บท
ตั้งค่า

ตอน 1

โครม !!!

เสียงเหล็กกระแทกกันดังโครมคราม เป็นที่มาของยานพาหนะสองคันแล่นตามกันมา สายตาแทบทุกคู่ผู้คนที่เดินผ่านไปมาบนท้องถนน ต่างหันมองให้ความสนใจไปตรงจุดที่เกิดเสียงสนั่นเมื่อกี้พร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย จากนั้นการจราจรที่พอเคลื่อนตัวได้ จึงเริ่มติดหนึบ บ้างชะลอดูเหตุการณ์ บ้างติดอยู่ด้านหลัง เพราะแล่นตามๆกันมา ตอนนี้ท้องถนนเส้นนี้คลาคล่ำไปด้วยยวดยานซึ่งไม่บางตานัก รถคันเล็กกะทัดรัดแบบอีโคคาร์ สีสันสดสวยเจ้าของคือสาวสวย เกรียวผมลอนใหญ่สวยเก๋ เข้ากับใบหน้ารูปหัวใจ พริ้มเพรา ดวงตากลมโต โฉบเฉี่ยวน่ารักน่าชัง ดวงตาสวยตอนนี้ตื่นตระหนก เมื่อเจอเข้ากับเหตุการณ์ตรงหน้า

เพราะมัวแต่คิดถึงกลเม็ดในการหาวิธีหลอกล่อบิดา ช่วงระหว่างสมองมึนงง สติจึงไม่อยู่กับตัว มีอย่างที่ไหน บิดานัดเธอให้ไปร่วมรับประทานอาหารกับเพื่อนของท่าน ที่โรงแรม ปริ้นเซส เดาสถานการณ์และแผนการบิดาได้ล่วงหน้า เลยคงหนีไม่พ้นคงหลอกให้เธอไปจับคู่ดูตัวกับบรรดาลูกชายเพื่อนของท่าน อีหรอบนี้ไม่ให้กลุ้มใจอย่างไรไหว แต่เรื่องตรงหน้าทำให้กลุ้มใจมากกว่า ก็ไอ้รถที่บิดาซื้อให้เป็นของขวัญวันรับปริญญา ขับได้ไม่เกินสิบครั้งตั้งแต่ได้ครอบครองมัน ดันไปจูบกับรถยุโรปสัญลักษณ์ อักษรภาษาอังกฤษสามตัวคันหน้าเข้าให้น่ะสิ

ธัญชนก อิทธิชัยกุล นักศึกษาสาวจบใหม่ เพิ่งรับปริญญามาหมาดๆ จากคณะอักษรศาสตร์ มองเห็นเจ้าของรถคันหน้าก้าวลงมายืนตระหง่าน ยกสองแขนเท้าสะเอวคิ้วย่นบ่งบอกอารมณ์ตอนนี้ได้เป็นอย่างดี หัวใจบางสั่นสะท้าน แม้ตัวเองจะได้ทำประกันชั้นหนึ่งไว้แล้วเธอยังไม่วายหวาดผวา เพราะนี่คืออุบัติเหตุครั้งแรกในการขับรถของเธอ หญิงสาวมองชายเจ้าของรถหรูสีดำผ่านกระจก เมื่อเจ้าของรถที่เธอบังอาจจูบท้ายไม่ได้ตั้งใจ ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ยืนอยู่ในชุดสูทสีดำเข้ากันทั้งชุด แค่มองปราดเดียว ประมาณฐานะคร่าวๆเขาคงไม่ใช่ลูกตาสีตาสา ดวงหน้าหล่อเหลา สวมแว่นกันสีแดดดำสนิท ทั้งที่ช่วงเวลาห้าโมงเย็นไร้แดดจ้าสาดส่อง

“อ๋าย ซวยแล้วไงเรา” เสียงหวานโอดครวญอยู่ในห้องโดยสาร ภายในรถคันกะทัดรัดเหมาะสมกับคนขับ เธอหดคอหนีคู่กรณีราวกับเต่าหดเข้ากระดอง

ร่างสูงในสูทสีดำ กับรองเท้าเงาวับ เดินมาหยุดอยู่ข้างรถของหญิงสาวฝั่งด้ายขวา

ก๊อก ก๊อก

“นี่คุณไม่คิดจะลงมาคุยกันหน่อยเหรอ” เขาเคาะกระจกฝั่งคนขับพร้อมส่งเสียงเรียก ร่างบางจึงได้สติสะดุ้งกาย แหงนมองใบหน้าที่ยังประดับด้วยกรอบแว่นกันแดดสีดำ ดูเขาอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ หากเดาจากสีหน้าที่ยังไร้แววตาภายใต้กรอบแว่นมืดมึนอันนั้น

หญิงสาวกดล็อกค่อยๆเปิดประตูเกรงจะโดนร่างสูงนั้นเข้า เขาขยับพร้อมกับมองหน้าหวานซึ่งค่อนข้างประหม่า เพียงได้เห็นใบหน้าหญิงสาวชัดตา หัวใจแกร่งแห่งบุรุษเพศพลันกระตุก แอบกระซิบบอกตัวเอง นึกพอใจในความน่ารักความสวยหวานของหญิงสาวในนาทีแรกที่ได้เห็นดวงหน้านั้น ใบหน้าแต่งแต้มอ่อนๆ ทว่ากลับสร้างสีสันให้ดวงหน้างดงามของหญิงสาวมากนักหนา เธอไม่ได้สูงเกินมาตรฐานหญิงไทย ทว่าสูงในระดับมาตรฐาน ช่างน่ารัก น่าถนอม เทพนิธิ พงศ์พนาพิสุทธิ์ ชักอยากได้แม่หน้าหวานมาเป็นตุ๊กตาหน้ารถคนใหม่ซะแล้วสิ เขาคิดซุกซนเช่นชายเจ้าชู้ ที่ไม่เคยหยุดอยู่กับหญิงใด

แม้ในรถที่เขาขับมาตอนนี้ จะมีตุ๊กตาหุ่นดี เรือนกายเย้ายวน ชวนหลงใหล ทว่าเขากลับไม่ได้ปักใจ จะลงเอยกับหล่อน การคบหากับผู้หญิงมากหน้าสำหรับเทพนิธิ ย่อมวางกฎเกณฑ์ให้พวกเธออยู่ในที่ของพวกเธอไม่เว้นแม้แต่แอมมี่ นีรนุช ดาราสาวสวยคนล่าสุดที่เขาผลักดันหล่อนเข้าวงการ เพราะรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการบ้าง รวมทั้งผู้จัดละครหลายคน หล่อนก้าวขึ้นเป็นนางร้ายเบอร์หนึ่งเพราะเขา ฉะนั้นเขาย่อมมีสิทธิ์หาผลประโยชน์ จากการหว่านเมล็ดพันธ์ครั้งนี้หรือทุกครั้ง

“ฉันขอโทษค่ะ” ธัญชนก ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร ในเมื่อจริงๆ แล้วรถยนต์ทั้งของเขาและเธอไม่ได้แล่นมาด้วยความเร็วสูง จนต้องเบรกกะทันหันทำให้ชนท้ายได้ แต่เพราะเธอเองเหม่อลอย คิดนั่นนี่เต็มไปหมด ผลลัพธ์คือภาพที่เห็นตรงหน้า หน้ารถเธอยับในขณะรถคู่กรณี มีรอยนิดหน่อยเพราะเป็นรถยุโรปแข็งแกร่งกว่ารถญี่ปุ่นอยู่มาก

“ขอดูใบขับขี่หน่อย” เสียงทุ้มเอ่ยขอเอกสารสำคัญกับเธอ พร้อมทั้งแบมือขาวเนียนยิ่งกว่าสตรีที่ดูแลตัวเองดีเยี่ยมมาตรงหน้าหญิงสาว

“ฉันว่าเราควรเรียกประกันดีกว่านะคะ” เขาไม่ใช่ตำรวจ บังอาจขอดูใบขับขี่ของเธอได้อย่างไร เรื่องอะไรจะยอม หญิงสาวเชิดหน้าท้าท้ายกับใบหน้าหล่อเหลา ที่ยังไม่ยอมถอดแว่น “ทางที่ดี คุณควรจะถอดแว่นคุยกับฉัน” เพื่อจะได้เห็นดวงตา จะรับกับใบหน้าหล่อ ขาวสะอาดนั้นหรือไม่ เธอวาดดวงหน้าเขาไว้ในใจด้วยมโนภาพ จัดให้เขาหล่อราวเทพบุตร แต่นั่นรับประกันไม่ได้ นอกจากเขาจะถอดเจ้าแว่นสีดำอันโตอันปิดบังดวงหน้านั้นซะก่อน

“ผมว่ามันคงช้ามากหากต้องรอ เอาเป็นว่าเรามาตกลงกันอย่างสันติดีกว่านะครับคุณผู้หญิง” เขายื่นเสนอ

“ตกลง ตกลงกันเองอย่างนั้นหรือ” เธอกำลังรีบตกลงกันเองคงดีกว่า เธอผิดเต็มๆ เห็นได้ชัดคาตา

“ครับ ตอนนี้ผมไม่มีเวลาแม้แต่จะรอประกัน ผมมีธุระต้องจัดการหลายอย่าง” ขณะเขาชูประเด็นธุระต่อหน้าหญิงสาว สายตาภายใต้กรอบแว่นลอบสำรวจความน่ารัก ของคู่กรณีไปพลาง กระทั่งต้องสะดุดทุกอย่างลงเมื่อเสียงแหลม แม่ตุ๊กตาหน้ารถตัวใหม่แทรกกลางซะก่อน

“เทพคะ เมื่อไหร่จะเสร็จเรื่องคะ เรียกประกันเลยสิขืนช้ายิ่งเสียเวลากันไปใหญ่” แอมมี่ โผล่ออกจากรถเดินมาหยุดเกี่ยวลำแขนแกร่งแนบลำตัวบางกับเขาราวจะเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อเห็นว่าคู่กรณีคือสาวสวยน่ารักซึ่งไม่น่าไว้ใจ

“ฉันเห็นด้วยกับแฟนคุณนะคะ” ธัญชนกรับกับความคิดนั้น แต่ชายหนุ่มกลับอยากเคลียกันเอง อ้างธุระสำคัญคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่สาวหุ่นทรมาน ที่มีใบหน้าคุ้นตาคนนี้ ธัญชนกพยายามนึก อ้อ เธอร้องในใจ แม่นางร้ายเบอร์หนึ่งประจำทุกช่องนี่เอง แอมมี่ นีรนุช

“มี่เดี๋ยวผมเคลียร์เอง คุณเข้าไปนั่งรอในรถดีกว่าข้างนอกอากาศร้อน” เทพนิธิแกะมือบางที่เกี่ยวรอบลำแขนออกเกรงหญิงตรงหน้าจะเข้าใจผิดทั้งที่ไม่เป็นอะไรกันกับธัญชนกสักนิด

“ไม่ค่ะ มี่จะอยู่เป็นเพื่อนคุณ” นางร้ายในจอยืนยันท่าทีที่แสดงออกเหมือนงัดเอาตัวจริงออกมาสวมบทบาทในละครซะชัดเจน

“ตามใจถ้าทนกับควันรถได้” เขามึนชากับคู่ควง จนแอมมี่รู้สึกถึงกลิ่นไอประหลาด ที่แผ่ซ่านจากกายสูงนั้น เธอถอยหลังไปหนึ่งก้าว แต่เรื่องอะไรจะยอมเข้าไปนั่งรอในรถให้สองคนนี้ได้ทำความรู้จักกันเป็นการส่วนตัว เทพนิธิไม่ใช่คนที่จะไว้ใจได้

“เอาเป็นว่าคุณผู้หญิง ผมเป็นผู้เสียหาย และผมคิดว่ากำลังหาทางออกให้คนผิดอย่างคุณ กรุณาส่งใบขับขี่ของคุณให้ผมดูซะทีผมจะได้รีบๆไป”

“แทนที่คุณจะเรียกประกันแต่กลับอยากดูใบขับขี่ของฉัน”

“นี่คุณผมเสียหาย หากเรียกประกัน รับรองสามชั่วโมงผมคงไม่ได้ไปไหน ผมมีนัดกับผู้ใหญ่ ตอนนี้เลยเวลานัดหมายของผมมาพอสมควร หวังว่าคุณคงเข้าใจ” เขาถอดแว่นกันแดดบดบังดวงตาจากดวงหน้าในที่สุด

ทันทีที่ดวงหน้านั้นเผยความเป็นอิสระจากกรอบแว่นอันใหญ่ ใบหน้าขาวสะอาดได้เผยความจริง ซึ่งสร้างความตะลึงให้กับเจ้าของดวงตาหวานกลมโต เลือดในกายธัญชนก เกิดแรงปะทะไหลเวียนไม่สะดวกเกือบจับกันเป็นลิ่มแข็งทิ่มแทงหัวใจเธอเสียซ้ำ หากไม่มีเสียงแม่นางร้ายเบอร์หนึ่งเอ่ยขึ้นมาซะก่อนอาการหวิวสิ้นสุดลงฉับพลัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel