บทที่ 7
"ติดต่อต้นขั้วเช็คนี่ด่วนเลย เผื่อเจ้านี่มันจะไปขโมยใครเขามา"
"ได้ค่ะนายน้อย" แล้วเธอก็กรอกข้อมูลในคอมพิวเตอร์เพื่อหาต้นสังกัดของต้นขั้วใบนี้ แล้วเธอก็พบว่าเป็นต้นขั้วของบริษัทยักษ์ใหญ่บริษัทค้าเหล้าชื่อดัง เธอก็โทรติดต่อไปด้วยทันที
"สวัสดีค่ะ ดิฉันพรประภา โทรมาจากธนาคารซันนี่ นะค่ะ ดิฉันมีความสงสัย และอยากจะขอตรวจเช็คหมายเลขxxxxxx ที่ออกจากทางบริษัทค่ะ"
ทางด้านปลายสายเมื่อได้ยินหมายเลขเช็คแล้วก็รีบกรอกข้อมูลในคอมพิวเตอร์ แล้วปรากฏข้อมูลที่เธอไม่สามารถเข้าดูได้ เธอจึงติดต่อไปที่ผู้จัดการสาขาทันที จนในที่สุดสายก็ถูกโอนเข้ามาหา ยมทูตกาตน์ในลำดับสุดท้าย
"สวัสดีครับ ผมพงพัฒน์ ประธานกรรมการบริษัท Alen Ranner ในเครือภาคเหนือครับ ได้ยินว่าทางคุณต้องการตรวจสอบเช็คหมายเลขxxxxxxของทางเราหรอครับ"
"ใ..ใช..ใช่ค่ะ ทางเราเกิดความสงสัยผู้ที่มาขึ้นเงินจากทางคุณ เพราะสถานะทางการเงินของเขา ไม่น่าจะเป็นไปได้เลยที่จะทำเงินได้มากมายขนาดนี้ ทางเราจึงอยากให้คุณระบุได้ไหมค่ะว่าได้ให้เช็คไว้กับใครค่ะ"
"อย่างนั้นหรือครับผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาชื่ออะไร เอาแบบนี้ก็แล้วกันครับ ผมจะส่งคนของผมไปที่นั้นเพื่อตรวจสอบก็แล้วกัน" พูดจบยมทูตกานต์ก็วางสาย และติดต่อให้กิ่งให้รีบไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วน เพราะเช็คใบนั้นมันเช็คที่เขาได้ให้ไว้กับผู้แทนเทพแห่งความตาย
ทางด้านนทีก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เขาได้รับเช็คมาอย่างถูกต้อง ทางด้านของนายน้อยปอก็เอาแต่ขู่จะให้เขาเข้าคุกให้ได้ และทางด้านของฝนเองก็เป็นห่วงอยู่กลัวว่าพี่รหัสเธอจะหลงผิดไปขโมยใครเขามาจริงๆ แต่ในจริงใจลึกก็ยังเชื่อพี่รหัสอย่างสุดหัวใจ ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดต่างๆนาๆ
5 นาทีต่อมา ยมทูตกิ่งได้เดินเข้ามาพร้อมยมทูตอีกสองคนด้านหลัง แล้วกิ่งก็พูดขึ้นต่อ
"สวัสดีค่ะท่าน ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรค่ะ" เธอพูดแล้วโค้งตัวให้กับนที
นทีก็ยืนขึ้นแล้วโค้งกลับเล็กน้อยให้กับเหล่ายมทูต พร้อมกับกล่าวต่อเพื่อเริ่มสนทนา แต่ก็มีเสียงของนายน้อยปอดังขึ้นมาจากด้านหลังก่อน
"ทางธนาคารแค่สงสัยว่า เจ้าเหลือขอนี่จะเป็นหัวขโมย เราจึงจับเขาไว้ก่อนเพื่อจะให้ทางคุณดำเนินคดีได้อย่างถูกต้อง"
‘หากเจ้าเหลือขอหรอ นี่มันตัวแทนเทพเลยนะ แล้วถามตัวแทนเทพเป็นคนเหลือขอแล้วพวกเราละจะเป็นอะไร’ กิ่งคิดในใจก่อนจะเอยถาม "ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครค่ะ" เธอถามพร้อมกับแสดงสีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก
"ผมชื่อ พรชัย เป็นลูกของคุณพ่อสมยศ กรรมการบริหารธนาคารแห่งนี้เชียวนะครับ ว่าแต่จะให้เรียกตำรวจมาเลยไหมครับ จะได้จับเจ้างั่งนี่เข้าคุกไปเลย"
ทางด้านกิ่งก็ไม่อยากจะว่าอะไรต่อ เธอเพียงแค่ยื่นมือไปแตะที่หูที่ใส่หูฟังบลูทูธอยู่พร้อมกับกล่าว "ค่ะ ค่ะ ค่ะ" เธอพูดอยู่แค่นั้น จนนายน้อยปอเห็นการกระทำของเธอก็ยิ่งได้ใจยิ่งขึ้นไปอีก ก่อนที่กิ่งจะหันกับมาพูดกับนทีอีกครั้ง
"ต้องขออภัยท่านผู้แทนด้วยนะเจ้าค่ะที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ดิฉันจะรีบจัดการปัญหาให้เรียบร้อยค่ะ ... เธอนะรีบขึ้นเงินให้ท่านเร็วเข้า" เธอกล่าวขอโทษนที และหันไปพูดกับพนักงานสาวต่อ
"ค่ะ ฉันจะรีบดำเนินการค่ะ"
"อะไรกันเนี่ย ทงท่านอะไรกัน มันก็แค่ยาจกนะครับ คุณจำคนผิดหรือป่าว" นายน้อยปอพูดออกมาอย่างงงงวย
"เห้อ ถ้านายจะไม่ให้เกียรติฉันขนาดนี้ ฉันไปใช้บริการที่อื่นก็ได้นะ เอ้ารีบขึ้นเงินแล้วปิดบัญชีของผมเลยนะครับ ผมต้องการเงินสดตอนนี้" เขาพูดกับพนักงานก่อนจะหันไปพูดกับยมทูตกิ่ง
"ยังไงคุณกิ่งก็ช่วยผมโยกย้ายเงินด้วยนะครับ ผมไม่ได้นำกระเป่ามาด้วยเลยสักใบ"
"ได้ค่ะท่านผู้แทน ... รีบดำเนินการด้วยสาวน้อย"
"เออคือ... " เธอไม่กล้าที่จะดำเนินการใดๆต่อ ตามปกติเธอต้องเรียกผู้จัดการแล้ว และด้วยเงินจำนวนเป็น100ล้าน มันก็ต้องใช้เวลาในการจัดเตรียม
"จะเท่าไหร่กัน กะอีแค่ 100 ล้าน เธอนะรีบไปเตรียมมาเลย เอาของคนอื่นมาก่อนก็ได้ แล้วก็ขึ้นบัญชีดำของเจ้างั่งนี่ไว้ไม่ให้มาทำธุรกรรมของธนาคารเราอีก"
เมื่อนายน้อยปอเป็นคนพูดเธอก็ไม่มีอะไรต้องรับผิดชอบแล้ว เธอโล่งในส่วนหนึ่ง แล้วก็รีบไปเตรียมเงินตามที่ได้รับสั่ง
น้ำฝนที่เงียบไปนานก็ไม่พอใจเช่นเดียวกัน เธอคิดในใจว่า ‘หรือว่าเธอควรปิดบัญชีด้วยเลยดีไหม’ เธอเพียงแค่คิดอยู่เพียงในใจเท่านั้น แต่มันคงเป็นไปได้ยากมันต้องขึ้นอยู่กับคุณพ่อของเธออีกทีว่าจะเปลี่ยนไปใช้บริการของเจ้าอื่นไหม
เวลาไหลผ่านไปราวๆ 30 นาที นทีก็ได้รับเงินจนครบตามจำนวน 100 ล้านบาทกับอีก 3000 บาทเศษ เมื่อเขาได้รับเงินแล้ว ก็เดินออกไปโดยที่ไม่พูดไม่จาอะไรออกมาเลยสักคำ แต่ก็มีเหล่ายมทูตเดินตามมาจากด้านหลัง รวมถึงน้ำฝนก็ตามนทีมาด้วย
นทีเลือกที่จะเดินไปธนาคารอีกเจ้าหนึ่งซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ธนาคารโกเด้น และเมื่อพนักงานรักษาความปลอดภัยเห็นนทีที่มีผู้ติดตาม ก็รีบเปิดประตูให้ทนีในทันที แล้วนทีก็เดินไปกดบัตรคิวที่ตู้กดอัตโนมัต
นทีก็นั่งรอที่เก้าอี้รับรองปกติ แต่สิ่งที่ไม่ปกติคือเหล่าๆยมทูตชุดดำที่ยืนอยู่ข้างหลังพร้อมกับถือกระเป๋าเงินหลายใบ และไม่นานนักก็มีผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวเหมือนกับพนักงานธนาคารทั่วไป แต่แตกต่างกันนิดหน่อยเพื่อบ่งบอกฐานะเดินเข้ามาทางนที ก่อนเธอจะพูดว่า
"สวัสดีค่ะ ฉันวาสนาค่ะ เป็นผู้จัดการธนาคารสาขานี้ค่ะ ยังไงขอเชิญคุณท่านในห้องรับรองทางนี้เลยค่ะ"
เธอไม่ใช่คนโง่ที่จะดูไม่ออกว่านทีเป็นบุคคลสำหรับขนาดไหน ไม่งั้นคงไม่มีบอดี้การ์ดยืนอยู่ด้านหลังพร้อมกับกระเป๋าอีกหลายใบ
"อ่อ... ครับ" เขาตอบกลับแบบงงๆ แล้วทั้งหมดก็เดินไปทางห้องรับรอง