EP 2
“จะไม่ชวนเข้าไปกินชาหรือกาแฟหน่อยเหรอจ๊ะคนสวย”
เขาแหย่แฟนสาวด้วยใบหน้าออดอ้อนเล็กน้อยเมื่อรถจอดเทียบหน้าประตูบ้านสวนในเวลาสองทุ่มนิดๆ แถมคว้ามือนุ่มนิ่มมากุมไว้ไม่ยอมให้เธอลงไปเปิดประตู เพราะยังไม่อยากห่างกันตอนนี้
“ดูก่อนนะว่าแม่กับตานอนหรือยัง”
พลอยหยกรู้ดีว่าตอนนี้นี้ทั้งสองคงนั่งดูข่าวดูละครอยู่ ไม่มีใครหลับง่ายๆ แน่ โดยเฉพาะแม่ที่มักจะนั่งถ่างตารอเวลาลูกคนนี้ไปไหนมาไหนกับแฟนหนุ่มกลางค่ำกลางคืนเสมอ
“อ้าว! กลับมากันแล้วเหรอจ๊ะ แม่คิดว่ารถของใครมาจอดหน้าบ้านอยู่พอดี”
ยังไม่ทันได้ตอบด้วยซ้ำ ‘กรองแก้ว บุญอันดา’ ก็เดินออกมาเกาะประตูรั้วไม้เก่าๆ สูงแค่เอวมองเข้ามาในรถแล้ว ปริญรีบปล่อยมือแฟนสาวอย่างรวดเร็ว ด้วยรู้ดีว่าผู้ใหญ่ไม่ใคร่จะชอบให้ทำอะไรทำนองนี้
เพราะรักมากมายเขาจึงห้ามตัวห้ามใจได้ยากบ้างในบางครั้ง แต่ก็ไม่เคยทำอะไรเกินเลยไปกว่า จับมือจับไม้ กอดจูบลูบไล้ได้บ้างบางครั้งแต่ก็หาโอกาสนั้นยากเย็นเต็มที
“เพิ่งมาถึงจ้ะแม่”
ลูกสาวออกจากรถแล้วส่งยิ้มเก้อเขินให้ ส่วนอีกหนุ่มก็รีบเดินอ้อมหน้ารถไปยืนเคียงข้างแฟนสาวเช่นกัน
“จะเข้ามาดื่มอะไรก่อนมั้ยจ๊ะปริญ แม่ทำบัวลอยดอกอัญชันด้วยนะ สนใจหรือเปล่า”
“ครับคุณแม่”
ปริญเรียกแบบนี้เหมือนกับเพื่อนๆ ทุกคนที่เคยมาบ้านพลอยหยกแล้ว จึงไม่ได้เก้อเขินแต่อย่างใดหากนั่นจะหมายความว่า เขายกย่องกรองแก้วเป็นแม่ยายตั้งแต่นั้นมาแล้ว
“ขากลับแม่จะได้ตักไปฝากคนที่บ้านปริญด้วยไง แต่ไม่รู้จะกินเป็นหรือเปล่านะ”
กรองแก้วรู้ดีในข้อนี้ว่าระหว่างลูกตัวเองกับเขามีความแตกต่างกันมากมายหลายด้าน จนบางครั้งเคยคิดว่าถ้าทั้งสองไม่สมหวังในรักด้วยปัญหาทางฝ่ายโน้นขึ้นมาลูกจะเจ็บมากแค่ไหน แต่เมื่อเห็นว่าปริญไม่มีแววกังวลในเรื่องนี้ตัวเองก็เลยพลอยลืมไปด้วย
“กินเป็นสิครับคุณแม่ ครั้งก่อนคุณแม่กับคุณย่ายังแย่งกันกินฟักทองแกงบวดเลยครับ”
ความเป็นนักการทูตมักจะมีในตัวเขาถ้าต้องการจะเอาใจว่าที่แม่ยายหรืออีกนัยทำให้สบายใจด้วยการไม่ได้พูดความจริงว่าแม่กับย่าไม่ได้กันกินสักนิด แถมชิมอย่างเสียไม่ได้เมื่อถูกเขาคะยั้นคะยออีกต่างหาก
“ดีใจที่ได้ยินแบบนี้จ้ะ งั้นขากลับแม่จะตักให้เยอะๆ เลยจะได้ไม่ต้องแย่งกันอีก เอาไปเผื่อคนอื่นๆ ในบ้านด้วย”
“ขอบคุณครับคุณแม่”
ปริญชอบความมีน้ำใจของครอบครัวแฟนสาวมาก ไม่ว่าจะแม่หรือตากล้วยที่มักจะฝากต้นกล้าไม้ดอกไม้ประดับให้เขาเอากลับบ้านไปปลูกเสมอๆ ถึงแม้ที่ร้านจะขายแต่ตาก็ไม่เคยสนใจในค่าเงินถ้าอยากจะให้
“หยกจะตักมานั่งกินในนี้หรือจะไปกินในครัวก็ได้นะลูก เดี๋ยวแม่จะเตรียมใส่กล่องไว้ให้ปริญเอากลับบ้านก่อน”
ในความคิดเขาแล้วไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของบ้านก็หาความเป็นส่วนตัวไม่ได้อยู่ดี ด้วยบ้านชั้นเดียวหลังนี้ไม่ได้ใหญ่อะไรนัก มีแค่สองห้องนอนสองห้องน้ำ กับห้องครัวและห้องนั่งเล่นที่แฟนเขากับแม่นอนอยู่เท่านั้น
ส่วนตากล้วยจะอยู่กระท่อมไม้ท้ายสวนถัดจากตัวบ้านไปหลายสิบเมตร เพราะชอบความเงียบสงบ การจะพูดจะคุยอะไรจังไม่ใคร่จะสะดวกนัก
โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัวของหนุ่มสาว เขาไม่อาจจะหยิบยกมาคุยได้ แต่ก็ยังอยากเข้ามานั่งกินอะไรเพื่อยื้อเวลาให้ได้อยู่ใกล้ๆ แฟนออกไปอีกนิด แต่ก็ได้ไม่มากสักเท่าไหร่ นานสุดก็นั่งดูละครจบด้วยกันสามคน
หรือในบางครั้งแม่แฟนก็จะนั่งนวดแป้งทำขนมเตรียมทำบุญตรงนั้นตรงนี้อยู่ห่างออกไป แต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะได้อยู่กับแฟนสาวตามลำพังในบ้านหลังนี้
“พรุ่งนี้ผมจะขอมาฝากท้องกินมื้อเย็นด้วยนะครับคุณแม่”
“ได้เลยจ้ะ”
“ไปนะหยก แล้วเจอกัน”
เขาหันไปสั่งแฟนสาวที่ยืนคู่กับแม่ตรงประตูรั้วสูงแค่เอวส่งเขา ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากเธอนอกจากส่งยิ้มให้ควบคู่กับการโบกมือลาให้สัญญาณว่ากลับได้แล้ว นั่นล่ะเขาถึงจำต้องออกรถไป
แม้บ้านเธอจะไกลจากคฤหาสน์หรูหราของเขา แต่คนเราถ้ารักกันซะอย่างหนทางจะสำคัญอะไร ขับรถไปเขาก็ขบคิดไปว่าวันรุ่งขึ้นเขาจะเอ่ยปากกับแม่ ย่าและอาเรื่องแต่งงานทันที แน่นอนว่าทั้งสามจะต้องรีบทำตามความต้องการเขาแน่
“ไม่ได้นะราฟฟ์ แม่จะไม่ยอมให้ลูกแต่งงานก่อนเรียนจบโทหรือไม่ก็ดอกเตอร์ก่อนแน่ๆ และกับเด็กคนนั้นด้วย จำได้มั้ยว่าลูกจะต้องสานต่อความฝันของคุณพ่อด้วยการเข้าไปทำงานสถานทูตเพื่อจะได้ก้าวขึ้นเป็นเอกอัครราชทูต4ในอนาคต ตอนนี้คุณลุงชัยยะอยากให้ลูกจบโทแล้วเข้าทำงานก่อนท่านจะต้องย้ายไปเจนิวา”
‘ดวงกมล ไลลา เอตามัส-โตเอลเวร่า’ ค้านลูกเป็นรอบที่สามหลังจากเริ่มต้นคุยกันมาจะเป็นชั่วโมงแล้ว แต่ลูกก็ยังคงยืนยันคำเดิมคือจะต้องแต่งงานก่อน
ไม่อย่างนั้นจะไม่ยอมไปเรียนต่อหรือไม่ยอมสานต่อความฝันของ ‘โรมาโน่ ปกรณ์ เอตามัส-โตเอลเวร่า’ ผู้เป็นสามีที่จากไปเมื่อสี่ปีก่อนจนเธอกับลูกต้องย้ายจากกรุงโรมมาอยู่กรุงเทพฯ เมื่อเสาหลักของบ้านไม่อยู่ให้ยึดแล้ว
“ผมยังยืนยันคำเดิมครับคุณแม่ว่าผมจะไม่ทำอะไรทั้งนั้นถ้าไม่ได้แต่งงานกับหยกก่อน”
ลูกย้ำอีกครั้งคำเดิม จนคนเป็นแม่ต้องหันไปหา ‘คุณอุ่นเรือน นีลน่า เอตามัส-โตเอลเวร่า’ ผู้เป็นแม่สามีที่นั่งฟังสองแม่ลูกทะเลาะกันอย่างคนใช้ความอดทน และไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้หลานชายเพียงคนเดียวยอมล้มเลิกความคิดเรื่องแต่งงานที่ไม่มีวันจะเกิดจริงได้ยังไง