เขตหวงรัก ที่ 1 : ทายาทของมัสชิโม่กับแอซเซอร์
ณ คอนโดหรูใจกลางเมืองหลวง ประเทศญี่ปุ่น
“อืม...”
ริมฝีปาแดงเม้มแน่นกลั้นเสียงครางแหบไว้ในลำคอ สายตาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่กำลังใช้ปาก ครอบครองท่อนเอ็นเนื้อ เธอช้อนสายตาหยาดเยิ้มด้วยฤทธิ์สารเสพติด ขึ้นมองใบหน้าหล่อ
ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีสวย อ้ากว้างครอบครองจนสุด แล้วดูดเลียราวไอศกรีมแท่งโปรด เธอเกร็งปลายลิ้นเลียไล่วนจากส่วนหัวรูดรั้งลงจนสุด
“โอกาซัง...” เสียงแหบพร่าของผู้ชายอีกดังขึ้นข้างใบหู ก่อนจะรับรู้ถึงปลายนิ้วดันสอดผ่านช่องอ่อนไหว
“อ๊ะ!”
เสียงหวานหลุดคราง เธอละสายตาจากท่อนเอ็นเนื้อตรงหน้า หันกลับไปมองยังผู้ชายอีกคน ทั้งสองคนมีใบหน้าถอดแบบกันออกมา เพราะเขาคือฝาแฝด
“โอกาซัง จะไปไหนเหรอครับ ทำไมให้เราไปด้วยไม่ได้” น้ำเสียงออดอ้อนของผู้ชายที่ตรงหน้าเอ่ยถามขึ้น
โอกาซังที่หมายถึง ‘แม่’ ในภาษาญี่ปุ่น พวกเขาใช้เรียกหญิงสาวตรงหน้า นั่นคือคำเรียกที่เธอสั่งทำให้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ผู้ชายทั้งสองถูกจัดส่งมาดูแลเธอเมื่อหลายเดือนก่อน
สองฝาแฝดที่เพียงได้พบกันครั้งแรก เธอก็ยอมเสียเงินจำนวนหลายล้าน เพื่อให้ตัวพวกเขามาไว้เป็นของตัวเอง ในตอนกลางวันคือลูกบุญธรรม ในเวลากลางคืนคือ คู่นอนบนเตียง
“ไปไม่ได้ มันเรื่องธุรกิจของแม่” ถึงจะให้พวกเขาเรียกว่าแม่ แต่อายุของเธอ ก็พึ่งจะก้าวเข้าสู่วัย 38 ปีไม่นานมานี่เอง
“ทำไมล่ะครับ พวกเราอยากอยู่กับโอกาซัง” ผู้ชายที่อยู่ด้านหลัง โน้มตัวลงมากอด เขาใช้มือข้างหนึ่งบีบเคล้นทรวงอก มืออีกข้างเริ่มขยับปลายนิ้วเข้าออกเร่งจังหวะเร็วขึ้น
“โอกาซังไม่รักแล้วเหรอครับ ทำไม...ถึงไม่บอก ถ้าโอกาซังหายไปพวกเราจะอยู่ยังไง” น้ำเสียงปนเศร้าของผู้ชายตรงหน้า เริ่มทำให้เธอใจอ่อน
“ลูคัส เป็นห่วงโอกาซังเหรอคะ” หญิงสาวยกมือขึ้นสัมผัสข้างแก้มเนียน ใบหน้าหล่อของฝาแฝด ทำให้เธอทั้งหวงแหนและหลงรักเขาจนถอนตัวไม่คืน ยิ่งลูคัสพูดด้วยเสียงนุ่มนวลกับเธอยิ่งทำให้หัวใจเต้นถี่แรง
“เป็นห่วงสิครับ ก็ผม...รักโอกาซัง” สิ่งที่เขาพูด มันตรงกันข้ามกับความรู้สึกจริงทุกอย่าง
“ทำไม ถามแต่คัสล่ะครับ” ผู้ชายอีกคนก็พยายามเรียกร้องความสนใจจากเธอด้วยเช่นกัน
“ลูก้าเป็นห่วงโอกาซังเหมือนกันเหรอคะ” เธอหันมาถามฝาแฝดอีกคน
“ครับ เป็นห่วง...มาก” สิ้นเสียงเขาก็จูบลงกลางแผ่นหลังเนียน แล้วขยับยันกายขึ้นหลังตรง ท่อนเอ็นแข็งถูไถกับรอยแยก แล้วขยับดันเข้าสู่ภายในอีกครั้ง
“อ๊ะ!” เสียงครางหวาน ไม่ว่ากี่ครั้งที่ของทั้งคู่เข้ามาในร่างกาย มันทำให้เธอรู้สึกดีแบบสุด ๆ ที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครตอบสนองได้เท่าพวกเขา
“โอกาซัง...จะไม่บอกจริงเหรอครับ” ลูคัสใช้มือแตะข้างแก้ม ให้เธอหันมาสบตา
“อะ จะบอกก็ได้ แล้วลูคัสอยากรู้ในสถานะอะไรคะ...” บั้นท้ายกลมเด้งรับแก่นกายที่กระแทกเข้ามา ในขณะที่โน้มใบหน้าข้าใกล้ท่อนเอ็นแข็งที่อยู่ตรงหน้า
สายตาคมจดจ้องร่างบางตรงหน้า ซึ่งอีกฝ่ายกำลังส่งสายตายั่วยวนเขา ลูคัสโน้มใบหน้าเข้าใกล้เธอ แล้วจูบลงบนหน้าผาก ริมฝีปากค่อย ๆ ขยับพูด ในสิ่งที่เธออยากได้ยิน
“สามีของโอกาซังครับ” ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของเธอเป็นประกาย ราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่เฝ้ามารอมาตลอดชีวิต
“จะไปเจอกลุ่มคู่ค้า ที่ถนน.... ในตลาดลับมีที่ประชุมของพวกเราอยู่ ถ้าการค้าครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แม่จะจัดรางวัลให้ลูคัสกับลูก้าอย่างดี” เธอใช้เงินเลี้ยงดูพวกเขา โดยรับรู้เพียงว่าทั้งสอง เป็นฝาแฝดกำพร้า ทำงานขายร่างกายเท่านั้น
“ครับ โอกาซัง/ครับ โอกาซัง” เสียงของสองแฝดเอ่ยขึ้นพร้อมกัน แล้วบทรักเร่าร้อนบนเตียงก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง ระหว่างพวกเขาทั้งสามคน
หลายชั่วโมงต่อมา
“อื้อ...อื้อ!”
เสียงของหญิงสาวในร่างเปลือยเปล่าที่นอนอยู่บนเตียง เธอถูกมัดแขนและขายึดไว้กับเตียง ทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมาก็ร้องสุดเสียง เธอรับรู้ได้ถึงร่างกายที่ถูกหมัดเอาไว้
“ตื่นแล้วเหรอครับ” เสียงคุ้นหูดังขึ้น เสียงนี้คือหนึ่งในฝาแฝดที่เธอเลี้ยงดู แต่ภายใต้น้ำเสียงนั่นมันรู้สึกแปลกประหลาดไป
“...อื้อ!” ปากที่ถูกยัดด้วยผ้าแล้วปิดทับด้วยเทป ทำให้เธอส่งเสียงได้เพียงเท่านี้
ทันทีที่สบสายตาเข้ากับผู้ชายที่เดินเข้ามาหยุดยืนข้างเตียง ใบหน้าถอดแบบมาจากลูคัสและลูก้า แต่ทุกอย่างของคนตรงหน้า มันให้ความรู้สึกว่าไม่ใช่ลูกบุญธรรมของเธอ
สายตาหยุดมองในมือ เขาถือเข็มฉีดยาที่ขนาดใหญ่กว่าปกติ มันถูกต่อเข้ากับสายยางเชื่อมอยู่กับถุงเก็บเลือด
“สวัสดีครับ โอกาซัง ผมชื่อลาเดล” เขาเรียกอย่างเช่นทั้งสองคนนั้น แต่ชื่อที่เอ่ยออกมา กลับไปไม่ใช่ลูกบุญธรรมของเธอ
“อื้อ อื้อ!” ยิ่งพยายามดิ้น ข้อมือก็ยิ่งเป็นแผลจากกุญแจมือที่ล็อกอยู่
“ไม่ต้องดิ้นหรอกครับ ยังไงก็ไม่หลุด”
“...อื้อ” น้ำตาไหลออกจากหางตา เธอไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น จนลาเดลรับรู้ถึงความสงสัยนั้น จึงเริ่มอธิบายให้เธอฟัง
“อธิบายอย่างแรกก่อนเลย พวกเราเป็นแฝดสามครับ”
“....!” เธอนิ่งค้างไปชั่วขณะ
“ขอบคุณที่เสียเงินหลายล้านเพื่อแลกกับตัวคัสและก้า เงินนั้นก็ไม่ได้หายไปไหน เราเอามันไปจ่ายเข้ามูลนิธิที่แอซเซอร์ดูแลอยู่ เรียบร้อยแล้วครับ” ลาเดลอธิบาย พร้อมกับค่อย ๆ จิ้มเข็มลงบนแขนของเธอ
“อื้อ!” เธอทั้งพยายามดิ้นและส่งเสียงร้อง แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีใครเข้ามาในห้องนี้ได้
กึก กึก!
