5
ไพรสวาทเล่ม 2 เสือสิงห์
หลังจากเสร็จสิ้นงานเลี้ยงในหมู่บ้าน เป็นงานเลี้ยงฉลองที่จอมไพรได้ขึ้นเป็นหัวหน้าหมู่บ้านต่อจากคนเก่า หวานแก้วเดินกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม เธอปลีกตัวเดินกลับเองเพราะเห็นว่าทุกคนกำลังสนุกกันอยู่จึงไม่อยากรบกวน
สาวน้อยหาวหวอดๆ เพราะวันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน หัวถึงหมอนเธอคงหลับเป็นตาย
บิดามารดาของเธอไม่อยู่แล้ว เธอจึงอาศัยอยู่ที่กระท่อมน้อยเพียงลำพัง รอเพียงไม่นานก็จะเข้าพิธีแต่งงานกับคู่หมั้นคู่หมายอย่างราชัน
วันนี้เพื่อนรักอย่างนิสามีความสุข ก็ทำให้เธออบอุ่นหัวใจตามไปด้วย
เธอเห็นเพื่อนรักมีความสุขก็พลอยมีความสุขตามไปด้วย และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รู้ว่านิสาตั้งครรภ์ กำลังจะมีทายาทน้อย ๆ น่าเอ็นดูให้ได้ชื่นชมในเร็ววัน
อีกอย่างจอมไพรก็ได้รับตำแหน่งเป็นนายบ้านของที่นี่ จอมไพรเป็นคนดี เธอเชื่อว่าเขาจะต้องดูแลลูกบ้านได้อย่างผาสุก
หวานแก้วเดินขึ้นบ้านหลังจากล้างมือล้างเท้าเรียบร้อยแล้ว เธอเข้านอนและหลับไปก่อนที่มือหนาของใครบางคนจะมาอุดปากของเธอเอาไว้
เด็กสาวดิ้นรนอึกอักอย่างหวาดกลัวพยายามที่จะต่อสู้แต่ก็สู้แรงของผู้ชายไม่ไหว
เธอเห็นว่าคนที่เข้ามาข่มเหงเธอนั้นใส่ชุดไอ้โม่งทำให้เธอไม่สามารถที่จะเห็นใบหน้าของมันได้
“อือ... ปล่อยนะ อื้อ” ในจังหวะที่เธอสามารถดิ้นรนหลุดจากมือของมันที่อุดปากเธอได้ เธอก็ขอร้องให้มันปล่อย
“อย่าร้อง ไม่อย่างนั้นฉันปาดคอเธอแน่” ประโยคนั้นทำให้หวานแก้วรู้สึกตกใจและหวาดกลัวยิ่งนัก เธอไม่เคยมีความแค้นกับใคร ไม่รู้ว่าใครเข้ามาลอบทำร้ายเธอเช่นนี้
เธอส่ายหน้าไปมาพยายามที่จะอ้อนวอนขอร้องเขาแต่มือหนักของเขากดทับปิดปากของเธอเอาไว้อย่างเหนียวแน่น
เสื้อผ้าของเธอถูกดึงทึ้งจนขาดวิ่น หวานแก้วถูกมัดปากเอาไว้ ทำให้เธอไม่สามารถร้องเรียกขอความช่วยเหลือจากใครได้เลย
หญิงสาวร้องไห้น้ำตาไหลพรากเมื่อถูกย่ำยีอย่างไร้ความปราณีแก่นกายที่สอดเสียบเข้ามาในร่องสวาททำให้เธอเจ็บปวด จนต้องดิ้นรนด้วยความทุกข์ทรมาน
เขาไม่ได้มีความปราณีให้แก่เธอเลย แต่เมื่อเห็นว่าเธอร้องไห้และเขาได้สัมผัสถึงความคับแคบของร่องสวาทหมายถึงความบริสุทธิ์ของสาวน้อยเขาก็เริ่มจะได้สติ
กลิ่นเหล้าเถื่อนดีกรีร้อนแรงฉุนกึก ทำให้เธอต้องมึนงงไปตามไปด้วย
ในจังหวะที่เขานิ่งค้างอยู่นั้น เธอก็กระชากผ้าคลุมหน้าของเขาออก
นั่นทำให้สาวน้อยได้เห็นใบหน้าของเสือสิงห์ เป็นเขานั่นเองที่เข้ามาย่ำยีเธอ นั่นยิ่งทำให้เธอหวาดกลัวยิ่งนัก
