ตอนที่ 5
หญิงสาวว่า ครั้นพอหนวดเคราสากระคายถากทิ่มลงบนผิวเนื้ออ่อนๆ อีกทั้งสายตาของคาร์ลอสที่ทอดทอมาอย่างโหยหา ก็ทำเอาเนื้อตัวของเธออ่อนปวกเปียกเป็นขี้ผึ้งที่ถูกไฟลน แทบจะหลอมละลายกับรสชาติจุมพิตร้อนแรงของเขา เธอยอมรับว่าคาร์ลอสเล้าโลมเก่งเหลือเกิน
นาทีต่อมา คาร์ลอสก็แกะกระดุมเสื้อของเทร่าจนหลุดออกจากกัน
“คุณสวยเหลือเกิน”
ร่างสูงใหญ่พึมพำเบาๆ ดวงตาวาวราวกับว่าไม่เคยเห็นมาก่อน รีบทาบฝ่ามือลงบนหนั่นเนื้อทรวงอกอวบใหญ่ รูปทรงของพุ่มทรวงสาวช่างเย้ายวนใจจนต้องใช้นิ้วโป้งปาดป้าย เคล้นคลึงรอบวงป้านสีเนื้อรอบๆ ปลายปทุมตูมตั้งทำเอาหัวใจเต้น
“อื้อ… เสียวค่ะ”
คาร์ลอสทำให้เทร่าต้องพรูลมหายใจกะท่อนกะแท่นออกมาอย่างสับสน หลุดเสียงครางออกมาด้วยความลืมตัว
แม้ว่าท่าทางของหญิงสาวจะทำราวกับว่าขัดขืนในตอนแรก หากแต่นาทีนี้กลับแอ่นอกเข้าใส่อุ้งมือของชายหนุ่มเสียเอง ด้วยไม่อาจต้านทานลีลาการเล้าโลมร้ายกาจของคาร์ลอสผู้เร่าร้อน
“ให้ผมรักคุณตรงนี้นะครับ”
เขาออดอ้อนเสียงอ่อน
“ไม่เอาค่ะ เข้าไปในห้องดีกว่านะคะ”
“ถ้าเข้าไปในห้องผมขอจัดหนักเป็นสองเท่า”
คาร์ลอสทำเสียงทะเล้น ค่อยๆ โน้มใบหน้าหล่อเหลาเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นกายหอมกรุ่นของเทร่า ปลายจมูกโด่งเป็นสันแตะลงมาที่พวงแก้มแดงระเรื่อ แนบใบหน้าระคายเคราเคล้าคลึงแก้มสาวแล้วจูบซ้ำๆ ที่ซอกคอและลาดไหล่จนปรากฏรอยแดงให้เห็น
“คุณหอมน่ากินเหลือเกิน”
เขาพึมพำด้วยความหลงใหล ทำราวกับว่าเธอเป็นของหวานอะไรสักอย่างที่น่าลิ้มลองรสชาติเสียนี่กระไร กระทั่งใบหน้าของเทร่าแดงซ่านไปด้วยสีของโลหิตที่เริ่มฉีดแรงขึ้นทุกที
“ถ้าอยากกินก็ตามมาสิคะ เบบี๋”
เทร่าชักชวนด้วยน้ำเสียงดัดจริตสุดๆ เธอวิ่งหนีออกมาช้าๆ เหลียวกลับไปส่งสายตายั่วเย้าให้ร่างสูงใหญ่ก้าวตามมาติดๆ
การปลุกเร้าอย่างมีชั้นเชิงลีลาของคาร์ลอส ทำให้เทร่ารู้สึกได้ว่าตัวเองเหมือนเชื้อไฟที่พร้อมจะจุดติดได้ตลอดเวลา เธอยอมรับว่าร่างกายของเธอกำลังกระสันหาความเป็นชายชาตรีของเขาเช่นกัน
ครู่ต่อมาภายในห้องพักสุดหรูริมเกาะฮาวายก็กลายเป็นวิมานสถานของคาร์ลอสกับเทร่า ทั้งสองร่วมรักกันอย่างพร่ำเพรื่อ ครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะผล็อยหลับลงไปพร้อมๆ กันด้วยความอ่อนระโหยโรยแรง
สัปดาห์ต่อมา ที่ประเทศสเปน
โมนิก้าตรงรี่เข้ามาหาคาร์ลอสในห้องทำงาน
“บอสใหญ่คะ เมื่อครู่มีโทรศัพท์จากผู้จัดการสาขาที่เมืองไทยค่ะ รายงานเข้ามาว่ามีเรื่องด่วน”
โมนิก้าบอกกับเจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่ที่นั่งเอนกายพิงพนักเก้าอี้อยู่ภายในห้องทำงาน หล่อนมีหน้าที่คัดกรองทุกสายที่โทรเข้ามาหาคาร์ลอส
ครั้นเมื่อชายหนุ่มพยักหน้าให้สัญญาณ โมนิก้าจึงโอนสายเข้ามาที่เครื่องโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของเขาในทันที
คาร์ลอสรับสาย
เขาใช้เวลาพูดคุยครู่สั้นๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดก่อนจะวางสายลงด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวอย่างเห็นได้ชัด เมื่อได้ข่าวจากผู้จัดการส่วนภูมิภาคว่า CRF สาขาเมืองไทยเกิดเรื่องขึ้นแล้ว เหตุเกิดจากพนักงานทำการยักยอกเงินของบริษัท
“พรุ่งนี้ผมจะไปตรวจสาขาที่ประเทศไทย”
ตั้งแต่เปิดสาขาที่เมืองไทยคาร์ลอสยังไม่มีโอกาสได้มาเห็นด้วยตัวเองสักครั้ง คราวนี้นับเป็นโอกาสดีที่เขาจะเดินทางมาตรวจเยี่ยมสาขาที่เมืองไทย แม้ว่าเหตุผลแท้จริงที่เดินทางมาครั้งนี้ก็เพื่อสะสางปัญหากรณีพนักงานยักยอกเงินของ CRF ก็ตาม
“เอ่อ... พรุ่งนี้”
‘เร็วไปมั้ยคะบอส?’ โมนิก้าทักท้วงอยู่ในใจ ทั้งที่อยู่ทำงานกับคาร์ลอสมานานจนรู้ว่าลูกชายตระกูลโรดิเกซคนนี้สามารถเปลี่ยนใจได้วันละหลายๆ ครั้ง แต่ให้ตายเถอะโรบิ้นให้ดับดิ้นเถอะโรเบิร์ต ถ้าไปพรุ่งนี้หล่อนจะเตรียมการให้ทันใจเขาได้ยังไง
“ผมจะไปพรุ่งนี้ คุณจัดการให้ได้มั้ย? ถ้าทำไม่ได้ผมจะจ้างเลขาคนใหม่ให้มาทำแทน”
คาร์ลอสย้ำเสียงหนัก แกล้งขู่เมื่อเห็นว่าโมนิก้าทำหน้าเครียด
“ว้าย! ได้สิคะ ได้ๆ มีอะไรบ้างที่คนอย่างโมนิก้าทำไม่ได้”
เลขาร่างอวบรีบรับปากเพราะกลัวเสียงาน ท่าทางอิดออดในตอนแรกหายไปทันที ก็ใครบ้างล่ะไม่อยากทำงานกับคาร์ลอส เพราะว่า CRF สามารถจ่ายเงินเดือนและโบนัสชนิดที่ว่าบริษัทอื่นๆ ไม่สามารถให้ได้
วันต่อมาคาร์ลอสก็เดินทางมาถึงเมืองไทยด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว และในตอนบ่ายของวันเดียวกันนั้น เขานั่งลีมูซีนคันหรูที่เช่าเอาไว้บริการตลอดสัปดาห์ในระหว่างพำนักอยู่เมืองไทย ให้มาส่งยังสำนักงาน CRF ที่ตั้งอยู่บนตึกสูงตระหง่านใจกลางเมืองหลวงของประเทศไทย
“สวัสดีครับคุณคาร์ลอส”
ร่างสูงสง่าในชุดสูทสีดำสุดหรูยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าผู้จัดการสาขาที่กระวีกระวาดให้การต้อนรับเมื่อชายหนุ่มปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูทางเข้า
สายตาทุกคู่ของพนักงานต่างจับจ้องมาที่เขาอย่างตะลึงพรึงเพริดเป็นตาเดียวกันราวกับนัดหมาย แวบแรกทุกคนนึกว่าเขาคือนายแบบหรือไม่ก็พระเอกระดับฮอลลีวูด
การมาถึงของคาร์ลอสทำเอาสาวน้อยสาวใหญ่รวมไปถึงเก้งกวางบ่างชะนีนั่งอ้าปากค้างน้ำลายยืดย้อยด้วยความลืมตัว นึกว่าซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกมาเยือนสาขายังไงยังงั้น