บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 ไอดอลรับคำท้า

หมิงอี้คิดว่าตัวเองฟังผิดไปแน่นอน คุณชายจะตามไปงั้นหรือ นี่มันเกินความคาดหมายเกินไปแล้ว

“คุณชาย บอกว่า จะตามพวกนางไปหรือขอรับ”

เขาถามให้แน่ใจอีกที

ฟู่เว่ยหลงไม่พูดซ้ำ เขาเดินไปที่หออวิ๋นเจี้ยนทันที และหันมาบอกหมิงอี้

“เจ้าไปจองห้องที่ติดกับพวกนางที เร็ว”

เขาสั่ง หมิงอี้รีบวิ่งไปก่อนหน้าและบอกเสี่ยวเอ้อให้จัดห้องให้

“เจ้าว่าอะไรนะ”

หลินลี่เซียนฟังเรื่องที่อาปิงเล่าให้ฟัง ถึงกับอึ้ง แม่นาง เจ้าช่างคลั่งรักอะไรขนาดนี้ โอยน้ออ เค้ารู้มั้ยนั่น ทั้งหาอาหาร ขนมไปให้ตลอด แถมยังสืบว่าเขาจะไปไหนแล้วตามไป เพื่อแอบมอง What ? Just แอบมอง โอยยย นี่มันคล้ายกับพวก Stalker แล้วหนู (พวกชอบตามไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบ ออกแนวโรคจิต)

“จะเป็นลม ทำไปได้ ถึงว่าล่ะ เรื่องมันถึงได้เป็นแบบนี้ไง”

ลี่เซียนหัวเสียกับการกระทำนี้มาก นางต่อต้านการทำแบบนี้ที่สุด เพราะเมื่อก่อน นางเองก็เคยโดนพวกนี้ติดตาม ต้องคอยจ้างพวกบอดีการ์ดมา สุดท้ายก็ต้องไปเรียนศิลปะการป้องกันตัวเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ไป

“เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว จากนี้จะไม่ให้เจ้าลำบากแบบนั้นอีกแล้วอาปิง ข้าจะไม่ทำแบบนั้นอีก เจ้าวางใจได้เลย ตอนนี้ข้ารู้สึกดีสุดๆ กับอิสรภาพแบบใหม่นี้ ข้ายังไม่อยากใส่ปลอกคอหรอกนะ 555”

“เอ่อ คุณหนูเจ้าคะ ตั้งแต่เมื่อเช้านี้ คุณหนูก็พูดคำแปลกๆ ออกมาเยอะมากเลย บางคำ บ่าวก็ไม่เข้าใจเจ้าค่ะ”

“เอาน่าๆ เอาเป็นว่า ข้ารับปากเจ้า ว่าจะไม่ทำพฤติกรรมแปลกๆ แบบนั้นให้เจ้าลำบากใจอีก เขาก็แค่ผู้ชายคนนึง เดี๋ยวก็ลืม ตอนนี้ข้าสนใจอยากรู้ อยากกิน อยากเที่ยว ดูซิว่าที่นี่จะสามารถสร้างธุรกิจอะไรที่ทำเงินให้ข้าได้มั้ย”

“คุณหนู ท่านพูดจาแปลกๆ อีกแล้ว”

นางพูด และคอยขำลี่เซียน

“อื้มม อร่อยมาก อาปิง เจ้ากินสิ มาเลย นั่งๆ มากินด้วยกัน กินข้าวคนเดียวจะอร่อยได้ไง กับข้าวมาหมดแล้วใช่มั้ย กินเร็วๆ”

นางชวนอาปิงกินด้วยกัน อาปิงเริ่มชินแล้ว นางนั่งลง และเริ่มกินด้วยกัน มื้ออาหารนี้พวกนาง 2 คนมีความสุขมาก

“นางร่วมโต๊ะ กับสาวใช้ด้วยหรือ พฤติกรรมแปลกเสียจริง แถมยัง ชวนกินข้าว ดั่งเป็นสหายกัน”

เขาไม่เคยพบเห็นคุณหนูบ้านไหนเป็นเช่นนางมาก่อน นี่เป็นเรื่องแปลกสำหรับเขา เขาอยากรู้ว่านางจะทำเรื่องแปลกประหลาดอะไรอีก

“ทุกท่านๆ ยินดีต้อนรับลูกค้าทุกท่าน ต่อจากนี้ เชิญทุกท่าน ฟังเสียงเพลงเพราะๆ กับดนตรีเพราะๆ จาก เสี่ยวเซียน สาวงามเสียงเพราะที่สุดของหออวิ๋นเจี้ยนของเรา”

เสียงปรบมือและเสียงหวีดร้องดังขึ้น ลี่เซียนได้ยิน นางจึงเปิดประตูออกมาที่ระเบียง เพื่อออกมาฟังเสียงสวรรค์นี้ ทว่า

“โอ้ยย เนี่ยนะเพราะ เสียงแหลมเกิ๊นน ร้องผิดคีย์อย่างแรง เพลงอะไรเนี่ย เล่นงิ้วเหรอ”

นางปิดหูแทบไม่ทัน

“เจ้าไปแง้มประตูหน่อย”

เขาสั่งหมิงอี้ เขานั่งมองนาง ที่ทำท่าเหมือนแทบจะฟังไม่ไหว และนั่งวิจารณ์นักร้องอยู่ด้านนอก นางทำอะไรของนางกัน เขานึกขำกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า

เสียงเพลงจบลงแล้ว พร้อมเสียงปรบมือบางเบา น่าจะไม่ใช่นางคนเดียวที่รู้สึกว่า

“นี่หรือเพลงเพราะ”

เสี่ยวเอ้อเดินไปกระซิบกับผู้ที่แนะนำนักร้องหญิงเมื่อกี้ และชี้มาข้างบน เขามองตามขึ้นมาเจอนาง และพยักหน้าให้กับเสี่ยวเอ้อ

“แขกทุกท่าน มีแขกบางคน ไม่พอใจเสียงของนักร้องของทางหออวิ๋นเจี้ยนเรา บอกว่า เสี่ยวเซียนของเราร้องเพลงเพี้ยน ข้า ขอรบกวน แม่นางท่านนั้น ให้เกียรติชี้แนะกับหอของเราด้วย ได้หรือไม่”

ทุกสายตาด้านล่าง มองขึ้นมาที่นาง เอาแล้วไงล่ะ งานเข้าแล้วสิ นางหลับตาลง ฮึ่มม เอาวะ กล้าท้ามา ก็จัดให้

“ได้อยู่แล้ว ข้า รับคำท้านั้นของท่าน”

นางบอก และเดินลงไปที่เวทีข้างล่าง ฟู่เว่ยหลงเห็นนางเดินลงไป เขารีบเดินออกไป อยู่ที่ระเบียง ที่นางพึ่งนั่งเมื่อกี้ และมองร่างเล็กนั้น เดินจะขึ้นเวที ข้างๆ เวที สาวใช้ของนางกึ่งดึง กึ่งลากนาง นางตบแขนสาวใช้นางเบาๆ และนางก็เดินขึ้นเวทีไป หันหน้ามาฝั่งที่เขานั่งอยู่ แต่นางไม่เห็นเขา

“พวกท่าน อยากฟังเพลงแนวไหนล่ะ แต่ต้องไม่เอาเพลงที่ติดลิขสิทธิ์นะ”

คนข้างล่างอึ้ง งงกับคำพูดของนาง อะไรสิทธิ์ๆ นะ เมื่อกี้นางพูดว่าอะไรนะ

“เอ่อๆ ไม่มีอะไรๆ เอาเป็นว่า พวกท่านอยากฟังเพลงแนวไหน”

นางถามอีกที โมรินเอ้ยย นี่มันจีนโบราณ ไม่มีใครมาตามจับลิขสิทธิ์เพลงหรอกน่า ร้องได้ สบายใจได้

“ข้าอยากฟังเพลงที่ ชายหญิงรักกัน แต่ไม่กล้าบอกรักกัน อะไรแบบนี้”

แขกท่านหนึ่งตะโกนบอก

“แสดงว่าท่านกำลังมีความรักสินะ”

นางเอ่ยแซว ทำให้เสียงโห่ หวีดแซวดังขึ้นทันที พร้อมกับเสียงปรบมือและรอยยิ้มของคนในร้าน

“ใช่เลยๆ คุณหนู ท่านสามารถร้องได้หรือไม่ล่ะ” เขาถาม

อืมม นึกก่อนนะ เพลงแนวนี้เหรอ ไม่กล้าบอกรัก ทั้งที่รักกัน ออ นึกได้ละ

“ข้านึกได้อยู่เพลงหนึ่ง ข้าจะร้องให้ท่านฟังนะ”

“คุณหนู เจ้าต้องการให้เล่นดนตรีให้หรือไม่” เจ้าของร้านถาม

“ไม่ต้อง ข้า จะร้องปากเปล่า พวกท่านจะได้เข้าใจในความหมายของเพลงอย่างลึกซึ้ง”

