5| เต๊าะ
“ดาวไม่ชอบเด็ก”
“แต่พี่ชอบ เด็กขี้บ่นยิ่งชอบ”
ณ เรือนกลางไร่ช่วงบ่ายของวัน คนงานนับร้อยมารวมตัวกันเพื่อรอชื่นชมนายหญิงของนายตะวัน นับเป็นข่าวดีและเรื่องน่าตื่นเต้นของคนงาน ทุกคนรู้ว่านายใหญ่ทุ่มเทเรื่องงานมากกว่าการหาคู่ ไม่คิดว่าอยู่ ๆ ไร่ภูผาหมอกจะมีนายหญิงขึ้นมาอยู่เคียงข้างนายใหญ่ ทุกคนดีใจ และยินดีต้อนรับ
“นี่ดาวประดับนายหญิงของไร่ ขอบใจทุกคนมากที่มาในวันนี้” เสียงฮือฮาของคนงานดังขึ้นเป็นระยะ ส่วนมากเป็นเสียงชื่นชมความสวยของเมียนายใหญ่ ไม่อยากเชื่อว่านายใหญ่จะมีเมียสวยขนาดนี้ วันๆ เอาแต่ขลุกอยู่กับงาน ตากแดดตากลมจนผิวคล้ำแทบไม่มีเวลาดูแลตัวเอง
“ยินด้วยนะนาย”
“ขอบใจมาก ทุกคนเลยนะ” ดาวประดับยืนมองภาพคนงานและเจ้านายที่ดูสนิทสนมกันเหมือนเครือญาติ ทุกคนส่งรอยยิ้มให้เธอ รู้สึกได้ถึงมิตรภาพและความจริงใจ เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นทุกคนก็แยกย้ายไปทำงาน
ดาวประดับยังไม่อยากกลับบ้าน งานในไร่นี้น่าสนใจ ทำให้เธอกระตือรือร้นอยากเรียนรู้มากกว่านั่งเก้าอี้บริหารเสียอีก ตะวันมีเรื่องที่ต้องจัดการเลยอยากให้เธอกลับไปรอที่บ้านก่อน อยู่ ๆ ฝนก็ตั้งเค้ามาเกรงว่าถ้าให้ตามไปด้วยจะตากฝนไม่สบายเสียเปล่าๆ
“ดาวอยากไป” จ้อยและคนงานอีกสามสี่คนเริ่มลำบากใจ หากต้องพานายหญิงไปด้วยเกรงว่างานคงเสร็จไม่ทัน
“ฝนจะตกเห็นไหม” ตะวันไม่อยากใจอ่อนให้ลูกอ้อนเธออีกครั้ง ไปครั้งนี้ไม่ใช่ไปเที่ยวเขาต้องรีบทำงานให้เสร็จ หากช้าเกรงว่าน้ำป่าจะพัดซากฝายเก่าเสียหายหนักกว่าเดิม
“ฝนตกแล้วจะไปกันทำไม รอให้ฝนหยุดก่อนก็ได้นี่คะ” ถ้าความจำเธอปกติเขาจะคิดว่านี่คือความเป็นห่วง แต่เพราะต้องไปเลยหาเหตุผลอื่นมาทดแทนไม่ได้
ดาวประดับมองเค้าฝนที่กำลังเคลื่อนต่ำลงแล้วเริ่มหนักใจ หากตะวันต้องไปจริงจะไปทำอะไรได้
“บนเขามีที่พักครับนายหญิง ไม่ต้องเป็นห่วงนายใหญ่หรอกครับ”
“งั้นดีเลย ดาวไปด้วยรอแป๊บนะคะ จะไปค้างคืนแล้วปล่อยให้ดาวอยู่คนเดียวได้ไง” นายใหญ่ส่ายหน้าเพราะไอ้ลูกน้องตัวดีพูดเปิดโอกาสให้ดาวประดับตามไปด้วยจนได้ ที่พักเล็กขนาดนั้นจะไปสะดวกสบายเท่าบ้านหลังใหญ่ได้ยังไง
ไม่มีใครอยากพาเมียไปลำบากหรอก ไม่อยากเชื่อว่าเธอจะรั้นไม่ยอมฟังมากขนาดนี้
“ดาว ฟังพี่”
“ดาวกำลังช่วยงานพี่อยู่นะคะ เป็นเมียเจ้าของไร่ก็ต้องเรียนรู้งาน มีที่ไหนอีกไหมที่ดาวต้องรู้จัก ดาวอยากเรียนรู้งานจริง ๆ ฝากตัวกับพี่จ้อยด้วยนะคะ” ลูกน้องคนสนิทเกาหัวแกกๆ นายใหญ่คงไม่ชอบใจหากนายหญิงมองข้ามแบบนี้จนทำให้เบื้องล่างอย่างจ้อยรู้สึกลำบากใจ
“ครับนายหญิง”
“เข้ากันดี ดูแลกันให้ดีด้วยละ”
บ้านบนเขาไม่ได้คับแคบอย่างที่ตะวันว่าไว้ ขนาดพอดีรับรองคนได้นับสิบ เพราะไม่ไว้ใจอากาศและหนทางข้างหน้าเลยไม่อยากให้เธอไปด้วย แม่คุณก็รั้นจะตามไปให้ได้ ตะวันเลยตามใจ
“ห้ามบ่น”
“เข้าใจแล้วค่ะ” ดาวประดับรู้สึกสนุกมากกว่าที่ได้ออกไปผจญภัย ลำบากแค่ไหนไม่เคยหวั่น เมื่อสถานะของเธอคือเมียเจ้าของไร่ ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล เธอไม่อยากนั่งเครียดและคิดมากให้ปวดหัว ถ้าเป็นไปตามที่พ่อบอก เธอก็จะลองไว้ใจตะวันดูสักตั้ง
“ทางข้างหน้าลำบากหน่อย ขยับมาใกล้ๆ เดี๋ยวหัวกระแทกประตู” จ้อยและคนงานอีกสองคนนั่งอมยิ้มเมื่อได้ยินนายใหญ่นั่งออกคำสั่งกับนายหญิงตลอดทาง
โฟร์วิลคันใหญ่พาทั้งห้าคนมาถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย ดีที่ฝนยังไม่เทลงมาแบบนั้นคงแย่ได้ติดโคลนช่วงลงเขาแน่ ๆ
“มีบ้านแบบนี้อยู่บนเขาด้วยเหรอ ไม่เห็นจะเล็กเลย” ทุกที่ของตะวันทำให้ดาวประดับตื่นเต้น หญิงสาวเดินสำรวจรอบบ้านเห็นว่ามีลำธารเล็ก ๆ ไหลผ่านอยู่เลยเดินไปใกล้
“อยากเล่นไหม”
“ได้เหรอคะ”
“ไว้พรุ่งนี้ เห็นไหมฝนลงเม็ดแล้วเข้าบ้านเถอะเดี๋ยวไม่สบาย” ดาวประดับพยักหน้าเข้าใจ เอาไว้พรุ่งนี้ก็ได้ ไหน ๆ ก็ต้องอยู่ที่นี่อีกนาน ไม่รู้เลยว่าจะนานสักเท่าไหร่
เธอไม่อาจคาดเดาอนาคตชีวิตคู่ที่ปราศจากความรักได้เลย เจ้าของไร่คนนี้จะเบื่อและเขี่ยเธอทิ้งออกจากชีวิตเมื่อไหร่ ไม่อาจรู้ได้ ดาวประดับตั้งใจเอาไว้ว่าจะทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ให้สมกับเงินก้อนโตที่ฉุดรั้งครอบครัวและธุรกิจของพ่อให้ฟื้นตัวอีกครั้ง
ตะวันก็ไม่ใช่ผู้ชายเลวร้าย เขาให้เกียรติและดูแลเธออย่างดี อีกเรื่องที่เธอชอบคือการตามใจ อาจจะเป็นเพราะรำคาญหรือเปล่า
“ที่นี่มีห้องนอนแค่ห้องเดียว”
“ถึงมีสองห้อง ดาวก็ต้องนอนกับพี่อยู่ดี” ตะวันนั่งลงบนพื้นไม้ที่มีผ้าผืนนุ่มปูรอง สายตาที่มองเธอเต็มไปด้วยความเอ็นดูและความรักที่เต็มเปี่ยม เธอจะรู้ไหมว่าเมื่อก่อนเราทั้งสองรักกันมากแค่ไหน
“เริ่มชินแล้วใช่ไหม”
“วันนี้ไม่มีเตียงให้นอน ไม่ต้องลงไปนอนข้างล่างให้ปวดหลังแล้วนะคะ” บ้านหลังนี้ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ เป็นบ้านเปล่าปลูกไว้เพื่อพักผ่อนเวลาเหนื่อยหลังจากทำงานเสร็จ บางครั้งตะวันก็ขับรถมานอนพักที่นี่ เงียบและสงบคือสิ่งที่เขาปรารถนา
“เป็นห่วงหรือไง”
“เปล่าสักหน่อย แค่รู้สึกผิดที่ทำให้คนอื่นลำบาก”
“ดาว เราเป็นผัวเมียกันแล้วนะ พี่ไม่อยากให้ดาวคิดแบบนี้” ตะวันอยากให้เธอสบายใจและมีความสุขที่สุด อนาคตเราทั้งคู่ต้องอยู่ร่วมกัน เขารอวันนี้มานานแสนนาน รอและมีหวังทุกวัน ทุกอยางที่เขาสร้างขึ้นก็เพื่อเธอ ดาวประดับคือผู้หญิงที่ตะวันรัก ไร่ภูผาหมอกคือบ้านหลังใหญ่ที่เขาสร้างไว้รอเธอเพียงคนเดียว
“แต่เราไม่ได้รักกันนะคะ” นั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาเจ็บปวด เหมือนคมมีดเฉือนลงบนเนื้อ ทั้งเจ็บและแสบลึกลงไปถึงกลางใจ
“รักสิ พี่รักดาว”
“มุกงาบสาวหรือไง ดาวไม่ตกหลุมหรอกนะคะ” สิ่งที่ตะวันพูดออกไปนั่นคือความจริง เขาทั้งรักและหวงแม่นุ่มนิ่มตรงหน้ายิ่งกว่าเงินในบัญชีและทองหลายหาบที่เก็บไว้เสียอีก
“เห็นพี่เป็นคนแบบนั้นหรือไง หนุ่มเมืองกรุงเขาจีบสาวกันยังไง บอกพี่หน่อยสิ” ตะวันขยับเข้าใกล้ทำท่าอยากรู้เต็มที
“ก็พาไปเปย์ ส่วนมากก็ใช้เงินกันทั้งนั้น” ผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตเธอเป็นแบบนี้ทั้งนั้น เพราะแบบนี้พ่อเลยยกเธอให้กับเจ้าของไร่คนนี้ ความไว้ใจทำให้เธอยอมจรดปากกาลงลายเซ็นในทะเบียนสมรสเป็นภรรยาเจ้าของไร่ที่มีเบื้องหลังบางอย่าง
“พี่ก็เหมือนหนุ่มๆ พวกนั้นสินะ” ร่างสูงเอนตัวลงนอนแล้วหันมองคนข้างๆ ยิ้มๆ
“ไม่เหมือนค่ะ”
“หือ”
“ผู้ชายพวกนั้นใช้เงินแต่ไม่ให้คำว่ารักเหมือนพี่ตะวัน”