ในค่ำคืนนี้พระจันทร์เต็มดวง เขามาในกระท่อมหลังน้อยของเธอ จึงทำให้เธอได้เห็นใบหน้าของผู้ชายใจร้ายที่เข้ามาข่มเหงเธอได้อย่างชัดเจน
“เสือสิงห์เป็นแกได้ยังไง” เธอพูดเสียงสั่น มองเขาด้วยความเกลียดชังและเธอก็รู้สึกเสียใจที่เขาได้พรากพรหมจรรย์ พรากสิ่งที่มีคุณค่าของผู้หญิงที่จะมอบให้แก่ชายที่เป็นคนรักไปอย่างเลือดเย็น
“ทำไมจะเป็นฉันไม่ได้ ผู้หญิงปากดีแบบเธอก็ต้องเจอแบบฉันนี่แหละ” เสือสิงห์มองเด็กสาวใต้ร่างด้วยแววตาดุดันน่ากลัว ทำให้หวานแก้วถึงกับตัวสั่นฟันกระทบกันโดยความหวาดกลัวจับขั้วหัวใจ
“คนสารเลว ฉันจะบอกนายบ้านให้จัดการแกซะ” ประโยคของเธอทำให้เสือสิงห์หัวเราะร่วน
“หัวเราะอะไรของแก”
“มันเหรอจะจัดการอะไรฉันได้ ขนาดฉันเข้ามาย่ำยีเธอ มันยังไม่รู้เลย ป่านนี้มันนอนกอดเมียมันอยู่ที่บ้านโน้น” ประโยคของเขาคือการเย้ยหยัน
“ไอ้คนเลว” เธอได้แต่เจ็บใจ
“ก็เอาสิ เธอจะประจานตัวเองว่านอนกับโจรอย่างฉัน คู่หมั้นของเธอ รวมถึงคนในหมู่บ้านก็จะรังเกียจผู้หญิงอย่างเธอ” ประโยคของเขาทำให้เธอถึงกับชะงักและอึ้งไปเป็นจริงอย่างที่เขาพูด ถ้าเธอบอกเรื่องนี้กับใคร เธอก็จะเป็นที่รังเกียจของคนที่นี่ โดยเฉพาะคู่หมั้นคู่หมายของเธอเอง
“ถอยออกไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันเกลียดแก ไอ้คนสารเลว” หวานแก้วด่าทอเสือสิงห์อย่างเจ็บแค้นใจ
“ฉันเลวยังไงก็เป็นผัวของเธอแล้ว ได้ยินไหม”
เขาตอกย้ำด้วยการกดแก่นกายเข้าในร่องเสียวของเธอจนเธอต้องร้องครางออกมาด้วยความเจ็บปวดระคนเสียวซ่าน
ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะโชคร้ายโดนโจรที่สารเลวแบบเสือสิงห์ข่มเหงเอาแบบนี้
กิตติศัพท์ของเขาคือไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ เป็นโจรที่มีคุณธรรม ปล้นคนเลวช่วยคนจน แต่สิ่งที่เขาทำกับเธอมันไม่ใช่อย่างที่มีคนสรรเสริญเยินยอเลยสักนิด
“ทำไมแกถึงต้องทำแบบนี้กับฉันด้วย”
ประโยคคำถามของเธอทำให้เขาระเบิดหัวเราะออกมาก่อนจะจับปลายคางสวยของเธอเอาไว้
“พอแก้มัดปากนี่ปากดีจริงๆ เลยนะ” เพราะเธอเห็นหน้าเขาแล้ว เขาจึงจัดการแก้มัดปากให้เธอเสีย ก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะพูดอะไรกับเขา
“ก็เธอมันดันปากมากอยากเป็นเพื่อนที่รักเพื่อนที่ดีของนิสานักใช่ไหม ฉันก็เลยต้องตอบสนองเธออย่างสาสมยังไงล่ะ” ประโยคของเขาทำให้เธอเจ็บปวดหัวใจยิ่งนักก่อนที่เธอจะพูดออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเทาและน้ำตานองหน้า
“นิสาแต่งงานกับนายบ้านจอมไพรไปแล้ว แกยังคิดจะไปฉุดลูกเมียของคนอื่น สารเลวไม่มีใครเกิน”
“ปากดีนักนะ” เขาบีบปลายคางสวยของเธออย่างโกรธจัด
“เขาเป็นของคนอื่นไปแล้ว” เธอตอกย้ำ เพราะเช่นไรนิสาก็คือเพื่อนรัก เธอจะไม่มีวันทำให้เพื่อนต้องเสียใจหรือตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน
“นิสาเป็นคู่หมั้นของฉัน ถ้าไม่เพราะพ่อของฉันถูกใส่ร้าย ฉันกับเขาก็คงได้แต่งงานกัน” เขารับรู้เช่นนั้นมาโดยตลอด จึงไม่เคยคิดสนใจสาวคนใด ได้แต่แอบมาลักลอบมองคู่หมั้นสาวของตัวเองเจริญวัยขึ้นจนแตกเนื้อสาว
“แกกับเขาไม่มีวันได้อยู่ด้วยกันหรอก เพราะนิสาเขารักนายบ้าน ไม่ได้รักแก” นิสาเองก็รู้ว่าบิดามารดาเคยหมั้นหมายกับสิงห์เอาไว้ แต่เพื่อนของเธอก็ยังรักจอมไพร และเธอก็สนับสนุนในความรักของเพื่อนด้วย รักใครชอบใครก็ควรได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนคนนั้น
“นั่นสิ ฉันสารเลวไม่มีใครเกิน ปากดีแบบเธอต้องเจอเลวๆ แบบฉันนี่แหละ” เสือสิงห์พูดอย่างคับแค้นใจแล้วในค่ำคืนนั้นเขาก็ร่วมรักกับเธอจนเกือบรุ่งสาง
เขาปล่อยให้เธอนอนร้องไห้อยู่บนเตียงอย่างไม่แยแสก่อนจะจากไปอย่างเลือดเย็น
เขามีลูกน้องตามติดมาอีกเป็นกระพรวน ลูกน้องของเขาดูต้นทางอยู่ข้างนอก เมื่อเจ้านายเสร็จกิจแล้ว พวกนั้นก็รีบตามเจ้านายกลับเข้าไปในป่าทันที
คนที่ถูกย่ำยีนอนร้องไห้อยู่กับเตียงด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ ก่อนที่เธอจะไข้ขึ้นเจ็บร้าวไปหมดทั้งร่าง
เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมามีงานเลี้ยงในหมู่บ้าน ผู้คนจึงเงียบกริบเพราะหลายคนในหมู่บ้านกินเลี้ยงกันจนดึกดื่นทำให้ตื่นสาย บางคนก็เมาจนนอนสายตะวันโด่ง ในขณะที่หวานแก้วนอนซมด้วยพิษไข้ เธอคลานไปที่โอ่งเพื่อควานหาดื่มน้ำอย่างกระหายและหายารับประทานด้วย
เธอนอนซมด้วยพิษไข้ จนได้ยินเสียงเรียกของเพื่อนรักอย่างนิสา ทำให้เธอต้องรีบขานรับออกไปอย่างดีใจ คิดว่าตัวเองต้องนอนตายอยู่ในกระท่อมคนเดียวเสียแล้ว
หวานแก้วคิดว่าเธอได้ส่งเสียงดังที่สุดแล้ว แต่ปรากฏว่าเสียงมันช่างเบาแสนเบาเสียเหลือเกิน นิสาเป็นห่วงเพื่อนที่หายเงียบไปเป็นวันสองวันจึงรีบมาดูปรากฏว่าเธอเห็นหวานแก้วนอนซมเพราะพิษไข้
“แก้วเป็นยังไงบ้าง” นิสาเอ่ยถามหวานแก้วอย่างห่วงใย มือน้อยทาบไปกับหน้าผากของเพื่อนเพื่อตรวจดูความร้อนจากร่างกายของอีกฝ่าย
หวานแก้วละเมอและพูดไม่รู้เรื่องทำให้นิสาต้องเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เพื่อนรัก