“คัสกับก้าฝากบอกว่าขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ธุรกิจของโอกาซังจะผ่านไปได้ด้วยดีอย่างแน่นอน เดี๋ยวลูกบุญธรรมจะเข้าไปดูแลให้เอง”
“....!” ตลอดหลายเดือน ที่แฝงตัวเข้ามาทำให้ตายใจ เพื่อต้องการรู้เรื่องราวของธุรกิจของเธอ
“เลือดหนึ่งพันซีซี ขายได้กี่แสนนะครับในตลาดของพวกคุณ” ลาเดลเดินไปเปิดเครื่องที่ตั้งอยู่ ทำให้เลือดของเธอถูกดูดออกไป เร็วเกินกว่าร่างกายจะรับไหว
“อื้อ!!” ไม่ว่าจะดิ้นยังไงก็ไม่ได้ผล
“เราจะไม่ยุ่งกับพวกคุณเลย ถ้าไม่เอาชื่อมัสชิโม่ไปแอบอ้างทำเรื่องพวกนี้” ลาเดลส่งยิ้มให้กับผู้หญิงที่นอนอยู่ เธอเริ่มหน้าซีดลงเรื่อย ๆ
“อึก...” ตอนนี้เหมือนจะไร้เรี่ยวแรงแล้วสินะ
“เครื่องมันแรงไปเหรอครับดูหน้าซีด แต่อดทนหน่อยนะครับ ทีพวกคนเร่ร่อนที่คุณจับไปขายอวัยวะ เขายังไม่มีสิทธิ์มานอนบนเตียงนุ่ม” ถึงน้ำเสียงจะนุ่มนวล แต่สายตาและรอยยิ้มนั้นเยือกเย็น
“....” เลือดในร่างกายถูกดูดออกไปเยอะเกินกว่าจะรับไหว
“ก่อนตาย รู้จักพวกเราเอาไว้สักหน่อยกันนะครับ ลูคัสกับลูก้าเป็นบอสของมัสชิโม่ ส่วนผมชื่อลาเดล มีน้องสาวอีกคนชื่อซินเซีย เราดูแลแอซเซอร์” ร่างสูงย่อตัวนั่งลง สายตามองไปยังหญิงสาวที่อยู่ในสภาพใกล้ตาย
“....” การเสียเลือดจำนวนมากในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะช็อกและเสียชีวิตในที่สุด
“มัสชิโม่กับแอซเซอร์ เป็นกลุ่มมาเฟียของอิตาลี ที่มีการดูแลครอบคุลมมาถึงญี่ปุ่นกับจีน แต่โอกาซังคงรู้จักพ่อแม่เราอยู่แล้ว แค่ไม่รู้ว่าทายาทคือใครใช่มั้ยครับ...งั้นก็ ยินดีที่ได้รู้จักครับ โอกาซัง”
สิ้นเสียงลาเดลก็ลุกขึ้นยืน เดินออกจากห้อง ปล่อยให้เครื่องทำงานของมันต่อไป ทุกอย่างเดี๋ยวลูกน้องของเขาก็เข้ามาจัดการเอง