1.รักล่มพร้อมงานพัง!
•1• รักล่มพร้อมงานพัง!
'พวกเราเลิกกันเถอะ!'
น้ำเสียงเอาจริงเอาจังจากชายตรงหน้า
ทำให้หัวใจฉันมันเต้นผิดจังหวะกระตุกวูบ ตัวสั่นคลอนชาวาบเบาโหวงเหวงเคว้งคว้าง ราวกับลอยอ้างว้างไร้หลักแหล่งยึดเกาะ เหมือนจะกระจายตนเองไปรวมกลุ่มก้อนอยู่ ภายในหมู่มวลของอากาศของร้านแห่งนี้
ค่อยๆ เงยใบหน้าละสายตา ออกห่างไกลจากถ้วยไอศกรีมอย่างมึนงง ฝืนใจกลืนลงคออย่างเหนียวหนืด ก่อนถามเขากลับอย่างยากลำบากสุดๆ
'เกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างเราอย่างนั้นเหรอ?'
ดวงตาเริ่มแข็งกร้าว เต็มไปด้วยความโกรธคลุกเคล้าความเสียใจ น้ำตาเอ่อคลอเบ้าจนแทบล้นทะลักทลาย มันเกือบไหลรินออกมา ชโลมอาบสองแก้มแล้วจังหวะนั้น
ฝืนใจตัวเองกัดฟันถามเขาต่อ พร้อมรอยยิ้มหวาน ดั่งเช่นเคยในครั้งเมื่อวันวาน
'ผมมีคนอื่นแล้ว! ถ้าอย่างนั้นจะแนะนำให้รู้จักกันเอาไว้'
เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แววตานิ่งสงบราวกับไม่รู้สึกอะไรสักนิดเดียว กวักมือเรียกหาผู้หญิงอีกคนทันที เธอนั่งทานไอศกรีมอยู่ตรงโต๊ะถัดไป ให้เดินเข้ามาหาตนเอง ได้แต่เบิกตากว้างอ้าปากค้างยิ่งกว่าเดิม เขาแอบคบซ้อนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เป็นสิ่งที่ถามย้ำเตือนอยู่ภายในสมองอันน้อยนิด
แต่ไม่อยากพูดมันออกไปเลยด้วยซ้ำ กลัวจะดูเป็นตัวตลกเพิ่มขึ้นอีก แค่นี้เขาสองข้างก็ผุดอยู่บนศีรษะแล้ว เนื่องจากทำตัวไม่ถูกร้อนรนมากในจังหวะนี้ รอฟังอย่างอื่นก่อนดีกว่าใจเย็นก่อนนะ เผื่ออาจจะมีบางสิ่ง พอทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้างแต่ผิดคาด!
'ผมแอบคุยกับฟางมาสักพักแล้ว! จนเกิดความรู้สึกลึกซึ้งไม่สามารถขาดเธอได้ ผมทบทวนตนเองอย่างละเอียดซ้ำๆ ยิ่งพบว่าฟางเหมาะกับการเป็นแฟนผม มากกว่าเธออีกนะ!
เพราะฉะนั้นแล้ว! วันนี้พวกเรามาจบความสัมพันธ์กันเถอะ ข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่ภายในคอนโดของคุณ เชิญโยนทิ้งไปให้หมดได้เลย ผมไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ที่จะพูดบอกมีแค่นี้แหละขอให้โชคดีนะ'
กล่าวเหตุผลและตัดบทจบประโยค พร้อมลุกขึ้นยืนเขาเตรียมเดินหนีฉันไป ยิ่งฟังก็ยิ่งโมโหหงุดหงิดมากกว่าเดิม หัวใจดวงนี้กลายมาเป็นโดนจุดชนวนให้ลุกโชน มันถูกเติมเต็มด้วยความโกรธแค้นใจเป็นที่สุด
เมื่อความรักตลอด3ปี ถูกพังทลายลงจากน้ำมือคนที่ฉันยึดมั่น คิดจะผูกพันกับเขาไปอีกแสนนาน ต้นไม้ที่คอยเฝ้าถนอมเอาใจใส่ ถูกบ่มเพาะด้วยความอดทน บัดนี้จะย้ายกระถางหนีไปหาคนอื่นแล้วฮึ่ม!
ถ้าอย่างนั้นคงต้องทำเป็นแข็งใจ ปล่อยให้มันไปแล้วแหละ อย่าได้คิดเผลอฉุดรั้งเอาไว้เชียว ยกถ้วยแก้วใบใหญ่ใส่ไอศกรีมขึ้นมาถือไว้ กำมันจนแน่นถนัดง้างเรียวแขนขว้างเต็มแรง ผลสรุปคือเป้าหมายไม่ทันได้ระวังตัว หัวแตกเลือดไหลซึมตามระเบียบเรียบร้อยดี
ฉันเดินไปจ่ายเงินค่าเสียหายทันที แต่ต้องชะงักฝีเท้าหยุดลงหันหน้ากลับมา เมื่อเขาโวยวายเสียงดังลั่น เรียกสายตาจากทุกคนภายในร้านนี้ จ้องมองมายังพวกเราอย่างเป็นจุดหมายเดียวกัน กลายเป็นเรื่องสนุกสนานที่ใหญ่โตทันที แถมคนอื่นยังคงอึ้งตาค้างหยุดชะงักตั้งแต่ตอน ถ้วยไอศกรีมปาโดนใส่หัวคน พร้อมร่วงหล่นมาตกแตกเสียงดังกึกก้องร้านแล้ว
'แบบนี้มันจะมากเกินไปแล้วนะ! ผมจะแจ้งความดำเนินคดี เอาเรื่องกับคุณให้ถึงที่สุด! ข้อหาทำร้ายร่างกายผม!'
ตะเบ็งเสียงดังด้วยความโมโหและเจ็บใจ
'ถ้าอย่างนั้นแค่หัวแตกยังไม่พอหรอกนะ อยากได้แผลสดเพิ่มใช่ไหม ทุกคนดูเอาไว้นะ ถ้าเป็นพวกคุณจะโกรธกันไหม ผู้ชายคนนี้คบกับฉันมาตลอด3ปีเต็ม
คอยบีบบังคับให้ฉันต้องเป็นในสิ่งที่เขาชอบ ไม่เคยรักฉันด้วยใจจริง จากอุปนิสัยของฉันเลยสักนิด หลอกให้ทุ่มเททั้งเวลาทั้งหัวใจทั้งเงินทอง
ซึ่งอยู่มาวันหนึ่ง เขาเปิดตัวว่าคุยกับผู้หญิงอีกคน ยังจะมีหน้าพามาแนะนำให้รู้จักกันอีก ต้นไม้ที่เฝ้าถนอมหล่อเลี้ยงมาเป็นปีๆ วันนี้อยากเปลี่ยนกระถางไปอยู่กับคนอื่น
ถ้าเป็นพวกคุณที่นั่งอยู่จะรู้สึกอย่างไรบ้าง บางคนคงร้องไห้ฟูมฟายจบลงแค่ตรงนั้นแล้ว
แต่สำหรับฉัน มันคือการถูกหักหลังและหยามศักดิ์ศรีกันมาก เพราะฉะนั้นต้องมีคนเจ็บกันบ้างแหละค่ะ! ไอ้คนใจดำไม่ห่วงใยความรู้สึกคนอื่น มันสมควรโดนสั่งสอนให้จำบ้างแล้วหึ!'
ฉันกล่าวระบายอย่างหมดเปลือก ทุกคนที่ได้รับฟังช่วยตะโกนด่าทอ โห่ร้องแทนกันยกใหญ่ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าพึงพอใจอย่างมาก จนคนสร้างเรื่องอับอายเหล่านี้ วิ่งหนีเตลิดออกจากร้านไปแทนฉัน
ทุกคนพากันเข้ามาแสดงความเห็นใจ พร้อมอวยพรให้เจอความรักที่ดีกว่านี้ เมื่อพนักงานกำลังกวาดพื้นเก็บเศษแก้วที่แตก ฉันจึงแสดงความรับผิดชอบโดยการทำแทนเอง
หลังจากนั้นก็แวะเข้าร้านอาหาร ตั้งใจกินเพื่อเติมพลังงานที่สูญเสีย ถึงแม้จะได้ระบายอารมณ์แล้ว แต่หัวใจคงยังเจ็บช้ำอยู่ไม่น้อย!
ความโศกเศร้าจากความผิดหวัง ทำให้กินไม่หยุดยั้งอาหารและขนมหวาน ช่วยเยียวยาหัวใจอันบอบช้ำได้จริง วันเวลาเลยผ่านไปนานนับหลายปี
จนวันนี้น้ำหนักของฉันพุ่งทะยานสูง ทำให้อาชีพที่ต้องใช้หุ่นและหน้าตา พังทลายลงตามไปกับความรักครั้งนั้นด้วย เป็นจุดตกต่ำที่สุดของช่วงชีวิต คนอย่างฉันเลยก็ว่าได้ น้ำตาที่ไหลรินออกมาเป็นทะเล มันก็หยุดลงตามกาลเวลาที่แสนยาวนานนี้
3ปีผ่านไป..
ฉันคือแคนดี้อายุ28ปี สาวโลกสวยใช้ชีวิตบนทุ่งดอกไม้ เคยมองโลกในแง่ดีมาตลอด เพราะเจอไอ้ความรักย่ำแย่เข้า จึงกลายเป็นคนปิดกั้นหัวใจ มาวันนี้หุ่นพังยังไม่พอตกงานอีกด้วย อย่างน้อยก็ยังได้ใช้เงินเก็บที่หามาได้ อย่างยากลำบากแสนเข็ญตลอดหลายปี ซึ่งซ่อนเอาไว้ไม่ให้ไอ้หมอนั่นรู้ ถ้ามันรู้คงไถฉันเป็นตู้กดเงินสดน่ะสิ!
บทเรียนแรกที่ได้รับรู้คือ ผู้หญิงที่หาเงินด้วยตนเองได้ จะไม่มีวันบาดเจ็บจากอะไรทั้งนั้นค่ะ ตั้งแต่เลิกกับคนสาSเลวนั่นแล้ว ก็อยู่กับตนเองไม่ได้เคลื่อนไหว ช่องทางการติดต่อบนโทรศัพท์เลย จู่ๆ ก็ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานแต่ง ของเพื่อนสมัยวัยรุ่นอยู่คนหนึ่ง
ซึ่งฉันไม่ได้อายที่ตัวเองหุ่นพังหรอกนะ ความจริงที่ไม่กล้าไปเพราะรู้ว่าไอ้คนนิสัยไม่ดี ได้รับเชิญด้วยเหมือนกัน บังเอิญมันเป็นเพื่อนทางฝ่ายเจ้าบ่าวน่ะสิ!
ยอมรับว่ายังลืมเขาไม่ลง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ถ้าถามว่าฉันจะกลับไปอีกไหม คงมั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีวัน กลับไปยืนอยู่ตรงจุดเดิมอย่างแน่นอน มันเหลือแค่เพียงความรู้สึกเจ็บปวดสาหัส ที่เขาฝากเอาไว้ซึ่งมันยังคงฝังลึกลงกระดูกดำ
โรงแรมหรูCL
ค่อยๆ ก้าวเท้าออกจากรถยนต์ กดรีโมตคอนโทรลล็อกพร้อมเดิน มุ่งหน้าเข้าสู่ด้านในลิฟต์ของทางโรงแรม แต่เนื่องจากมาถึงช้าประตูมันจึงค่อยๆ ปิดลงแต่โชคดีที่กดปุ่มค้างได้ทันเวลา เหมือนผู้ชายด้านในจะเห็นฉันด้วยแหละ จึงกดเปิดให้เข้ามายืนก้มหน้าลง พร้อมเอ่ยขอบคุณอย่างจริงใจ
แต่ไม่ได้สังเกตใบหน้าของเขาเลยสักนิด เพราะมัวรีบร้อนอยู่มางานสาย จนพิธีเริ่มดำเนินการไปได้สักพักแล้วด้วย เมื่อแอบชำเลืองมองไฟแสดงเลขชั้น เขาเองก็กดเลือกไปที่ชั้นเดียวกัน จึงชวนเขาคุยเพราะพวกเรา ยืนกันอยู่แค่เพียงสองคนเท่านั้น ภายในพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสแห่งนี้
'ไปงานแต่งเหมือนกันเหรอคะ'
น้ำเสียงนุ่มนวลเอ่ยปากถาม แต่ไม่ได้หันไปตั้งใจสบสายตาอีกคนหรอกนะ มองเพียงเงาเลือนราง ผ่านหน้าประตูลิฟต์แทน รับรู้ได้ว่าเค้าโครงหน้าตาของเขา จะต้องเป็นคนหล่อเหลามากเลยแหละ
'ครับ!'
โทนเสียงทุ้มต่ำกล่าวเพียงประโยคแสนสั้น
จึงเม้มริมฝีปากแน่นยืนนิ่งเงียบ ไม่อยากเพิ่มความอึดอัดใจต่อกัน แอบเหล่มองเขาแทนก่อนจะหันหน้ากลับมา เมื่อประตูเปิดก้าวเท้าออกด้วยความว่องไว กลัวเพื่อนเจ้าสาวที่ชวนมางานแต่งจะโกรธ เพราะมาไม่ทันนาทีโยนช่อดอกไม้
สองเท้าก้าวเดินเข้ามาภายในงาน ซึ่งเป็นจังหวะที่ทุกคนต่างเฝ้ารอคอย ย่อมไม่ใช่คนอย่างฉัน ที่จะต้องการเลยแม้แต่น้อย เจ้าสาวยืนหันหลังให้แก่แขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย กำลังโยนช่อดอกไม้อยู่ ปัญหามันไม่ใช่ตรงนั้นหรอกนะ
ประเด็นคือสิ่งที่ลอยเคว้งคว้างในอากาศ เริ่มเข้ามาใกล้ร่างกายอันใหญ่โตของฉันแล้ว โอ้ไม่นะฉันยังไม่พร้อม ที่จะแต่งงานกับใครทั้งนั้น กำลังจะก้าวเท้าถอยหลัง เพื่อหลีกหนีความเป็นจริงแต่ดันหกล้ม นั่งลงบนพรมแดงและไอ้สิ่งที่ฉันตั้งใจ หลบเลี่ยงแทบตายสุดชีวิต ร่วงหล่นกระทบศีรษะ เคลื่อนย้ายด้วยแรงโน้มถ่วง มาอยู่บนหน้าตักของฉันแทน ให้ตายเถอะ! ถอนหายใจเฮือกใหญ่
ทุกสายตาภายในงานจับจ้องมาทางฉันกันหมด ราวกับหัวเราะเยาะขบขันและแอบเหน็บแนม อยู่ภายในใจกันไปหมด พยายามลุกขึ้นแต่ก็มีฝ่ามือหนึ่ง ยื่นออกมาราวกับตั้งใจจะช่วยจริง ๆ คล้ายจะเป็นชายคนเดียวกัน ที่เคยอยู่ในลิฟต์กับฉันก่อนหน้านี้