ทุกคนพากันปรบมือ และพูดพร้อมกัน

“เอาเลยๆๆ”

“เพลงนี้ บรรยายถึงชายหญิง ที่รักกัน แต่ไม่กล้าบอกความรู้สึกที่มีต่อกัน ทำให้เสียใจด้วยกันทั้งคู่ ลองมาดูว่าเขาทั้ง 2 จะหาทางออกด้วยกันได้อย่างไรนะเจ้าคะ”

ลี่เซียนหายใจเข้าลึกๆ และเริ่มร้อง

"ความจริงที่คน 2 คนไม่คุยกัน ไม่เคยสบตากันและคุยความในใจ ได้แต่ทำสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูก โดยไม่สนใจอีกคน นั่นคือต้นเหตุของความเสียใจและรอยน้ำตา และไม่เคยทำให้ปัญหาของความรักได้รับการเยียวยา เป็นเพราะความไม่รู้ และไม่เข้าใจ ได้แต่เก็บไว้ ไม่เคยเอ่ยปากถามออกมา

แล้วเมื่อไหร่จะเข้าใจกัน เมื่อไหร่จะได้รักกัน รักไม่มีทางเดินมาเจอกันได้ หากทั้ง 2 คนไม่เปิดใจ ช่วยกัน พังกำแพงระหว่าง 2 เรา ให้เราทั้ง 2 มีวันที่สวยงามร่วมกัน"

ด้วยความที่เป็นนัก cover เพลง นางจึงถ่ายทอดอารมณ์ของเพลงออกมาได้ดี คนทั้งร้านเงียบกริบ และฟังเสียงของนางอย่างตั้งใจ และทำความเข้าใจเนื้อหาในเพลงนั้น

ฟู่เว่ยหลง มองนางอย่างรู้สึกทึ่ง หมิงอี้เองก็ไม่เคยเห็นสตรีผู้ใดที่ร้องเพลงด้วยเสียงที่ไพเราะขนาดนี้มาก่อน พวกเขาเคลิ้มไปกับเสียงเพลง ที่ไม่จำเป็นต้องมีแม้แต่ดนตรีบรรเลงให้รำคาญใจ แค่เสียงนางคนเดียว ก็ทำเอาทุกคน อยู่ในห้วงภวังค์แห่งเสียงเพลงจากนาง

"หากคน 2 คนเปิดใจเพื่อคุยความในใจ คงไม่มีน้ำตา คงจะมีแต่วันชื่นคืนสุข อยากให้เรา 2 คน เป็นแบบนั้น เราหันหน้ามาคุยกันได้ไหม

แล้วเมื่อไหร่จะเข้าใจกัน เมื่อไหร่จะได้รักกัน รักไม่มีทางเดินมาเจอกันได้ หากทั้ง 2 คนไม่เปิดใจ ช่วยกัน พังกำแพงระหว่าง 2 เรา ให้เราทั้ง 2 มีวันที่สวยงามร่วมกัน"

เว่ยหลงมองท่าทางของนางที่ร้องเพลง เขาถึงกับเคลิ้มไปกับนาง ไม่แน่ใจว่าเพราะเสียงที่ไพเราะของนาง หรือเพลงที่นางร้อง เนื้อหาช่างเพราะจับใจเขายิ่งนัก การเดินทางของความรักงั้นหรือ เขาไม่เคยได้ยินประโยคแปลกๆ ที่นางร้อง แต่รู้สึกว่า เป็นเพลงที่เพราะจับใจยิ่งนัก เขาไม่สามารถละสายตาไปจากนางได้เลย จนกระทั่ง

“ว๊าวว เพราะ เพราะมาก ข้าชอบ ข้าซึ้งจนน้ำตาไหล เอาอีกๆๆๆ”

เสียงปรบมือดังกึกก้อง ดังมีงานเลี้ยงฉลองในร้านก็มิปาน

ผู้ที่ขอเพลงนี้ เดินมาที่เวทีเพื่อมาหานาง

“ข้าเข้าใจแล้ว แม่นาง ขอบคุณท่านมาก ข้าจะรีบไปบอกความรู้สึกกับคนรักของข้า ข้าพึ่งตาสว่างวันนี้เอง ขอบคุณแม่นางมาก ขอบคุณ”

เขาคำนับให้นาง 3 ครั้ง และรีบวิ่งออกจากร้านไป ……….
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel