ตอนที่ 13
หลังให้อวี้เหนียงติดป้ายประกาศว่าร้านปิดปรับปรุง ไป๋ฟางเซียนจึงเดินสำรวจภายในร้านพร้อมกับจื่อถิงและลูกจ้างร้านเฟยเจินทันที ระหว่างที่เดินสำรวจนางก็ขบคิดถึงสิ่งที่ต้องการปรับปรุงไปด้วยเช่นกัน แม้อวี้เหนียงจะจัดการร้านได้ค่อนข้างดี แต่การจัดตกแต่งร้านกลับไม่ถูกใจนางนัก ดังนั้นนางจึงคิดปรับปรุงและตกแต่งร้านใหม่ทั้งหมด เมื่อดูครบทุกชั้นแล้ว นางจึงบอกจุดประสงค์ของตนออกไป
“เอาละ ข้าจะปรับปรุงร้านและตกแต่งขึ้นมาใหม่ ชั้นล่างสุดใช้สำหรับขายผ้าพับปกติ มีแสดงชุดที่ข้าจะให้อวี้หรูปักหลังจากนี้ด้วย ชั้นที่สองจะเป็นชั้นที่แสดงชุดสำเร็จที่อวี้หรูปักทั้งหมด รวมถึงใครที่จะสั่งตัดผ้าตัดชุดหรือปักลาย ต้องมาติดต่อที่ชั้นนี้ ส่วนชั้นสามข้าจะเก็บไว้เป็นห้องทำงานของข้าและใช้เป็นห้องรับรองสำหรับลูกค้าพิเศษ” ครั้นเห็นทุกคนพยักหน้ารับคำไม่โต้แย้งก็พูดต่อ
“ชั้นแรกอิงฮวาและเหยาเหยาจะทำหน้าที่ดูแลเป็นหลัก เจ้าเคยค้าขายอย่างไรก็ทำเช่นนั้น เพียงแต่ต้องพูดในส่วนอาภรณ์และลายปักชุดใหม่ของทางร้านเพื่อที่จะดึงความสนใจจากลูกค้าด้วย”
“เจ้าค่ะคุณหนู” สองสาวรับคำ
“ชั้นที่สอง ส่วนนี้เป็นหน้าที่ของอวี้หรู อวี้หรูต้องคอยรับแขกที่มาสั่งตัดอาภรณ์โดยเฉพาะ เจ้าต้องพูดคุยความต้องการของลูกค้าให้เข้าใจตรงกันและแจ่มชัดเพื่อที่จะไม่ให้มีปัญหาในภายหลัง ที่สำคัญเจ้าสามารถเย็บปักในห้องนี้ได้”
“เจ้าค่ะคุณหนู ว่าแต่คุณหนูจะให้ข้าปักลายใหม่และอาภรณ์ชุดใหม่เช่นไรหรือเจ้าคะ” อวี้หรูรับคำและถามกลับด้วยความตื่นเต้น นางคิดว่าของที่คุณหนูคิดและให้นางทำต้องไม่มีผู้ใดเคยทำหรือมีมาก่อนแน่ และคิดว่ามันต้องงดงามมากเช่นกัน
ไป๋ฟางเซียนยิ้มรับจากนั้นจึงตอบว่า “ยังก่อน เดี๋ยวข้าวาดแบบและอธิบายให้เจ้าฟังทีหลัง ส่วนเจ้าอวี้เหนียง ด้วยความที่เจ้าเป็นหลงจู๊ของร้าน ข้าจะให้เจ้าจัดการหน้าที่เช่นเดิมรับซื้อขายผ้า และทำบัญชีรายรับรายจ่ายแบบใหม่ แบบที่ข้าจะบอกสอนเจ้าหลังจากนี้ ห้องทำงานของเจ้าจะอยู่ชั้นสองซึ่งจะเป็นห้องตรงข้ามกับห้องตัดชุดของอวี้หรู ส่วนชั้นสามจะเป็นห้องทำงานของข้าทั้งหมด อ้อ ต้องกันเป็นห้องรับรองลูกค้าพิเศษที่ต้องการพบข้าหรือทำการค้ากับข้าด้วย ทั้งนี้ชั้นนี้ทำเป็นห้องพักอีกหนึ่งห้องให้ข้าด้วยเช่นกัน เผื่อวันไหนเหนื่อยจากงานข้าจะได้พักที่นี่เลย”
“เจ้าค่ะคุณหนู นอกจากนี้คุณหนูจะให้จัดตกแต่งร้านแบบใดหรือเจ้าคะ” อวี้เหนียงถาม
ไป๋ฟางเซียนยิ้มรับก่อนจะขอกระดาษกับดินสอ แต่เมื่อนึกได้ว่าที่นี่ไม่มีดังนั้นจึงขอก้อนถ่านแทน นางสั่งให้คนขับรถม้านำก้อนถ่านมาเหลาเป็นแท่งก่อนจะใช้ก็ใช้ผ้าพันโดยรอบเพื่อที่มือนางจะได้ไม่เปรอะเปื้อนความดำของมัน คิดว่าหลังจากกลับจวนไปนางคงไปขอให้บ่าวรับใช้ที่จวนทำดินสอแบบเฉพาะให้นางแน่ ๆ
เมื่อได้ดินสอถ่านที่ต้องการแล้ว ไป๋ฟางเซียนก็เริ่มวาดแบบที่ต้องการตกแต่งของร้านเฟยเจินทันที ชั้นแรกทุกอย่างถูกจัดอย่างเป็นสัดส่วน ตรงกลางจะโล่งโปร่งเดินสวนได้สะดวก ด้านซ้ายที่ติดผนังร้านให้ต่อไม้เป็นชั้น ๆ เพื่อที่จะวางแสดงผ้าพับชนิดต่าง ๆ มีตู้เก็บผ้าพับอยู่ฝั่งเดียวกัน ส่วนด้านขวานางวาดเป็นรูปเก้าอี้ไม้ตัวยาว นางอธิบายให้ลูกจ้างทั้งหมดฟังว่า ส่วนนี้ใช้สำหรับรองรับลูกค้า ให้สามารถนั่งรอได้ หากยืนรอเกรงว่าลูกค้าจะเมื่อยเกินไป
ส่วนหน้าร้านที่ติดกับประตูนางเว้นไว้บอกลูกจ้างว่าใกล้ถึงวันเปิดค่อยเอาของมาวางแสดง ทุกคนทำหน้าฉงนแต่ไม่นานก็เข้าใจ ทั้งนี้ที่ไป๋ฟางเซียนเน้นย้ำเป็นพิเศษคือโต๊ะเก้าอี้สำหรับเสี่ยวเอ้อร์ของร้าน ด้านในของชั้นแรกนางเพิ่มโต๊ะตัวยาวเข้าไป หากยืนจะมีความสูงเหนือเอวเล็กน้อย หากนั่งจะมีความสูงอยู่ระดับอก ซึ่งโต๊ะตัวนั้นจะมีลิ้นชักและสมุดเล็ก ๆ ไว้จดบันทึกด้วย ทั้งนี้รูปแบบของโต๊ะตัวยาวนางเลียนแบบเคาน์เตอร์แคชเชียร์ในโลกเดิมของตน จุดเด่นก็คือเมื่อเดินเข้าประตูไปจะเห็นโต๊ะยาวตัวนี้พอดี แต่ที่เด่นที่สุดของร้านคือผ้าและชุดต่างหาก
ชั้นสองไม่มีอันใดมากเพียงกั้นห้องออกเป็นสองห้อง ห้องด้านซ้ายและห้องฝั่งขวา ขวามือเป็นห้องทำงานของอวี้เหนียง ภายในมีเพียงโต๊ะเก้าอี้ทำงาน ตู้เอกสาร และโต๊ะพักผ่อนหรือโต๊ะน้ำชาเท่านั้น ทว่าห้องทางฝั่งซ้ายนั้นต่างออกไป
ห้องฝั่งซ้ายจะถูกปรับแต่งให้เป็นห้องทำงานของอวี้หรู รวมถึงแสดงผลงานด้านการเย็บปักลวดลายใหม่ ๆ และอาภรณ์ชุดใหม่ด้วย เรียกได้ว่าชั้นสองจะเป็นจุดเด่นของร้านและเป็นจุดที่เรียกตำลึงเงินตำลึงทองเข้าถุงเงินของนางได้อย่างดีทีเดียว
ส่วนชั้นสามนางแบ่งออกเป็นสามห้อง ห้องทำงานส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดของนาง ด้านในมีโต๊ะทำงาน เก้าอี้ โต๊ะน้ำชา มุมพักผ่อน ส่วนอีกห้องเป็นห้องรับรองแขกที่ต้องการทำการค้ากับนาง ห้องนี้เป็นห้องขนาดกลาง นางไม่ได้ตกแต่งอะไรมากนัก มีเพียงแค่โต๊ะและเก้าอี้เอาไว้รับรองแขกเท่านั้น รอบห้องจะถูกตกแต่งด้วยภาพและแจกันไม้ประดับต่าง ๆ แล้วแต่นางต้องการหลังจากนี้ ส่วนห้องพักก็คือห้องพักปกติ เป็นห้องขนาดเล็กมีไว้สำหรับนอนเท่านั้น ห้องนี้นางไม่ได้เน้นย้ำอะไรเป็นพิเศษ
หลังจากทุกคนได้ฟังก็ตกใจกันยกใหญ่ พวกนางทุกคนต่างคิดว่านี่มันไม่ใช่ปิดปรับปรุงร้านชั่วคราวแล้ว มันแทบจะเรียกได้ว่าซ่อมแซมและสร้างร้านใหม่เลยด้วยซ้ำ แต่พอเห็นรูปแบบที่คุณหนูอธิบายให้ฟังแล้วก็อดภูมิใจไม่ได้ คุณหนูของพวกนางเก่งกาจมากความสามารถจริง ๆ
“เข้าใจกันหรือไม่”
“เข้าใจเจ้าค่ะคุณหนู”
“ดีแล้ว อวี้เหนียงเดี๋ยวเจ้าไปติดต่อช่างไม้และช่างก่อสร้างมาปรับปรุงร้านได้เลยนะ เรื่องเงินข้าไม่เกี่ยง ขอแค่ทุกอย่างออกมาดีก็พอ ที่สำคัญข้าขอของมีคุณภาพดีที่สุดนะ แจ้งช่างด้วย”
“ได้เจ้าค่ะคุณหนู เดี๋ยวพวกข้าเก็บผ้าพับต่าง ๆ เรียบร้อยแล้วจะรีบไปแจ้งช่างเลยเจ้าค่ะ”
“ดี ส่วนเจ้าอวี้หรู เจ้ารอก่อน รอข้าวาดแบบและลวดลายต่าง ๆ เสร็จก่อน แล้วข้าจะเอามาให้เจ้าปักไปพลาง ๆ รอร้านเปิด ส่วนเจ้าสองคนก็รอไปก่อนเช่นกัน ช่วงนี้ก็ช่วยงานส่วนอื่นไปแล้วกัน”
“เจ้าค่ะคุณหนู”
หลังทุกคนรับคำ ไป๋ฟางเซียนก็สอนทั้งหมดเรียนรู้การทำบัญชีรายรับรายจ่าย และการจดบันทึกผ้าพับหรือชุดที่ขายออกไป นี่ทำให้พวกนางตกตะลึงอย่างมาก เพราะสิ่งที่คุณหนูบอกให้ทำและสอนมันเข้าใจง่ายและเป็นระเบียบยิ่ง หากมาเปิดรายการหรือต้องการตรวจสอบย้อนหลังก็จะทำได้ง่ายทั้งยังชัดเจน ทั้งนี้พวกนางจะรู้ถึงต้นทุนและกำไร รวมถึงค่านิยมของผ้าและชุดที่ถูกขายออกไปด้วย ทุกคนต่างจ้องไปที่ไป๋ฟางเซียนผู้เป็นเจ้าของความคิดด้วยสายตาชื่นชม สายตาพวกนางบอกว่า
สมแล้วที่เป็นคุณหนูของพวกนาง ชั่งเก่งกาจมากจริง ๆ