2 ตรวจดีเอ็นเอ
"ชื่ออะไรน่ะเรา" คุณหญิงพรรณิภาหญิงสูงวัยอายุเกือบเจ็ดสิบถามเด็กหญิงตรงหน้าที่ยังร้องไห้ไม่หยุดหลังจากที่ท่านให้แม่บ้านพาเด็กหญิงเข้ามาในบ้านเด็กหญิงเดินตามแม่บ้านเข้ามาอย่างกล้าๆกลัวๆก่อนจะนั่งลงที่พื้นพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าเก่าๆ
"ฮึก ฮึก ชะ ชื่อขวัญจ๊ะ" เด็กหญิงก้มหน้าตอบด้วยเสียงสะอื้น
"ขวัญเหรอ แล้วชื่อจริงล่ะมีไหมหรือแม่เราตั้งชื่อว่าขวัญเฉยๆ"
"ชื่อจริง ฮึก ฮึก มีจ๊ะ ชื่อของขวัญจ๊ะ"
"อืมแม่เราเค้าก็เข้าใจตั้งชื่อนะ ชื่อเพราะเชียว ของขวัญ ว่าแต่เราอายุกี่ขวบแล้วล่ะ"
"ห้าขวบจ๊ะ ฮึก ฮึก"
"อืม ห้าขวบพอๆกับที่ลูกชายฉันเสียพอดี ไม่คิดเลยว่าลูกฉันจะไปแอบมีอีกคนจนมีลูกมีเต้าเห้อออ"
"คุณแม่คิดว่านังเด็กนี่เป็นลูกของพี่เขตจริงเหรอคะษาไม่อยากจะเชื่อว่าพี่เขตจะตาต่ำไปเอานังผู้หญิงชั้นต่ำแบบนั้นมาเป็นเมียน้อย" อุษาที่มีศักดิ์เป็นลูกสะใภ้ถามคุณหญิงพรรณิภาพร้อมกับมองไปที่เด็กหญิงด้วยท่าทีเกลียดชังรังเกียจอย่างออกนอกหน้า
"แล้วเธอคิดว่าไงอุษาคิดว่าผู้หญิงคนนั้นโกหกงั้นเหรอ เธอลองดูหน้าเด็กคนนี้ดีๆสิว่าแกคล้ายตาเขตมากแค่ไหน มากกว่ายัยเอมซะอีกที่ถอดแบบเธอมาทั้งหน้าตาทั้งนิสัย"
"คุณแม่!!! ทำไมคุณแม่พูดแบบนี้คะคุณแม่พูดเหมือนกับว่าอุษาไม่ดีทั้งที่อุษาเป็นสะใภ้ของคุณแม่เป็นภรรยาของพี่เขตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ถ้ายัยเอมมาได้ยินที่คุณแม่พูดแกจะคิดยังไง"
"แล้วยัยเอมอยู่ตรงนี้ไหมล่ะฉันเห็นไปเล่นบ้านตาสงครามตั้งแต่เช้าจนป่านนี้ยังไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง"
"ก็ยัยเอมกับตาสงครามรู้จักกันเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กยัยเอมจะไปเล่นด้วยทุกวันก็ไม่เห็นจะแปลกเลยนี่คะ"
"แต่เธอให้ลูกไปอยู่ที่นั้นทั้งวันเธอไม่เกรงใจบ้านโน้นเค้าบ้างหรือไง ลูกเธอน่ะนิสัยเป็นยังไงเอาแต่ใจตัวเองแค่ไหนเธอก็น่าจะรู้ดีอะไรไม่ได้ดั่งใจก็กรี๊ดๆฉันกลัวบ้านโน้นจะเอือมระอาไม่ใช่อะไรหรอก"
"ใครจะกล้าเอือมระอาคะ ยัยเอมน่ารักจะตายพี่กองทัพกับพี่กานพ่อแม่ของตาสงครามก็เอ็นดูยัยเอมเหมือนลูกสาวถึงแกจะเอาแต่ใจไปบ้างตามประสาเด็กก็เถอะอีกอย่างนะคะถ้าไม่มีใครไปยุ่งกับตาครามยัยเอมก็ไม่อาละวาดหรอกค่ะใครๆก็รู้ยัยเอมน่ะหวงตาครามยิ่งกว่าอะไรและที่สำคัญไปกว่านั้นพี่เขตกับพี่กองทัพก็เคยให้สัญญากันไว้ว่าถ้าทั้งสองโตขึ้นจะให้ยัยเอมกับตาครามแต่งงาน เพราะฉะนั้นยัยเอมก็มีสิทธิ์ที่จะไปที่นั่นได้ทุกวันในฐานะว่าที่สะใภ้บ้านนั้น"
