ตอนที่1(บ้านนอกเข้ากรุง)
"แม่ไม่ต้องเป็นห่วงหนูเลยนะคะอยู่ที่นี่หนูสบายมากค่ะ"
"ทั้งร้านอาหารร้านสะดวกซื้ออยู่ใกล้หอมากค่ะแม่"
(จะไม่ให้แม่เป็นห่วงได้ยังไงลูกสาวคนเดียวของแม่ไปอยู่ไกลจากอ้อมอกแม่ขนาดนี้)
(ตั้งแต่หนูเกิดมาเราไม่เคยต้องห่างกันขนาดนี้เลยนะวันใส)
(เอาอีกแล้วนะคุณดราม่าใส่ลูกอีกแล้วลูกไปเรียนคนเดียวซะที่ไหนกัน)เสียงทุ้มเข้มของคุณพ่อเอ่ยออกมาขัดคุณแม่ที่กำลังนั่งน้ำตาซึมอยู่ฉันก็ยิ้มกริ่มออกมาก่อนจะมองไปที่ผู้ชายกับผู้หญิงสองคนที่อยู่ในจอสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของฉันที่ตอนนี้ฉัรกำลังวีดีโอคอลคุยกับพ่อและแม่ของฉันอยู่
(วันใหม่ก็อยู่ด้วยทั้งคนมันคงไม่ปล่อยให้ใครมารังแกน้องหรอก)
"ใช่ค่ะคุณพ่อพูดถูก"ฉันเอ่ยออกมาไปอย่าฃเห็นด้วยกับคุณพ่อ คุณแม่ก็ทำปากเบะใส่ฉันน้อยใจที่ฉันเห็นด้วยเห็นดีกับคุณพ่อของฉัน
"อย่าห่วงหนูเลยนะคะหนูดูแลตัวเองได้ค่ะแม่"
(จ้าหนูก็ไม่ต้องกังวลอะไรนะวันใสหนูตั้งใจเรียนและดูแลตัวเองให้ดีก็พอจ๊ะทางนี้พ่อจะดูแบแม่เอง)
"ค่ะคุณพ่องั้นแค่นี้ก่อนนะคะวันใสต้องรีบกลับหอแล้ว"
(ครับ...รักลูกมากลูกรัก)
(รักลูกนะจ๊ะ)
"ค่ะรักแม่กับพ่อมากๆๆเหมือนกันนะคะบ๊ายค่ะ"ฉันพูดเสร็จก็กดวางสายวีดีโอคอลคุณพ่อคุณแม่และมาโฟกัสถนนเส้นนี้ที่ฉันกำลังเดินอยู่ในตอนนี้ที่มันไม่คุ้นตาฉันซะแล้วสิ
"เอาแล้วไงอย่าบอกนะว่าฉันหลงทางน่ะ"ฉันพูดพึมพำกับตัสเองพลางยกมือที่ถือถุงหิ้วอย่างพะรุงพะรังขึ้นมาเกาหัวตัวดังแกรกๆ
พลางหันมองซ้ายทีขวาทีเพื่อมองดูให้ชัดเจนอีกครั้งว่าที่ตรวนี้มันอยู่ตรงไหน
และทำไมมันถึงไม่มีรถแท็กซี่ขับผ่านเลยนะ
เอ่อลืมแนะนำตัว ฉันชื่อวันใส นางสาว วรรณพร โรจน์อำไพ อายุ19ปี มีพี่ชายหนึ่งคนชื่อพี่วันใหม่ ฉันเป็นเด็กใต้พ่อแม่ทำสวนทุเรียนกว่าหนึ่งพันกว่าไร่และยังปลูกเงาะลองกองและผลไม้อื่นๆอีกหลายอย่าง ความฝันของฉันคือการได้เข้ามาเรียนที่เมืองหลวงตามคนที่ฉันแอบชอบและเขาก็ชอบฉัร โดยเร่สอวคนคุยกันอยู๋ตั้งแต่พี่เขาอยู๋มัธยมศึกษาปีที่5จนตอนนี้เขาอยูีมหาบัยปีสองแล้ว
และฉันก็ทำมันสำเร็จเพราะฉันสอบเข้ามหาลัยเอกชนชื่อดังได้ ทำไมเอกชสถึงต้องสอบเข้าน่ะเหรอ เพราะมันมีสองอย่างให้เลือกยังไงล่ะ อย่างที่หนึ่งถ้าเราไม่สอบก็เสียค่าเทอมเต็มจำนวนเจ็ดหลักและอย่างที่สองถ้าเราสอบเข้าได้ก็จะเสียค่าเทอมแค่ครึ่วเดียว
ซึ่งฉันก็เลือกอย่างที่สองนั้นคือสอบเข้าถึึงว่าค่าเทอมแค่นี้พ่อแม่ฉันจะไม่ลำบากอะไรแต่ฉันก็อยากจะทดสอบความสามารถตัวเองด้วย
และฉันก็เพิ่วจะเข้ามาอยู่ที่นี่ได้แค่สองวันนั่นคือเมื่อวานกับวันนี้แลพวันนี้ฉันก็เจอแจ็คพล็อตแตกนั่นคือ
ฉันหลงทางจ้า
ฉันหลงทางแล้วจริงๆ
ฉันไม่น่าทำเป็นเก่งเลย
ฉันเป็นคนที่ชอบหิวรอบดึกและน้ำเปล่าที่ห้องฉันก็หมดด้วยฉันเลยลงมาซื้อที่ร้านสะดวกซื้อข้างๆหอฉัน ปรากฏว่ามันปิดปรังปรุงสองอาทิตย์ฉันเลยต้องเรียกวินมอเตอร์ไซค์ให้พามาที่ร้านสะดวกซื้ออีกสาขาหนึ่ง
และปรากฏว่าอีพี่วินมันเทฉัน ฉันบอกให้เขารอ แต่พอเจอลักค้าใหม่มันก็ไปกับลูกค้าเลยจ้า รู้งี้นะไม่จ่ายตังค์ก่อนก็ดี
คนในเมืองหลวงนี่ไว้ใจไม่ได้อย่างที่แม่ฉันบอกจริงๆด้วย
ฉันกระวนกระวายใจอยู่คนเดียวยิ่งเดินก็ยิ่งงง ฉันว่าฉันน่าจะลองกลับไปทางเดิมที่ฉันผ่านมา
ฉันเป็นพวกที่ไม่ค่อยจำทางซะด้วยสิ แต่ที่พี่วินขี่มอเตอร์ไซค์มามันดูไม่ได้ไกลจากหอพักของฉันมากนะ ฉัตรสะเพร่าตรงที่เดินวีดีโอคอบคุยกับแม่มาด้วยแล้วไม่ได้ดูทางเลยทำให้เกิดการหบงทางขึ้นมา
แต่ทำไมพอเดินมันถึงได้ไกลแบบนี้
"โทรหาพี่วันใหม่ดีกว่า"ฉันที่เพิ่งคิดได้ว่าตัวเองมีพี่ชายที่เข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพถึงสามปีแล้ว
เมื่อคิดได้อย่างนั้นฉันก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงอย่างทุลักทุเลที่ฉัรเพิ่วจะหย่อนเก็บลงไปหลังจากที่คุยกัยพ่อและแม่เสร็จ
เพราะฉันซื้อพวกขนมน้ำจากร้านสะดวกซื้อมาเยอะกะเอาไปตุนเก็บไว้ เลยคอนนี้สองมือของฉันจึงเต็มไปด้วยถุงพลาสติกที่หนักอึ้งเอาเรื่อง
ฉันกดหาชื่อพี่วันใหม่และพอเจอก็กดโทรออกทันทีโดยนำโทรศัพท์มาแนบหู
แต่ก็ไร้การตอบรับจากพี่ชายเพียงคนเดียวของฉัน
"ทำอะไรอยู่เนี่ยพี่ทำไมไม่รับสายนะ....คอยดูเถอะเค้าจะฟ้องแม่แน่"ฉันพูดอย่างงอนๆพี่ชายตัวเองที่ไม่ยอมรับสายฉัน
