"ครับแม่"ตะวันมองไปยังแม่ตัวเองและมีเด็กหญิงจีน่าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แม่ของตัวเอง
"แม่ขอฝากลูกให้หาข้าวให้น้องทานด้วยได้ไหม"เพ็ญศรีดึงจีน่าให้ไปยืนอยู่ข้าง ๆ ตะวัน
"ได้สิครับ แล้วแม่จะไปไหนเหรอครับ"
"แม่จะไปอยู่หน้างาน จะไปช่วยคุณพ่อรับแขก"
"งั้นแม่ก็ไปเถอะครับ ส่วนน้องเดี๋ยวตะวันจัดการหาข้าวให้ทานเอง"
"งั้นแม่ฝากน้องด้วยนะลูก"ตะวันพยักหน้ามองแม่เขาที่กำลังเดินออกไปก่อนจะหันมามองเด็กผู้หญิงตัวน้อยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา
"ปะ เดี๋ยวพี่หาข้าวให้กิน"ตะวันจับหมับเข้าที่ข้อมือของจีน่าก่อนที่จะจูงไปยังโต๊ะที่ตัวเองเอาข้าวและแกงมาตั้งอยู่
"มากินข้าวกับพี่ก็แล้วกันเนอะ"
"ได้ค่ะ"จีน่าพยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะนั่งลงที่เก้าอี้
"นี่ข้าว ส่วนนั้นต้มจืดกำลังร้อน ๆ เลยตักเองได้ใช่ไหม"คำว่าต้มจืดที่ออกมาจากปากของตะวันทำให้จีน่ากำลังจะหยิบช้อนขึ้นไปตักถึงกับชะงักค้าง. สายตาของจีน่าที่มองไปยังถ้วยต้มจืดที่มีไอร้อนออกมาทำให้เธอหวนนึกไปถึงวันที่ผู้เป็นพ่อเอาหัวของเธอจุ่มมันลงไปในนั้น อีกทั้งวันนั้นยังเป็นวันเดียวกันที่แม่ของเธอได้จากเธอไปจีน่ามองถ้วยแกงจืดด้วยแววตาแดงก่ำเหมือนคนที่กำลังจะร้องไห้แต่น้ำตากลับไม่ไหลออกมา เธอมองไปที่ถ้วยแกงจืดนั่นโดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเธอกำช้อนที่ถืออยู่แน่นขนาดไหน
"จีน่า ๆ น้องเป็นอะไร"ตะวันเห็นจีน่าชะงักค้างอยู่นานก็รีบเขย่าตัวเรียกสติ
"ห๊ะ ๆ พี่ตะวันว่าอะไรนะคะเมื่อกี้น้องจีน่าไม่ทันฟัง"จีน่าหลุดออกมาจากความคิดของตัวเองรีบหันไปถาม
"พี่ถามว่าเป็นอะไรเห็นน้องนิ่งอยู่ตั้งนาน"
"เปล่าค่ะ น้องไม่ได้เป็นอะไร"จีน่าหลบสายตาของตะวันที่จ้องจะจับผิดอยู่ก่อนที่เธอจะเอื้อมมือไปตักแกงจืดใส่ถ้วยของตัวเองแล้วตักเข้าปาก
"ไม่เป็นไรก็ดีแล้วนะ รู้ไหมทุก ๆ คนเป็นห่วงน้อง"ทั้งพ่อแม่และรวมถึงเขาต่างเป็นห่วงจีน่าเด็กผู้หญิงตัวน้อยที่ต้องมาเจอกับเรื่องเลวร้ายตั้งแต่ยังเด็ก
"ขอบคุณพี่ตะวันและคุณลุงคุณป้าด้วยนะคะที่คอยเป็นห่วงและดีกับจีน่ามาตลอดต่างกับพ่อ"ประโยคสุดท้ายจีน่าพูดเสียงเบาหวิวแทบไม่ได้ยินและไม่ใช้กับตะวันที่นั่งใกล้จนได้ยินเสียงชัดเจน
