BAD GUY มาเฟีย (เคี้ยวเด็ก) 20+

163.0K · จบแล้ว
Story Truth / ลำเจียก
113
บท
48.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เฟย มาเฟียและนักธุรกิจสีเทาที่ทรงอิทธิพล อายุ 30 เขาคือผู้ชายที่เย็นชา ไร้หัวใจเพราะเคยผิดหวังกับความรักมาก่อนจึงปิดกั้นตัวเอง ‘เตียงของฉันไม่มีที่ว่างสำหรับผู้หญิงใจง่ายอย่างเธอ’ น้ำอิง อายุ 20 เด็กสาวต่างจังหวัด เธอดูไร้เดียงสาแต่ความจริงแล้วเป็นคนช่างพูด จิตใจดี สดใสร่าเริง ‘ว่าหนูง่ายคุณเคยได้หนูแล้วหรอคะ’ โปรย: แนะนำเรื่อง ตอนแรกก็คิดว่าจะถูกมาเฟียจับตัวมาเป็นนางบำเรอเหมือนในนิยายที่เคยอ่าน ที่ไหนได้กลับถูกจับมาเป็นคนใช้ซะงั้น “ฉันจะไปส่งเธอที่ต่างจังหวัด” “ไม่!! หนูไม่กลับ ถ้ากลับไปแล้วใครจะกวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า หุงข้าว ทำอาหาร ล้างจาน ล้างห้องน้ำ” “ฉันจ้างคนอื่นมาทำแทนเธอได้ ไม่ต้องห่วง” “ไม่เอาหนูไม่กลับ!! ตอนจับตัวมาหนูก็บอกแล้วว่าไม่ไปๆ ก็ดันทุรังพามาถึงกรุงเทพ ทีตอนนี้จะไล่ให้กลับมันไม่ง่ายไปหน่อยรึไง คนแก่ใจดำชะมัดเลย” เพราะความสุขสบายในคฤหาสน์หลังใหญ่ทำให้น้ำอิงไม่อยากกลับบ้านต่างจังหวัดที่เคยจากมาเพราะที่นั่นไม่มีใครต้องการเธอ ถึงแม้จะอยู่ที่คฤหาสน์หลังนี้ในฐานะคนรับใช้ แต่มันก็สุขสบายกว่ากลับไปเป็นทาสครอบครัวนั้นที่ไม่เคยดีกับเธอ

นิยายรักประธานดราม่าคนรับใช้มาเฟียเศรษฐีเลือดร้อน18+

INTRO - ไอ้พวกบ้าก็บอกว่าไม่ใช่ลูก!!!

“นายบอกให้จับตัวลูกสาวแกไปถ้ายังหาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้ก็อย่าหวังว่านายจะคืนยัยเด็กนี่ให้”

“กรี๊ดดดด! พวกบ้าไม่เกรงกลัวกฎหมายกันบ้างรึไง”

“หนูไม่ใช่ลูกสาว ได้ยินไหมว่าหนูไม่ใช่ลูกสาว หนูเป็นหลาน ป้านิช่วยพูดอะไรหน่อยได้ไหม พวกบ้านี่จะจับตัวหนูไปแล้ว”

“น้ำอิงช่วยแม่ด้วยนะลูกถ้าแม่มีเงินจะรีบไปไถ่ตัวหนูกลับมานะลูกนะ”

“ป้า!! ร้อยวันพันปีไม่เคยเรียกหนูว่าลูกแล้วมาเรียกทำไมวันนี้เนี่ย”

ใครจะไปคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ดีๆ ก็ถูกชายร่างยักษ์หน้าตาน่ากลัวสองคนมาจับตัว แถมยังถูกยัดเข้าไปในรถตู้สีดำสนิท ส่วนคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องก็ไม่แม้แต่จะช่วย

“จะพาหนูไปไหน ไม่ไปนะหนูต้องไปเรียนหนังสือ” จริงๆ ฉันไม่ได้เรียนหรอกที่พูดไปก็แค่ข้ออ้าง เหตุผลที่ไม่ได้เรียนเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม

“หุบปาก” เสียงโทรศัพท์ของคนที่ตะคอกใส่ฉันดังขึ้น ด้วยความอยากรู้ว่าเขาจะคุยอะไรกับปลายสายจึงรีบเงียบฟัง

“ครับนายเจอตัวแล้วครับ มันหนีกลับมาอยู่ที่ต่างจังหวัด”

“ผมกำลังเอาตัวลูกสาวมันไปครับ”

“บอกว่าไม่ใช่ลูก ไม่ใช่ลูก!! พี่สองคนหูตึงหรอคะ หนูเป็นหลานจริงๆ ปล่อยหนูเถอะนะ”

“พูดมากจังเว้ยนังเด็กนี่ เอ็งเอาถุงดำมาให้ข้าทีสิ” ชายอ้วนท้วมสั่งคนที่ผอมกว่า คนที่ถูกสั่งรีบทำตามอย่างว่าง่าย

ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าเขาจะเอาถุงดำมาทำไม แต่พอถุงใบนั้นมันคลุมมาที่หัวเท่านั้นแหละฉันทั้งกรีดร้องและดิ้นไปมาสุดแรง แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงใครเลย

ขะ…เขาจะฆ่าฉันไหม ฉันไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยนะ

ผ่านไปประมาณยี่สิบนาทีก็เลิกดิ้นเพราะหมดแรงและรู้ว่ามันเหนื่อยเปล่า จึงเปลี่ยนมาพูดดีๆ แทน

“หนูไม่ใช่ลูกของป้านิจริงๆ นะคะ หนูเป็นหลาน” ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไรที่ฉันพูดคำนี้จนนับไม่ถ้วนและทุกครั้งก็ไม่เคยได้ยินเสียงใครตอบรับกลับมาเลย

ไม่รู้ว่าเขาจะพาไปที่ไหนเพราะมองอะไรไม่เห็น ได้แต่นึกเจ็บใจป้าแท้ๆ ของตัวเองที่ไม่ช่วยอะไรเลยทั้งที่เป็นคนไปกู้หนี้มา ถึงว่าทำไมไม่ยอมปล่อยให้มิ้งมันออกมาจากบ้าน ตั้งใจจะให้ฉันถูกจับตัวมาแทนลูกสาวของตัวเองนี่เอง

ฉันชื่อ น้ำอิง เป็นเด็กต่างจังหวัด หลังจากที่พ่อแม่เสียไปเมื่อปีที่แล้วพี่สาวของแม่ที่เคยทำงานอยู่กรุงเทพก็พาลูกกับสามีกลับมาอยู่ที่บ้านนอกเพราะฉันไม่มีญาติที่ไหนอีกแล้ว ซึ่งป้านิก็ไม่ค่อยเต็มใจรับฉันมาเลี้ยงเท่าไหร่หรอก

และ!!! ฉันก็เพิ่งมารู้วันนี้ตอนถูกจับตัวมาว่าที่ป้านิกลับต่างจังหวัดเพราะหนีหนี้

ชีวิตของฉันมันไม่มีอะไรดีสักอย่าง แถมยังดวงซวยเจอจับตัวมาแบบนี้ชะตากรรมจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ พรุ่งนี้จะรอดไปครบสามสิบสองไหมยังไม่รู้เลย บางทีอาจจะถูกจับตัวไปเป็นเมียหรือนางบำเรอความไคร่

ฉันเคยอ่านในนิยายมาก็เยอะ เคยจินตนาการว่าอยากจะถูกมาเฟียจับตัวไปแล้วเขาก็รักฉัน เราแต่งงานมีลูกด้วยกัน แต่!!นั่นมันคือโลกในจินตนาการ ตอนนี้ภาวนาอย่างเดียวขอให้ไม่ถูกฆ่าตายก็พอ

ฉันอายุแค่ยี่สิบเองยังอยากใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ใครบ้างจะอยากตาย ทุกคนก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตอยู่กันทั้งนั้น แต่ถ้ามันไร้หนทางขึ้นมาจริงๆ ฉันจะยอมเอาร่างกายแลกเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอด

อยากจะร้องไห้จริงๆ เลย ตอนนี้หน้าพ่อกับแม่ลอยมาในหัว ได้แต่พยายามฮึบเอาไว้

ไม่รู้ว่าใช้เวลากี่ชั่วโมงในการนั่งรถฉันเผลอหลับและสะดุ้งตื่นหลายรอบก็ยังไม่ถึงจุดหมายปลายทาง เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรู้สึกได้ว่ารถจอดนิ่ง แต่ยังไม่ทันจะได้อ้าปากถามอะไรกับใครแขนเล็กๆ ของฉันก็ถูกกระชากแทบหัก ตัวก็แทบจะปลิวออกมาจากรถ

“หนูเจ็บนะทำเบาๆ ไม่เป็นรึไง คนนะโว้ย!!”

ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน รู้แค่ว่าตัวเองถูกฉุดลากให้เดินมาไกลพอสมควร ก่อนจะถูกกดให้นั่งลงที่พื้นแข็งๆ

ย้อนเวลาไปเรียนเป็นตำรวจยังทันไหมเนี่ย ฉันจะจับไอ้พวกนี้เข้าคุกให้หมดเลย

“นังเด็กนี่ครับนาย ลูกสาวของมัน”

“ก็บอกว่าไม่ใช่ๆๆๆ หนูเป็นหลาน ภาษาคนมันฟังยากตรงไหนคะ!!”

ถึงแม้จะมีถุงดำคลุมศีรษะแต่ก็ไม่ได้ทำให้สกิลปากของฉันลดน้อยลงหรอกนะ ไอ้กลัวมันก็กลัวอยู่หรอก แต่เด็กพูดก็หัดเชื่อกันบ้างสิ

“หุบปากซะนังหนูถ้ายังไม่อยากตาย”

“………” ถะ ถึงกับตายเลยหรอ พอได้ยินคำขู่ฉันก็รีบเม้มปากแน่นทันที

“เอาถุงดำออก” สิ้นสุดคำสั่งถุงดำที่คลุมหัวฉันอยู่ถูกกระชากออกไปอย่างไร้ความปรานี ทำให้เส้นผมกระเซอะกระเซิงราวกับไม่ได้หวีมานานหลายเดือน

พอมองเห็นอะไรๆ ได้สะดวก ฉันก็เริ่มกวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อสำรวจด้วยท่าทางตื่นกลัว ที่นี่มันคือที่ไหนก็ไม่รู้ มันเป็นบ้านที่หลังใหญ่โตกว้างขวางเอามากๆ

ผู้หญิงตัวเล็กๆ ต้องมาอยู่ท่ามกลางที่ที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้ พวกเขาไม่สงสารฉันบ้างหรือไง

มองไปรอบๆ ครู่หนึ่ง สายตาของฉันก็เปลี่ยนจุดโฟกัสมาสนใจผู้ชายสวมชุดคลุมอาบน้ำสีดำที่กำลังเดินมาทางนี้ด้วยท่าทางที่มันช่างสง่าและน่าเกรงขาม ใบหน้านั้นหล่อเหลาราวกับพระเอกในนิยายที่ฉันเคยจินตนาการเอาไว้ ไม่คิดว่าจะมีอยู่บนโลกใบนี้จริงๆ

ร่างสูงเดินมานั่งบนโซฟาตัวใหญ่ตรงหน้าของฉัน พลางยกขาขึ้นมาไขว่ห้างแล้วหยิบมวนบุหรี่ขึ้นจากนั้นก็มีคนถือไฟแช็กมาจุดไฟให้ ครู่หนึ่งก็มีควันบุหรี่สีขาวลอยคลุ้งเต็มอากาศ

!!!นี่มันเจ้าพ่อมาเฟียชัดๆ

หรือว่าตอนนี้เรากำลังฝันอยู่ ฉันเอามือตบที่แก้มตัวเองเบาๆ หลายครั้งแล้วพูดพึมพำ “ตื่นสิน้ำอิง รีบตื่นได้แล้วฝันบ้าอะไรเนี่ย”

“ไม่เอา ไม่เอา ไม่อยากฝันแบบนี้มันน่ากลัว อยากตื่นแล้ว ตื่นสักทีสิ” ฉันพยายามให้กำลังใจตัวเองด้วยการคิดว่านี่คือความฝัน แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “พวกมึงไปจับตัวคนบ้าที่ไหนมาให้กู”