ฉันกำลังจะกดโทรหาพี่วันใหม่อีกรอบเมื่อสายแรกไม่มีคนรับจนมันตัดไปแต่แล้วสายตาฉัรก็หันไปเห็นคนกำลังยืนอยู่บนฟุตบาทข้างหน้าฉัรเพียงไม่กี่ก้าวและที่สำคัญเธอเป้ณผู้หญิง
ไม่ได้มีแค่คนเดียวด้วย แต่มีหลายคนยืนเรียงกะนเป็นหน้ากระดาษระยะห่างกันหนึ่งร้อยเมตร
ฉันจึงยิ้มกริ่มออกมาอย่างดีใจ ที่อย่างน้อยก็โล่งใจไปได้ว่าไม่มีพวกโจรแน่นอนไม่งั้นผู้หญิงพวกนี้จะกล้ามายืนแบบนี้ได้ยังไง
แต่ทำไมดูพวกเธอแต่งตัวนุ่งน้อยห่มน้อยแบบนั้นนะ
"เอ่อขอโทษนะคะ"ฉันเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดและเซ็กซี่มาก เธอกรีดปลายหางตามามองหน้าฉันพลางมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าเท้าจรวดหัวด้วยสายตาแปลกๆฉันก็ยิ้มแฉ่งให้เธอ
"ขอโทษค่ะพอดีไม่รับผู้หญิง"เธอตอบฉัรมาเสียเเข็งพลางทำสีหน้าหงุดหงิดใส่ฉันด้วยและเธอก็หันหลังให้ฉันและเดินไปจากฉันพร้อมกัยกระแทกรองเท้าส้นสูวของเธอไปอย่างไม่พอใต ฉันก็เลิกคิ้วขึ้นสูงขมวดอย่างงงกับคำพูดของเธอ
"คนพูดด้วยดีๆทำไมต้องใส่อารมณ์ขนาดนั้นด้วย?"ฉันพึมพำออก ก่อนจะเดินไปหาผู้หญิงคนที่สองแต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ถามอะไรเธอ
"ไปไกลเลยเดี๋ยวมาแย่งลูกค้าฉัรหมด นู้นแกไปอยู่ท้ายแถวนู้นจ๊ะเชิญ"เธอก็ไล่ฉันพร้อมกับโบกมือให้ฉันไปด้านข้างของเธอที่เธอเรียกมันว่าท้ายแถว
ฉันก็ยิ้มแหยๆให้เธอก่อนจะก้มศีรษะให้เธอและเดินไปตามทางที่เธอบอกให้ฉันไปหรือว่าพวกเธอกำลังต่อคิวเรียกแท็กซี่นะ
สงสัยจะใช่ แต่ฉันต่องไปต่อท้ายแถว เเล้วเมื่อไหร่ฉันจะได้กลับหอล่ะ เพราะผู้หญิงที่ฉัรเดินผ่านพวกเธอมามีไม่ต่ำกว่ายี่สิยคนและพวกเธอก็มองฉันด้วยสายตาที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไหร่ด้วย
พวกเธอไม่กลัวโดนจับไปข่มขืนหรือไงนะถึงได้แต่งตัวโป๊ผ้าน้อยชิ้นแถมสั้นเสมอตูดขนาดนี้ด้วย
พ่อฉัรสอนว่าถ้าจะออกไปไหนมาตอนที่อยู่ในตัวเมืองหลวงแบบนี้ให้แต่งตัวมิดชิดกันไว้ไม่ให้เกิดภัยกับตัวเอง
ซึ่งฉันก็ไม่ได้แต่งตัวมิดชิดอะไร เพราะตอนแรกแค่จะลงมาด้านล่างหอไม่ได้คิดมี่จะมาไกลขนาดนี้
เลยใส่เสื้อยืดคอกลมสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีดำรองเท้าแตะหูครีบ
แบบนี้จะดูล่อหน้าล่อใจไหมนะ.......
