Countdown เริงสวาทข้ามปี

11.0K · จบแล้ว
กาสะลอง
9
บท
16.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“อุ๊ย... ” ฉันสะดุ้ง ก็ใครจะคิดว่าเขาจะใจกล้าบ้าระห่ำถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้ ทั้งที่เราเพิ่งเจอกันได้ไม่นาน คาร์ลอสจู่โรมเร็วชนิดที่ว่าฉันตั้งตัวไม่ทัน เขามองซ้ายมองขวาแล้วค่อยๆ ขยับลงมาใต้โต๊ะ คุกเข่าหันหน้าเข้าหาง่ามขาของฉัน เลิกชายกระโปรงแล้วแยกขา รั้งขอบแพนตี้ลายลูกไม้บางๆ ตรงกลางเป้าเบี่ยงมาไว้ตรงซอกขา จากนั้นก็เงยหน้าปาดลิ้นลงกลางร่องสวาทที่อูมอ้าเป็นกลีบทะลักขึ้นมาจากพุ่มขนสีดำระยับ โอบล้อมพูทุเรียนเอาไว้ “อ๊ะ… อ๊อย... ” ฉันสะดุ้งคราง ใครจะคิดว่าเขาจะกล้าจู่โจมดิบเถื่อนดุดันขนาดนี้ ถึงขั้นงุดหน้าเข้ามารุกรานร่องสวาทของฉันที่เพิ่งเจอหน้ากันได้ไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันนอกใจนางเอกเก่งรักหวานๆรักแรกพบโรงแรม/มหาลัย

ตอนที่ 1

คืนสุดท้ายของปีพุทธศักราช 2561

“พี่เล็ก… คืนนี้ไปเคาท์ดาวน์กันนะคะ”

ฉันยกโทรศัพท์มือถือขึ้นแนบหู กรอกเสียงออดอ้อนไปหาแฟนหนุ่มที่อยู่ปลายสาย

“คืนนี้มีบอล… นัดชิงด้วย พี่ไม่อยากออกไปไหน ว่าจะดูบอลอยู่ห้องกับเพื่อนๆ”

พี่เล็กตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ประโยคที่ได้ยินทำให้ฉันรู้สึกจุกแน่นในอก น้อยใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เมื่อรู้ว่าพี่เล็กเห็นว่าการดูบอลกับเพื่อนๆ สำคัญกว่าการพาแฟนไปเที่ยวในคืน Countdown ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

“มาที่ห้องพี่นะ… ”

พี่เล็กชวน

“ไม่อ่ะ… ”

ฉันรู้สึกเบื่อการนั่งกินเหล้าแล้วเชียร์บอลตามประสาผู้ชาย ก็แน่ละสิ… เพราะฉันเป็นผู้หญิง สรุปว่าคืนนี้ฉันตัดสินใจจะออกไปแรดคนเดียว

“ทำไมล่ะ”

พี่เล็กถามย้อนกลับมาเมื่อฉันปฏิเสธ

“เบื่อ… ”

ฉันตอบเพียงสั้นๆ แต่ก็ชัดเจนด้วยความหมายของมันเอง

“เป็นอะไร”

พี่เล็กถามเสียงเข้ม รู้ว่าฉันโกรธ ก็มันน่าโกรธไหมล่ะ

“เปล่า… ไม่มีอะไร พี่เล็กดูบอลกับเพื่อนๆ ไปเถอะ”

ฉันตอบแล้วกดวางสายในทันที วันนี้ฉันรู้สึกได้ชัดเจนมาก ว่าความหวานชื่นระหว่างฉันกับพี่เล็กนับวันจะยิ่งจืดจางลงทุกที

ยิ่งคบกันนานวัน หลังๆ เราสองคนเริ่มห่างกัน แต่ยิ่งถอยห่างออกมาเพื่อให้เกิดช่องว่างและระยะห่างระหว่างกัน… ก็ยิ่งทำให้รู้ว่าเรามองเห็นกันชัดเจน จึงได้รู้ว่าเราสองคนมีหลายๆ อย่างที่แตกต่างกันเหลือเกิน เพราะว่าพี่เล็กเป็นคนชอบใช้ชีวิตสมถะ เขาชอบอะไรที่เรียบง่าย ต่างจากฉันที่ชอบแสวงหาเรื่องราวตื่นเต้นท้าทายให้ชีวิต

“ไม่เป็นไร… คืนนี้ออกไปแรดคนเดียวก็ได้วะ”

ฉันกล่าวกับตัวเองด้วยน้ำเสียงประชดชีวิต ก่อนจะออกไปซื้อเบียร์กระป๋องและบุหรี่ที่หน้าปากซอย

ฉันกลับเข้ามานั่งดื่มเบียร์แล้วสูบบุหรี่ไปพลาง ทั้งที่ก็ไม่เคยสูบ จึงไอค่อกแค่กสำลักควันอยู่ครู่ใหญ่ๆ เพราะอยากประชดชีวิต

ฉันมองฟ้าแล้วจู่ๆ ก็ร้องไห้ออกมา ปล่อยให้น้ำตาไหลพราก ขณะกระดกเบียร์ไปพลาง ครั้นแล้วความคิดมืดดำและถ้อยคำของพี่เล็กก็ผุดวาบขึ้นมาในหัวของฉัน

‘ชอบฝรั่งก็ไปหาผัวฝรั่งรวยๆ สักคนแล้วไปใช้ชีวิตให้สุขสบายอยู่เมืองนอก… อย่ามาเอาผู้ชายจนๆ แบบพี่’

ฉันครุ่นคิดถึงคำพูดของพี่เล็กเมื่อเดือนก่อน แกหึงหวงเพราะว่ามีฝรั่งคนหนึ่งมาตามจีบฉัน

แต่ฉันไม่ได้คิดอะไร และไม่ได้คิดจะนอกใจพี่เล็กเลยสักนิด กระทั่งวันนี้… ไม่รู้สิ บางทีระหว่างเขากับฉันอาจจะไม่กันไม่รอด

ฉันยกเบียร์ขึ้นดื่มจนหมดกระป๋อง ปาดน้ำตาทิ้งก่อนจะเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ออกมาแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสุดเซ็กซี่ คว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรเรียกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่หน้าปากซอยให้มารับ

ในเวลาต่อมา

“โห... แต่งตัวซะสวยเช้งเชียว จะไปเที่ยวไหนรึวะแก้ว”

พี่ตั๊ก ทอมบอยรูปหล่อที่มีอาชีพขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างประจำอยู่วินหน้าปากซอย เอ่ยถามฉันด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ ที่เห็นฉันแต่งหน้าจัดจ้าน ดูสวยดุปนเร่าร้อนจนแกตะลึงมองแล้วมองอีก

“จะไปเที่ยวงานเค้าท์ดาวน์ในเมืองจ้ะพี่ตั๊ก กะว่าจะไปหาผัวฝรั่งสักคน... แถวไหนมีฝรั่งให้กินบ้างล่ะจ๊ะพี่ตั๊ก”

ฉันแกล้งถามทีเล่นทีจริง เพราะว่าเรียกใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างของแกจนสนิทสนม

“ถ้าอยากกินฝรั่งขาวๆ ก็ไปแถวตรอกข้าวสาร… แต่ถ้าอยากลองของดำก็ต้องไปแถวซอยนานาโน่น ที่นั่นเค้าว่าพวกนิโกรเพียบ”

พี่ตั๊กตอบกลับมาทำเอาฉันฮาลั่น แกรู้จริง

“จะไปจริงอ่ะ… ”

พี่ตั๊กหรี่ตามองหน้าฉัน คงเป็นเพราะวันนี้การแต่งเนื้อแต่งตัวเซ็กซี่สะดุดตา ยิ่งทำให้ฉันดูเป็นสาวเปรี้ยวแรด ลิปสติกสีแดงสดที่เคลือบริมฝีปากเอิบอิ่มเอาไว้ ทำให้แลดูเป็นผู้หญิงแก่นกร้านโชกโชนชีวิต ลุคของฉันในวันนี้จะว่าคล้ายผู้หญิงขายบริการก็ไม่ผิด

“พูดจริงสิจ๊ะ... แล้วพี่ตั๊กว่าหน้าตาอย่างฉันพอจะหาผัวฝรั่งกับเค้าสักคนได้ไหมจ๊ะ”

ฉันแกล้งถามเหมือนเช็คเรตติ้ง

“โอ้ย... สวยอย่างเอ็งเป็นสิบคนก็ได้”

พี่ตั๊กพูดตรงๆ ฉันยิ้มขำมากกว่าจะคิดเป็นจริงเป็นจัง รีบขึ้นมานั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ พี่ตั๊กพามาส่งที่สถานีรถไฟฟ้า ครู่ใหญ่ต่อมาฉันก็มายืนอยู่กลางดงฝรั่งที่ตรอกข้าวสาร

คืน Countdown ไม่แปลกที่คืนนี้ผู้คนหนาแน่น ฉันตัดสินใจเดินเข้ามาในผับเล็กๆ แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่กลางซอยของตรอกข้าวสาร

ฉันเดินลึกเข้ามาด้านในสุดของห้องสี่เหลี่ยมซึ่งไม่กว้างนัก ภายใต้บรรยากาศของราตรีกาลอันหม่นมัว ถูกย้อมเอาไว้ด้วยแสงสีสลัวๆ จากแสงไฟที่สาดมาจากเวทีซึ่งแลเห็นนักร้องหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผมยาว มีรอยสักเป็นรูปเสืออยู่ที่ต้นแขน หน้าตาของผู้ชายคนนี้ออกไปทางเกาหลีมากกว่าฝรั่ง

ฉันทรุดร่างลงนั่งบนโต๊ะ กวาดสายตาไปรอบๆ ขาเรียวตวัดขึ้นไขว่ห้าง ยังไม่ทันที่จะสั่งเครื่องดื่ม จู่ๆ เด็กเสิร์ฟก็เดินมาที่โต๊ะพร้อมกับสุราในแก้ว บอกว่าผู้ชายชาวต่างชาติคนหนึ่งสั่งมาให้ฉัน

“ผู้ชายฝรั่ง… เอ่อ คนไหนคะ?”