"รอให้ถึงตอนนั้นก่อนเถอะแม่อุษาตอนนี้ยัยเอมกับตาสงครามก็เพิ่งแปดเก้าขวบอะไรก็ย่อมเปลี่ยนแปลงได้เสมอ"
"คุณแม่หมายความว่าไงคะ"
"ไม่มีอะไรฉันก็พูดในสิ่งที่มันน่าจะเป็นอนาคตไม่มีใครกำหนดได้หรอก ไม่แน่ตาสงครามอาจจะไม่ได้แต่งงานกับยัยเอมก็ได้"
"ไม่มีทางค่ะ ยังไงษาก็ต้องทำให้ยัยเอมได้แต่งงานกับตาครามให้ได้"
"เอาล่ะฉันไม่อยากจะเถียงกับเธอแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะให้เด็กคนนี้ไปตรวจดีเอ็นเอ"
"แล้วถ้านังเด็กนี่เป็นลูกพี่เขตจริงๆคุณแม่จะทำยังไงคะคุณแม่จะยอมรับนังเด็กนี่เลี้ยงดูนังเด็กนี่เหรอคะ"
"เธอนี่ก็ถามแปลกๆนะอุษา ถ้าผลตรวจออกมาว่าเด็กคนนี้เป็นลูกตาเขตเป็นหลานฉันฉันก็ต้องส่งเสียเลี้ยงดูเหมือนที่ฉันส่งเสียเลี้ยงดูยัยเอมลูกสาวของเธอนั่นแล่ะ และที่สำคัญพินัยกรรมของฉันที่เขียนไว้แต่แรกว่าจะยกทุกอย่างให้ยัยเอมก็คงต้องแบ่งให้ของ..."
"ไม่ได้นะคะษาไม่ยอมคุณแม่จะมาเปลี่ยนพินัยกรรมจะมาแบ่งทรัพย์สมบัติที่ยกให้ลูกเอมไปให้นังเด็กสกปรกนี่ษายอมเด็ดขาด"
"เธอไม่ยอมก็เรื่องของเธอในเมื่อทรัพย์สินทุกอย่างมันเป็นของฉันรวมถึงบ้านหลังนี้ด้วยฉันย่อมมีสิทธิ์ที่จะยกอะไรให้ใครก็ได้"
"แต่คุณแม่ทำเรื่องยกทุกอย่างให้ยัยเอมแล้วนี่คะ"
"ก็ตอนนั้นฉันคิดว่ามีแค่ยัยเอมคนเดียวที่เป็นหลานของฉันแต่ตอนนี้มันไม่ใช่ เธออย่าใจแคบไปหน่อยเลย ทรัพย์สมบัติที่เธอกับยัยเอมได้จากตาเขตก็ไม่ใช่น้อยๆใชัทั้งชาติก็ยังไม่หมด แล้วมันจะแปลกอะไรที่ฉันจะแบ่งในส่วนของฉันให้กับลูกสาวอีกคนของตาเขตถ้าผลออกมาว่าเด็กคนนี้ก็เป็นลูกของตาเขตเหมือนกัน"
" ถ้ายัยเอมรู้แกต้องเสียใจมากที่คุณแม่เห็นคนอื่นสำคัญกว่าแก ษาจะบอกกับลูกว่ายัยเด็กนี่มันจะมาแย่งทุกอย่างไปจากแก"
"เธออย่าเสี้ยมให้ลูกเกลียดพี่เกลียดน้องตัวเองเพราะมันไม่ใช่นิสัยของผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะ แทนที่เธอจะสอนลูกให้รู้จักสงสารเห็นใจมากกว่าจะมาสอนหลานฉันให้เกลียดน้องสาวของตัวเอง"
"ษาจะไม่ยอมให้ยัยเอมนับญาติกับนังเด็กสกปรกนี่หรอกค่ะไม่มีวัน"