บทที่ 5 เล่นสนุก
คาร่าขมวดคิ้ว หรือว่าลีเกิดติดใจยัยบัวเข้าแล้ว เธอลังเลเล็กน้อยแต่รู้มาว่าลีไม่เคยบังคับใคร เขาหล่อรวยขนาดนี้คงเพียงจะสนใจยัยบัวเข้า ถ้าเพื่อนเธอไม่สนใจเขาก็คงปล่อยเธอกลับบ้านเอง
เอาล่ะ คาร่าไม่ได้คิดว่าตัวเองผิด และเธอก็อยากลองเขาสักครั้งเผื่อว่าเขาและเธอจะเข้ากันได้เป็นอย่างดีโอกาสสานความสัมพันธ์ก็อยู่ตรงหน้านี้แล้ว
"ก็ได้ค่ะ เอ็นดูยัยนั่นหน่อยแล้วกันนะคะ นางไม่เคยมาก่อนพวกไก่อ่อนน่ะค่ะ"
ลีไม่ตอบเพียงแต่ยิ้มบาง ๆ ให้ตายเถอะ โคตรพ่อโคตรแม่หล่อชะมัด คาร่าโน้มลำคอของเขาลงมาในขณะที่มือของเขาล้วงเข้ามาในกางเกงของเธอแล้วทาบทับมือเล็กของคาร่าเอาไว้
"อื้อ อาาา"
บัวกินขนมไปมากจนแน่นท้อง มองไปที่ผนังรอคอยอย่างหงุดหงิด คิดจะเข้าไปดูเพื่อนแต่คนที่นั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูไม่ยอมให้เข้า เธอจึงได้แต่กลับมานั่งที่เดิมแล้วเล่นโทรศัพท์รอ
"ทำไมเข้าไปนานจังเลยนะ บอกสักแค่ผีเสื้อไม่ใช่เหรอ ผีเสื้อตัวเล็ก ไม่ถึงชั่วโมงก็น่าจะเสร็จแล้วหรือว่าช่างสักไม่มีฝีมือกัน"
กระทั่งคาร่าเดินออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ผมของเธอยุ่งเล็กน้อย สายตาของคนหลายคู่ยังมองมายังเธอแต่คาร่าไม่สนใจ กลับสบตาของผู้หญิงบางคนกลับไปอย่างท้าทาย บัววางโทรศัพท์ลงแล้วบ่นเสียงไม่ดังมาก
"โห....มึงไปนานมากไม่ใช่ได้ผีเสื้อมาทั้งสวนเลยเหรอวะ"
บัวลากเสียงยาวพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมา
"เออ ลายมันยากอ่ะ เลยนานไปหน่อย...."
"ผีเสื้อนี้เหรอยาก ไหนกูดูหน่อย"
คาร่าหัวเราะ "อีบ้ามึงจะดูได้ไง มันสักอยู่ตรงนี้"
คาร่าชี้ไปที่บริเวณที่ลับของเธอ
"เออ แล้วค่อยถ่ายรูปมา"
บัวขมวดคิ้ว เธอสงสัยท่าทางของเพื่อนขึ้นมา
"แล้วทำไมเดินแบบนั้นอะ.."
คาร่าแก้ตัวน้ำขุ่น
"กู..ล้มอะ เลยเดินไม่สะดวก..เดี๋ยวกูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ มึงรอนี่แป๊บ"
คาร่าพูดจบก็เดินออกไป บัวเองก็แปลกใจกับท่าทีแปลกๆของเพื่อนสาว..ดูมีลับลมคมในแปลกๆ
"อ้าว มึงคาร่าเดี๋ยว"
ก่อนที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นก็มีพนักงานเดินมาเรียกเธอให้เข้าไปสักเป็นรายต่อไป
"คิวต่อไปเชิญ...คุณบัวครับ"
"อะ...เอ่ออ...ฉันหรอคะ"...
บัวถามพลางชี้นิ้วมาที่ตัวเอง เมื่อคาร่าไม่อยู่บัวเกิดกลัวขึ้นมาเล็กน้อย ปกติเพื่อนของเธอต้องอยู่ด้วยตลอดแต่ตอนนี้เธอต้องสักคนเดียวเหรอ ในใจของบัวเต้นระรัวจู่ ๆ เธอก็รู้สึกแปลก ๆ
"ใช่ครับ...คุณบัว..ยอนฮวาใช่หรือเปล่า จะมาสักไม่ใช่เหรอครับ เข้ามาสิครับหรือถ้าไม่เข้ามาก็กลับไปเลยครับจะได้เลื่อนคิวอื่นเข้ามาแทน"
พนักงานคนนั้นทำท่ารำคาญเมื่อเห็นท่าทางลังเลของเธอ บัวจึงเกรงใจเขาเธอจึงพยักหน้าไม่รอเพื่อนแล้วก็ได้
"ค่ะ....ได้ค่ะ "
บัวเดินตามพนักงานเข้าไปในห้องอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มที่รออยู่ในห้องกำลังรอเธอด้วยใจที่จดจ่อ
บัวเดินเข้ามาก็เจอกับชายหนุ่มตัวสูงใหญ่แต่งตัวด้วยชุดสีดำทั้งชุดใส่แมสปิดปากนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงมุมห้อง
"อะ..เอ่ออ...ต้องนอนตรงนี้ใช่ไหมคะ"
ไม่มีเสียงตอบกลับ..มีเพียงใบหน้าที่ปิดด้วยผ้าปิดปากสีดำพยักขึ้นลงเป็นคำตอบ
บัวยืนเลิ่กลั่กอย่างทำอะไรไม่ถูก...บรรยากาศเหมือนฉากๆหนึ่งในหนังฆาตกรรมไม่มีผิด เมื่อเกิดความกลัวความไม่ไว้ใจปนหวาดระแวงก็เกิดขึ้น ....ไม่สักแล้วดีกว่า....
"ขอโทษด้วยนะคะ..ฉันขอไม่สักแล้วค่ะ"
บัวพูดจบก็หันหลังโดนไปเปิดประตู...แต่ทว่า
มันล็อค
บัวยังไม่คิดอะไรจึงหันไปถามเขา
"เอ่อ..ขอโทษนะคะ...ประตูมันล็อค"
เขายังคงเงียบ บัวคิดว่าเขาไม่ได้ยินจึงบอกเขาเสียงดังขึ้น
"คุณคะ ประตูมันล็อคค่ะ ฉันเปิดไม่ออก ช่วยมาดูหน่อยค่ะ"
เขายังคงเงียบ บัวเริ่มกลัวและรู้สึกใจไม่ดีขึ้นมา
บัวยิ่งทำอะไรไม่ถูกมากขึ้นไปอีก...หรือจะถูกหลอกมาฆ่าทิ้งกันนะ
เธอไม่รอช้า
"มีใครอยู่ข้างนอกบ้าง...ประตูมันล็อคค่ะ!....คาร่าา...มีใครอยู่บ้างไหม.."
ปึง...ตึงงงงงง
เสียงบางอย่างลอยมากระทบผนังห้องเฉียดหัวเธอไปแค่นิดเดียว หญิงสาวสะดุ้งตกใจตัวแข็งทื่อ...มือไม้เริ่มสั่น..หันกลับไปมองที่มาของเสียง
แอปเปิ้ล!
ใช่..สิ่งที่ลอยมากระแทกกับผนังห้องเฉียดหัวของเธอไปก็คือลูกแอปเปิ้ลสีแดงสด มันกลิ้งไปกลิ้งมาจนมาหยุดอยู่ตรงปลายเท่าของเธอ..บัวมองเขาอย่างหวาดระแวงถอยหนีจนหลังชนประตู
ปากร้องตะโกนก้อง
"ช่วยด้วย ช่วยด้วย"
ฉึก!!
เสียงของบัวพลันขาดหายเมื่อมีมีดปริศนาลอยละลิ่วมาปักแอปเปิ้ลลูกนั้นอย่างแม่นยำ บัวตกใจจนร้องไม่ออกไปชั่วครู่ สุดท้ายแล้วด้วยความอัดอั้นเธอจึงกรีดร้องออกมา
"กรี๊ดดดดดดด"
ผะ ผู้ชายคนนี้ทำไมน่ากลัวจัง ไม่เอาแล้ว ไม่สักอีกแล้วหรือจะเป็นฆาตกรต่อเนื่อง