"ถ้าเขาไม่มาก็ไม่เป็นไรนะ ยังมีพี่มีแม่มีพ่อที่ยังอยู่ตรงนี้ข้าง ๆ จีน่า"ตะวันบอกจีน่าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมยกมือขึ้นมาลูบหัวของเธอ คำพูดและสิ่งที่ตะวันทำทำให้จีน่าที่กำลังเศร้าสามารถยิ้มออกมาได้ถึงมันจะไม่เต็มปากก็เถอะและสิ่งที่ตะวันพูดมันทำให้จีน่าคิดได้ ว่าถึงพ่อจะไม่สนใจแต่ก็ยังมีคนที่รักอย่างคุณลุงคุณป้าและพี่ตะวันที่ยังคอยอยู่ข้าง ๆ เธอเสมอ
"ขอบคุณนะคะที่พี่ตะวันคอยอยู่เคียงข้างหนู"
"ไม่เป็นไร กินข้าวเถอะเดี๋ยวจะได้ออกไปที่หน้างาน"ทั้งสองเลิกคุยก่อนที่จะหันกลับไปกินข้าว จีน่าคอยมีตะวันคอยตักแกงให้อยู่เสมอและยังคอยเช็ดปากเมื่อเธอทานเลอะแถมยังโดนตะวันดุอีกเมื่อเธอทานข้าวหกข้าง ๆ จานแต่จีน่าก็ยังคงยิ้มรับ
"ฮึก คุณแม่ขาหลับให้สบายนะคะ น้องจีน่ารักและคิดถึงแม่"จีน่ายืนกอดรูปแม่เธอยืนมองไปยังกลุ่มควันสีดำที่ลอยขึ้นไปบนฟ้า
"ฮึก แม่จันทร์ไปสบายแล้วนะลูก"เพ็ญศรีเดินไปหยุดอยู่ข้าง ๆ จีน่าแล้วดึงเธอเข้ามาโอบ
"ต่อไปนี้จะมีลุงกับป้าคอยช่วยดูแลหนูเองนะลูก"นิวัฒน์บอกกับเด็กสาวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
"น้องจีน่าคิดถึงแม่จันทร์ค่ะ คุณลุงคุณป้า"จีน่าเงยมามองลุงกับป้าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอด้วยสายตาที่น่าสงสารจับหัวใจจนใคร ๆ เห็นก็ต่างพากันสงสารและเอ็นดู
"โถ่ลูก"เพ็ญศรีก็ไม่รู้จะทำยังไงดีจีน่าเสียใจมากสำหรับเด็กอายุแค่ไม่กี่ขวบที่ต้องมาสูญเสียแม่ไป
"ไม่ต้องร้องนะจีน่าเดี๋ยวไม่น่ารักนะ"ตะวันหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนรักของตัวเองที่มีชื่อปักไว้มาซับน้ำตาให้กับเด็กหญิงตัวน้อยที่ยืนร้องด้วยความคิดถึงแม่
"ขอบคุณนะคะ"จีน่ายิ้มขอบคุณเมื่อตะวันซับน้ำตาให้
"ไม่เป็นไร"ตะวันส่งยิ้มก่อนที่เขาจะเก็บเอาผ้าเช็ดหน้าเก็บแต่ก็ถูกจีน่าขัดเอาไว้ก่อน
"เดี๋ยวไว้น้องจีน่าเอาผ้าเช็ดหน้าของพี่ตะวันไปซักให้นะคะ"เพราะผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นมันเลอะน้ำตาของเธอไปแล้วเธอก็อยากจะซักให้
"อะ งั้นพี่ฝากด้วยก็แล้วกันนะ"ตะวันยื่นผ้าเช็ดหน้าไปตรงหน้าก่อนที่จีหน้าจะรับไปถือเอาไว้
"กลับบ้านกันเถอะลูกพรุ่งนี้เราจะได้มาเก็บกระดูกแล้วเอาไปลอยอังคารกัน"
"ค่ะคุณป้า"จีน่าหันไปมองกลุ่มควันที่ลอยขึ้นอีกครั้งก่อนที่เธอจะเดินกลับไปที่รถเพื่อกลับบ้าน
สุดท้ายตั้งแต่วันแรกนิพลก็ไม่แม้จะมางานศพของเมียตัวเองเพราะเขานั้นพาสิริและเม็ดทรายไปเที่ยวทะเลกันอย่างมีความสุขโดยที่เขาไม่เคยคิดได้เลยว่าเขาจะต้องมางานศพของเมียอีกคนจนกระทั่งวันเผาก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของนิพล