บท
ตั้งค่า

1 ชั่วโมงเร่งด่วน

เช้าวันจันทร์ที่แสนวุ่นวาย บนถนนเต็มไปด้วยรถลาที่มุ่งหน้าไปยังจุดหมาย ทั้งโรงเรียน มหาวิทยาลัย สถานที่ทำงาน

หนึ่งในนั้นก็มีรถของภูเมฆาที่กำลังมุ่งหน้าไปยังจุดหมายคือบ้านของเจ้าสัวเรวัฒน์ซึ่งวันนี่เขามีนัดคุยกับเจ้าสัวเรื่องการก่อสร้างคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง และครั้งนี้ไม่ได้มีเขาแค่ที่ได้รับเชิญให้ไปคุย แต่ยังมีอีกหลายบริษัทที่ท่านเชิญเพราะฉะนั้นวันนี้จะไปสายไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว

เจ้าสัวเรวัฒน์เป็นที่รู้กันในหมู่นักธุรกิจว่าท่านเป็นคนตรงต่อเวลาและถ้าพอใจจะจ้างใครก็จ้างโดยไม่คำนึงถึงราคาหรือมีการประมูลให้วุ่นวาย ว่ากันว่าท่านมีซินแสที่คอยชี้และดูโหงวเฮ้งให้ว่าใครเหมาะกับงานไหน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ภูเมฆาไม่เชื่อเท่าไหร่

แต่ที่เขายอมตื่นแต่เช้าเพื่อมาเจอรถติดครั้งนี้ก็เพราะกำไรที่ได้จากงานนี้มันมากจนไม่อาจมองข้ามได้เลย อีกอย่างลูกน้องของเข้าก็ตั้งความหวังกับโบนัสปลายปีกันไว้ค่อนข้างมาเลยทีเดียว

ภูเมฆานั่งอ่านเอกสารโครงการคอนโดมิเนียมระหว่างทาง แม้จะศึกษามาอย่างดีแล้วเขาก็ไม่อยากพลาดแม้แต่นิดเดียว ชายหนุ่มเป็นคนจริงจังกับการทำงานมาก งานทุกอย่างเขาจะศึกษาข้อมูลอย่างดีก่อนจะออกไปเจอกับผู้ว่างจ้าง และด้วยความใส่ใจนี้เลยทำให้บริษัทที่เปิดมาเพียง 6 ปีเติบโตอย่างก้าวกระโดด

เอกสารเหล่านี้เขาให้เลขาปริ้นออกมาเนื่องจากภูเมฆาไม่ชอบจ้องจอแท็บเล็ตนานๆ เพราะตาเขามักจะแห้งจนต้องหยอดน้ำตาเทียมอยู่เป็นประจำ

ชายหนุ่มมองออกนอกรถก็เห็นว่าตอนนี้สองข้างทางรถติดจนแทบไม่ขยับสลับกับมองนาฬิกาข้อมือเพราะเหลือเวลาอีกไม่ถึงชั่วโมงก็จะถึงเวลานัด

“น้าชาติ คิดว่าทันไหม”

เขาถามคนขับรถที่เดิมทีเคยทำงานขับแท็กซี่มาก่อน พอเขากลับมาเมืองไทยและเรียกให้มารับบ่อยๆ และพอดีว่าอยากได้คนขับรถก็เลยลองเสนองานให้ ตั้งแต่นั้นมาน้าสุชาติเลยมาช่วยขับรถให้เขาในวันทำงานส่วนวันหยุดก็ไปขับแท็กซี่ตามเดิม ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 5 ปีแล้วที่ทั้งสองทำงานร่วมกัน

“ทันครับคุณภูหลุดโค้งข้างหน้าไปก็ทางก็สะดวกแล้วครับ”

เมื่อได้ฟังคำตอบภูเมฆาก็เบาใจเพราะถ้าน้าสุชาติบอกว่าทันยังไงก็ทัน

แล้วจังหวะที่กำลังเข้าโค้งก็มีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งเข้ามาปาดด้านหน้าทำให้น้าสุชาติต้องเบรกอย่างกะทันหัน จนภูเมฆาหน้าทิ่ม แฟ้มที่วางอยู่บนเบาะหลังหล่นลงบนพื้นและมันก็เกี่ยวเอากระดุมแขนเสื้อของชายหนุ่มหลุดตามไปด้วย

“ขอโทษครับคุณภู เจ็บตรงไหนไหมครับ”

“ผมไม่เป็น” เพราะภูเมฆาเองก็เห็นว่ารถตัดหน้าอย่างกระชั้นชิดถ้าน้าสุชาติไม่เบรกคงชนท้ายและเขาก็คงจะเสียเวลาไปมาก

เขาเก็บแฟ้มขึ้นมาวางบนเบาะอย่างเดิมแล้วก็เห็นว่าตอนนี้กระดุมสูทของเขานั้นมันขาดหลุดออกมาถึงสองเม็ด แล้วก็บังเอิญว่าในรถของเขาไม่มีสูทตัวอื่นอยู่เลย ครั้นจะให้เลขาเอามาให้ก็คิดว่าคงไม่มีทางทันแน่ๆ เพราะกว่าเธอจะฝ่ารถติดมาก็คงต้องใช้เวลานาน

“น้าชาติ เย็บผ้าเป็นไหม”

“อะไรนะครับ” น้าสุชาติถามเจ้านายอีกครั้งเพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองหูฝาดหรือเปล่า

“กระดุมเสื้อผมขาด คงต้องเย็บก่อนไปเจอเจ้าสัว” เพราะเป็นการคุยงานใหญ่เขาจะต้องแต่งตัวอย่างดี

“ผมเย็บผ้าไม่เป็นหรอกครับ ส่วนใหญ่เมียผมก็จะเป็นคนทำให้”

“แถวนี้พอจะร้านเย็บไหม”

“แถวนี้ไม่มีเลยครับ เอาไงดีล่ะเมียผมก็ออกไปทำงานแล้วด้วยถ้าไม่อย่างนั้นจะให้มาเย็บให้สักหน่อย”

“มีคนอื่นพอจะทำได้ไหม”

“มีครับ เดี๋ยวผมจะโทรบอกให้มารอที่ป้ายรถเมล์ก็แล้วกันเราคงไปถึงพอดีนั่นแหละ” เขารีบจัดการโทรนัดแนะกับคนที่จะมาช่วยเย็บกระดุมเสื้อให้กับเจ้านายซึ่งนับว่าโชคดีที่ฝ่ายนั้นยังไม่ทันออกจากบ้าน

เมื่อรถเทียบที่ป้ายรถเมล์สุชาติก็เปิดกระจกกวักมือให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนรออยู่ขึ้นมาบนรถ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel