บท
ตั้งค่า

แผนร้าย 1/4

“ปล่อย!” ฉันรีบสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนของเลโอ แล้วขยับถอยไปยืนห่างจากเขาประมาณสองเมตร “นายเล่นบ้าอะไรเนี่ย” ฉันโวยใส่ทันทีที่ได้สติ

“ก็แค่หาเรื่องออกมาจากตรงนั้น ไม่ได้พิศวาสเธอหรอก อย่าเข้าใจผิดไปล่ะ” นั้นไง คิดไว้แล้วไม่มีผิด นี่สิ ถึงจะใช่เลโอตัวจริง

“นายก็แค่พาฉันเดินออกมา ไม่เห็นต้องหอมแก้มฉันเลย”

“แค่นี้เอง ทำเป็นหวงไปได้”

“นายนี่มัน...”

“ฉันทำไม?” เลโอเดินเข้ามาชิดตัว ฉันเองก็ก้าวถอยหลังอย่างระแวง “นึกว่าจะแน่”

“ฉันแน่อยู่แล้ว”

“ชิ เก่งแต่ปากอย่ามาพูดมากเลยดีกว่า”

“นายนั่นแหละที่เก่งแต่ปาก”

“อยากลองดูไหมล่ะ”

คำพูดและแววตาที่แสดงออกมามันทำให้ฉันตีความหมายไปไกล ฉันไม่น่าต่อปากต่อคำกับเขาเลย ที่เขาพูดเขาคงไม่ได้คิดอะไรหรอกมีแต่ฉันนี้แหละที่ชอบคิดไปเอง และก็ชอบคิดไปไกลซะด้วย

“กลับบ้านกันแจน” ฉันเรียกหาแจนเพื่อตัดบทสนทนากับเลโอ

“เดี๋ยวสิ” ร่างสูงเดินมาขวางหน้าก่อนที่ฉันจะเดินหนี “เธอมาทำอะไรที่นี่...” ตาคมจ้องมองฉันอย่างจับผิด

“ก็มาซื้อกระเป๋าไง” ฉันเลี่ยงการสบตากับเลโอ

“หลบตาฉันทำไม” ปลายคางถูกมือบังคับให้หันไปหาเขา ฉันได้แต่อ้าปากค้างเพราะนึกหาคำตอบไม่ทัน “ไหนบอกว่าจะไม่สนใจไง ไม่ว่าฉันจะไปกับใครที่ไหน เธอก็จะไม่สน ลืมแล้วเหรอ” เลโอปล่อยมือจากปลายคางของฉันแล้วลดมือลงไปล้วงกระเป๋ากางเกง เลโอย้ำข้อตกลงระหว่างเราที่ฉันเป็นคนพูดเองและก็ดันผิดคำพูดซะเอง 

“ฉันก็ไม่ได้สนนิ อะไรทำให้นายคิดว่าฉันสนล่ะ” ถึงแม้จะรู้สึกผิดแต่ฉันก็ไม่ยอมจำนนง่ายๆ 

“ทุกอย่างที่เธอทำ...มันบอกหมดแล้ว” เหมือนร่างโดนสตั๊ดไปสามวิ นี่ฉันแสดงออกชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย

“ฮ่าๆ ๆ ๆ ดูหน้าเธอสิ ยัยบื้อเอ๊ย ฮ่าๆ” เลโอยืนขำจนตัวโยนและฉันก็ยืนงงเป็นไก่ตาแตก “ฉันรู้อยู่หรอกน่า ว่าแม่ส่งเธอมา”

อ๋อ...เขาอำฉันสินะ เกือบไปแล้วไหมล่ะ เกือบจะยอมรับออกไปตรงๆ ซะแล้ว

“รู้ก็ดีแล้ว ฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาอธิบาย” ฉันแอบพ่นลมหายใจแรงอย่างโล่งอก

“ฉันไปล่ะ” เลโอหมุนตัวหันหลังให้ก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้า

“นั้นนายจะไปไหน” ฉันรีบถามก่อนที่เขาจะเดินไปไกล

“ไปเที่ยว” เลโอหันมาตอบพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากนิดๆ 

“แล้วนายจะกลับดึกไหม” ฉันไม่รู้ว่าอะไรมันดลใจให้ถามเขาออกไปแบบนั้น 

เลโอทำท่าคุ้นคิด “ไม่แน่ใจ อาจจะดึกรึอาจจะไม่กลับ” พูดจบ เลโอก็เดินจากไปทันที ฉันได้แต่ยืนชะเง้อคอมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินไปไกลแล้ว ฉันอยากจะถามเขา...ว่าเขาจะกลับมากินข้าวที่บ้านหรือเปล่า วันนี้ฉันลงมือทำกับข้าวเองทุกอย่างเลยนะและอยากให้เขาอยู่ทานข้าวด้วยกัน ก็ได้แต่ถามอยู่ในใจ...

ST ผับ

อยากจะบอกว่าฉันเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องเลย

ใส่ใจดูแลเธอสักนิดก็ไม่เคย …. ไม่เคยเลย

แต่เธอคือเรื่องที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้น­กับฉัน

ฉันรู้ว่าเธอเหมาะสมคู่ควรกับสิ่งที่ดีกว่­า

วันที่สับสนรู้ไว้ว่าเธอนั้นมีค่า

โฉมงามที่ใครเขาตามใฝ่หา

อยู่ที่ใดใครๆ ก็ตามไขว่คว้า

และผมไม่สนใจ Baby I Don’ t Give A F*ck What They Say

And I don’ t care, baby, I don’ t give a f*ck what they say

คุณรู้ว่าผม Smoke Weed ….

You know I smoke weed

แต่ผม Smoke Weed อยู่ใน Studio Get High With Ajay

But I smoke weed in the studio, getting high with Ajay

Yeah .. คุณรู้ดีผม Get High

Yeah, you know full well I get high

I Got Promethazine With Codeine Now Let’ s Ride

                                                                                    Best Thing – Illslick

“ทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้นล่ะค่ะ” สาวสวยในชุดแดงรัดรูปอวดสัดส่วนสไตล์นางแบบ ผมบรอนซ์ดัดลอนยาวถึงกลางหลังสะบัดไปมายามเธอก้าวเดิน เอมม่าย่อตัวนั่งลงช้าๆ ก่อนจะขยับเข้าประชิดตัวผู้ชายที่เธอกำลังพยายามอ่อยอยู่ เขาคือทายาทห้างฯ ดังผู้เป็นที่หมายตาของผู้หญิงหลายคนรวมถึงเธอด้วย

“แอบตามผมมาเหรอ” เหมือนเอ่ยปากถามแค่เป็นพิธี เอมม่าคิดแบบนั้น เพราะสายตาของเลโอไม่ได้หันมามองเธอเลยสักนิดทั้งที่เธอลงทุนแต่งตัวมายั่วเขาซะขนาดนี้ก็ยังไม่สนใจเธออีก ซึ่งมันทำให้เธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก

“ผู้หญิงคนนั้น..ภรรยาคุณเหรอคะ” เอมม่าปล่อยผ่านเรื่องที่เลโอทำเมินใส่เธอแล้วเอ่ยถามในสิ่งที่ค้างคาใจตั้งแต่อยู่ที่ห้างฯ แล้ว

“ก็ตามที่บอกแหละ” เลโอยังแสดงท่าทีเฉยชาเหมือนเดิม

“แล้วทำไมถึงยังไปห้างฯ กับดีดี้ได้ล่ะค่ะ”

“ทำไมจะไปไม่ได้ล่ะ” เลโอหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วกระดกเข้าปากรวดเดียวหมดแก้ว

“ภรรยาคุณอาจจะหึงหรือหวงคุณได้”

“แล้วคุณล่ะ...หึงผมไหม” เลโอหันมายิ้มหวานให้แก่เธอซึ่งมันทำให้เอมม่าใจสั่นแทบอยากจะกระโจนเข้าหาเขาแล้วฟัดแรงๆ ให้หายคิดถึง

“ใครบ้างไม่หึงค่ะ” เอมม่าแสร้งทำสีหน้าน้อยใจ

“แล้วผมต้องทำไง คุณถึงจะรู้สึกดี” เอมม่ายิ้มหวานพร้อมกับยกเรียวแขนคล้องคอเลโอ วันนี้เป็นวันของเธอและเธอจะไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ แน่

“อยู่ด้วยกันสิคะ” เอมม่าส่งสายตายั่วยวนสุดฤทธิ์ เลโอยกยิ้มอย่างไม่ติดขัดมันยิ่งทำให้เอมม่าตื่นเต้นเป็นที่สุด

นางแบบสาวใจกล้าลุกขึ้นนั่งค้อมตักผู้ชายบนโซฟา เธองัดเอาทุกวิธีที่เคยมัดใจชายแล้วได้ผลออกมาใช้ เธอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เธอบดจูบริมฝีปากหนาอย่างช่ำชองและเจนจัด เธอรู้ว่าเลโอชอบอะไรเธอทำให้เขาทุกอย่าง มือหนาเริ่มเคลื่อนไหวไปตามร่างกายของหญิงสาวเขาลูบไล้ไปตามส่วนที่นูนขึ้นเพราะมันแอ่นให้เขาลูบคล้ำอย่างเต็มใจ เขาบีบขย้ำก้นเธอแรงๆ มือไม้ของเธอก็อยู่ไม่สุขเช่นกัน เธอแกะกระดุมเสื้อให้เขาอย่างเร่งรีบจนแทบกระชาก เธอไม่ได้กลัวใครมาเห็นเข้าหรอกเพราะห้องนี้เป็นห้องของแขกวีไอพีและเป็นส่วนตัวมาก แต่ที่เธอเร่งรีบแกะกระดุมเสื้อนั้นเป็นเพราะเธออยากจะกินเขาซะเหลือเกิน เมื่อปลดกระดุมเสื้อออกจนหมดก็เผยให้เห็นร่างกายขาวเนียนที่เต็มไปด้วยหมัดกล้ามแน่นๆ เธอไม่รอช้ารีบเลื่อยมือขึ้นไปสัมผัสอย่างอดใจไม่อยู่

“เอมอยากจะกลืนคุณไปทั้งตัวเหลือเกินเลโอ” สายตาของเอมม่าร้อนรุ่มไปพร้อมกับความต้องการในกายเธอ

“ก็กินสิ” เลโอกระซิบบอก เอมม่าแววตาเป็นประกายเธอรีบทำอย่างที่เธอต้องการเมื่อเลโออนุญาต

ปึก!

“หวัดดีเพื่อน” สามเสียงเอ่ยทักดังลั่นพร้อมกับเดินมานั่งลงที่โซฟาตรงกันข้ามและจ้องดูสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าอย่างตื่นเต้น

“F*ck” ผมสถบอย่างหัวเสียเมื่อไอ้พวกตัวดีโผล่มาขัดจังหวะ ผมกำลังจะ..อยู่แล้ว มันน่าโดนตบหัวทีล่ะคนจริง

“ต่อเลยมึง ไม่ต้องสนใจพวกกูหรอก” ราเรซ

“กูสัญญาว่าจะนั่งดูอยู่เงียบๆ” บิ๊กไบค์

“เดี๋ยวกูเป็นตากล้องเอง” โต้ง และมันก็ทำอย่างที่พูดจริงๆ โต้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดบันทึกวิดีโอ

เอมม่านั่งหน้าเหวอทำตัวไม่ถูก เธอรีบจัดชุดให้เขาที่เข้าทางเหมือนเดิมแล้วก็รีบลุกออกไปจากห้องทันที จะให้เธออยู่ต่อได้ไง เธออายมาก แถมเพื่อนของเลโอแต่ล่ะคนก็ไม่ได้หล่อน้อยไปกว่ากันเลย คนหนึ่งก็โปรดิวซ์เซอร์มือทอง อีกคนก็นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงและพ่อนักแข่งสุดฮอตที่เพื่อนๆ นางแบบต่างก็ตามกรี๊ดอยู่เป็นประจำ แก๊งนี้หล่อวัวตายควายล้มทั้งสี่คนเลย เธอต้องรีบชิ่งหนีก่อนดีกว่าเดี๋ยวหนุ่มหล่อจะจำหน้าเธอได้ เพราะถ้าหากพลาดจากเลโอก็ยังเหลืออีกสามหนุ่มไว้ให้จับอยู่

“ไหนพวกมึงบอกไม่ว่างไง” ผมโวยเพื่อนทันทีที่เอมม่าออกไปแล้ว

“มึงก็เลยลากสาวมากินว่างั้น” ราเรซ

“เขากินกูโว๊ย กูนั่งเฉยๆ”

“กูนึกว่ามึงจะเลิกชั่วแล้วซะอีก” บิ๊กไบค์

“กูเป็นคนดี” ปากเถียง มือก็ไล่ติดกระดุมให้อยู่ในสภาพเดิม มือเร็วจริงๆ แม่คนนี้ เผลอแป๊บเดียวเม็ดกระดุมถูกแกะออกหมดเลย 

“คนดีที่เสียแล้ว” โต้ง

“พวกมึงมาทำไม? ตอนกูโทร.หาบอกไม่ว่าง พอกูไม่ว่าง พวกมึงเสือกว่างซะงั้น”

“จะนอยอะไรนักหนา พวกกูก็มาแล้วนี่ไง” ราเรซขยับมานั่งข้างผมหรือนั่งแทนที่เอมม่าเมื่อกี้นี่เอง แต่..มันก็ได้แทนที่ซะทีเดียว ถ้าแทนที่จริงๆ ต้องนั่งบนตักผม

“พวกมึงมันเลว ติดแฟนจนลืมกู” ผมยังโวยเพื่อนไม่หยุด บิ๊กไบค์จึงเลื่อนแก้วเหล้ามาตรงหน้าเป็นการปิดปากทางอ้อมเพื่อที่ผมจะได้เลิกบ่นสักที

ผมหยิบแก้วเหล้าที่มีน้ำสีอำพันอยู่เกือบครึ่งแก้วกระดกเข้าปากรวดเดียวหมด จะไม่กินได้ไงเพื่อนชงให้ทั้งที รสชาติเข้มๆของเหล้าเกือบทำผมเสียอาการ ไอ้บิ๊กไบค์มือหนักจังว่ะ ชงเหล้าซะเข้มเชียว เหมือนมีลูกไฟดวงเล็กๆ วนอยู่ในท้องทำให้ผมรู้สึกวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก ผมแอบแปลกเล็กน้อยว่าทำไมมันพึ่งมารู้สึกเอาตอนนี้ทั้งที่ผมก็ดื่มไปหลายแก้วแล้วนะแต่ไม่เห็นจะรู้สึกแบบนี้ สงสัยจะเมาแล้วแน่ๆ เลย

“มึงใส่อะไรส่งไปในแก้ว?” โต้งหันไปถามบิ๊กไบค์ที่กำลังนั่งยิ้มหน้าระรื่นอย่างสุขใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel