2 องค์หญิงฝาแฝด
กลุ่มอาชาของราชทูตจากเป่ยฮั่นใกล้เข้ามา กองทหารแคว้นซีตันออกมารอต้อนรับ รวมถึงองค์ชายหนานเจินหยางและองค์หญิงหนานอันรั่ว
พอเงาของกลุ่มคนชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ คิ้วคมเข้มของหนานเจินหยางก็ขมวดเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว
สตรีที่นั่งอยู่บนม้าตัวเดียวกันกับเขาไม่ใช่ว่าเป็นน้องสาวเขาหรอกหรือ
หนานอันรั่วเองก็เช่นกันไหนว่าหนานรั่วซีพักผ่อนอยู่ในห้อง เหตุใดจึงโผล่มาที่นี่พร้อมกับคนจากเป่ยฮั่น
หยวนไป๋เจียนลงจากม้าก่อน เขารอรับเพื่อประคองนางตอนลงจากม้า
แต่เมื่อเห็นสีหน้าขององค์ชายหนานเจินหยาง เขาจึงปล่อยให้พี่ชายนางเป็นคนมารับแทน
“เชิญองค์ชาย”
หนานเจินหยางส่งมือให้น้องสาว เด็กคนนี้ดื้อนักขนาดร่างกายไม่แข็งแรงยังสามารถเอาเรี่ยวแรงที่มีอยู่น้อยนิดออกไปเล่นซนข้างนอกได้อีก
“เสด็จพี่” นางทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม แต่เพราะตอนนี้ร่างกายรู้สึกร้อนรุ่มคล้ายกับจะเป็นไข้ เห็นท่าทางเช่นนั้นของน้องสาวหนานเจินหยางจึงเปลี่ยนเป็นอุ้มลงมาจากม้าแทน
“ท่านอ๋องลำบากท่านแล้ว น้องสาวข้าคนนี้ซุกซนนัก” เขาพูดทั้งที่ยังอุ้มนางอยู่ “ตอนนี้ข้าคงต้องพานางกลับเข้าไปด้านในก่อน รั่วซีร่างกายไม่แข็งแรง ข้าจะให้องค์หญิงอันรั่วเป็นผู้รับรองท่านแทน”
หยวนไป๋เจียนไม่ใช่คนเรื่องมาก เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาจึงต้องปล่อยเลยตามเลย ไม่คิดว่านางจะเป็นองค์หญิงฝาแฝดที่คนพูดถึง คิดเพียงแค่ว่าคงเป็นพวกท่านหญิงที่ชอบเที่ยวเล่น
เมื่อหนานเจินหยางลับหายเข้าไปแล้ว และปรากฎใบหน้าของสตรีอีกคนเข้ามาแทนที่ สตรีผู้นี้ใบหน้าเหมือนกับคนป่วยที่เพิ่งถูกอุ้มเข้าไปไม่มีผิด
แต่ต่างกันตรงที่ องค์หญิงผู้นี้สดใสราวกับสายน้ำในฤดูร้อน ดูเย่อหยิ่งถือตน ใบหน้าอวบอิ่มไม่ซีดเซียว เป็นสตรีโฉมงามที่ใครยากจะเทียบเทียม หยวนไป๋เจียนหัวใจเต้นระรัว เสียงพูดของนางก็สดใสเหมาะสมกับบุคลิก
“คารวะหยวนอ๋อง” นางส่งเสียงทักทายเขา
“เจ้าคือ” หยวนไป๋เจียนอยากแน่ใจว่านางเป็นใคร
“ข้าคือองค์หญิงหนานอันรั่ว พี่สาวฝาแฝดขององค์หญิงหนานรั่วซีที่ท่านพากลับมาด้วยเมื่อสักครู่” นางแนะนำตัว “ต้องขอบคุณท่านอ๋องเป็นอย่างยิ่งที่พาตัวนางกลับม้าด้วย”
“ไม่ลำบากเลยสักนิด”
“งั้นเชิญด้านใน” นางเดินนำพาเขาไปด้านใน
หยวนไป๋เจียนรู้สึกว่าคนพี่นั้นพูดคุยด้วยแล้วสนุกกว่าอีกคนเยอะ อยู่ใกล้แล้วรู้สึกว่าทุกสิ่งรอบตัวล้วนแลดูสดใสไม่อมทุกข์ นางเป็นสตรีที่ทำให้คนรอบข้างมีความสุขลืมความกังวลได้หมดเลย
ตกเย็นวันนั้นหนานรั่วซีก็จับไข้ล้มป่วย ความลับที่นางออกไปเล่นนอกเมืองก็แตก พระมารดาโมโหสุดขีด นางสั่งให้ทหารองครักษ์เฝ้าพระธิดาไม่ให้ห่าง แต่เหตุใดจึงปล่อยให้องค์หญิงออกไปเที่ยวเล่นซุกซนจนล้มป่วยได้
“เสด็จแม่อย่าทรงกริ้ว ลูกไม่ได้เป็นอะไรมาก” นางแสร้งออดอ้อน
“ไม่เป็นอะไรได้อย่างไร เจ้าล้มป่วยคราหนึ่งกินเวลาเป็นสัปดาห์กว่าจะหายดี รู้ไหมแม่กลัวขนาดไหนแต่ละครั้งที่เจ้าป่วย แม่กลัวว่าเจ้าจะไม่กลับมาหาแม่อีก” ผู้เป็นมารดาน้ำตาริน
นางกลัวจริง ๆ กลัวว่าจะเสียบุตรคนใดคนหนึ่งไป ตั้งแต่ที่หนานรั่วซีโดนผึ้งพิษต่อย นางก็สั่งให้ทุกคนทำลายรังของมันในรัศมีโดยรอบเผื่อป้องกันไม่ให้นางโดนต่อยอีกครั้ง ตอนนั้นบุตรสาวคนนี้ของนางหลับไปแบบไม่ได้สติเป็นเดือนเพราะพิษของผึ้ง ที่นางออกไปครั้งนี้จึงสร้างความโมโหให้ตัวผู้เป็นมารดาไม่น้อย
แถมช่วงเวลานี้คนจากต่างเผ่าก็แวะเวียนมาทำการค้าที่นี่ ผู้คนมากหน้าหลายตา นางเกรงว่าคนพวกนั้นจะทำอะไรไม่ดีกับบุตรสาวที่อ่อนแอคนนี้
เมื่อเห็นว่าพระมารดากังวลใจ คนตัวเล็กจึงซุกตัวเข้าหาผู้เป็นแม่อย่างใกล้ชิด สองมือเล็ก ๆ ของนางโอบกอดแน่น
“เจ้าค่ะ ต่อไปนี้ลูกสัญญาว่าจะไม่ทำให้เสด็จแม่ไม่สบายพระทัยอีก”
“รับปากแม่แล้วนะซีเอ๋อ”
“เจ้าค่ะ” นางยิ้มตาหยี
“งั้นก็นอนได้แล้ว น่าเสียดายทำให้เจ้าไม่ได้ออกไปร่วมงานเลี้ยงคณะราชทูตจากเป่ยฮั่น” พระชายาหมีเห่อกังวลใจ การที่พวกเขามาที่ทุ่งหญ้าในครั้งนี้มีเหตุผลทางการเมืองแอบแฝงอยู่ ไม่แน่ว่าบุตรสาวคนใดคนหนึ่งของนางจะต้องแต่งไปอยู่เป่ยฮั่น
“ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ ไม่พบก็คือไม่พบ” นางไม่ได้ใส่ใจ
ไม่มีการสนทนาอื่นใดต่อจากนั้น คนตัวเล็กมุดตัวเข้าใต้ผ้าห่มทันที คืนนี้นางคิดถึงแต่หน้าเขาผู้นั้น นางสัญญากับตัวเองอย่างแน่วแน่ไว้แล้วว่าพรุ่งนี้จะต้องไปที่โพรงหมาป่าให้ได้ นางอยากพบหน้าเขา เขาคนนั้นที่ทำให้นางหวั่นไหว
คณะราชทูตจากเป่ยฮั่นเข้าร่วมงานเลี้ยงของต้อนรับของชาวซีตัน บ่าวไพร่ทั่วทั้งวังล้วนเล่าลือถึงความหล่อเหลาของหยวนอ๋องจากเป่ยฮั่น คนผู้นั้นหล่อเหลางดงาม ผิวขาวราวกับน้ำนม ใบหน้าดั่งหยกสลัก แตกต่างจากชายหนุ่มในแคว้นซีตัน ที่มีแต่หนวนเครารุงรัง
ได้ยินว่าการมาซีตันของพวกเขามีจุดประสงค์สำคัญคือการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น พระชายาหมีเฮ่ออดีตเคยเป็นท่านหญิงจากเป่ยฮั่น ที่ได้จับพลัดจับผลูมาอยู่ที่นี่ แม้ตอนแรกนางจะไม่ใช่คนที่เป่ยฮั่นตั้งใจเอาไว้ แต่ตอนนี้นางถือเป็นตัวแปรสำคัญ
ด้วยว่าชาวซีตันเชี่ยวชาญการรบในทุ่งหญ้าและทะเลทราย ทหารจาก เป่ยฮั่นยังขาดทักษะทางด้านนี้ พวกเขาจึงอยากเชื่อมสัมพันธ์มากกว่าตัดความสัมพันธ์ การส่งหยวนอ๋องมาเยี่ยมครั้งนี้ พระชายาหมีเฮ่อรู้ดีว่ามีเรื่องแอบแฝง
“น้องหญิง เจ้ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือไม่” หนานปาอี้ ฮ่องเต้แคว้นซีตันถามผู้เป็นภรรยา
“จู่ ๆ พวกเขาก็มาที่นี่ ท่านว่ามันไม่แปลกหรอกหรือ” พระชายาหมีเฮ่อผู้เป็นภรรยารู้สึกไม่สบายใจ
“เหมือนตอนที่ข้าไปสู่ขอเจ้าเมื่อปีนั้นหรือไม่” หนานปาอี้กุมมือภรรยา
“ไม่เหมือนกันเสียหน่อย ตอนนั้นเราสองคนมีใจปฏิพัทธ์ให้กัน การแต่งงานจึงเป็นความยินยอมพร้อมใจของเราทั้งคู่ แต่นี่ถ้าหากพวกเขามาข่มขู่เอาลูกสาวของเราคนใดคนหนึ่งไปแต่งด้วยโดยไม่ได้รัก เพียงเพราะประโยชน์ของแคว้น มันใช่หรือ” นางกังวลใจ
เมื่อหลายปีก่อนตอนที่นางพบกับหนานปาอี้ นางเป็นเพียงท่านหญิงท้ายวัง ยศศักดิ์ต่ำต้อย กว่าจะฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อมาเคียงคู่กันนั้นแสนลำบาก ที่ได้แต่งงานกับเขาเป็นเพราะความรักที่ทั้งสองมีให้กัน ไม่ใช่เกิดจากการคลุมถุงชน ผู้เป็นสามีแลกอะไรหลายอย่างเพื่อให้นางได้มาเคียงข้าง นางจึงรักความสัมพันธ์นี้และรักเขา
“อย่ากังวลใจไปเลย ฮ่องเต้เป่ยฮั่นสัญญาแล้วว่าจะเกรงใจพวกเรา ข้าคิดว่าเขาคงไม่ทำอะไรแบบไม่คิด” หนานปาอี้พูดกับภรรยา
“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดี”
หมีเฮ่อยังมีสีหน้ากังวลใจ หนานปาอี้จึงดึงนางกอดเพื่อคลายความกังวล ก่อนจะพากันเดินไปยังสถานที่จัดงานเลี้ยงรับรอง
งานเลี้ยงช่วงเย็นเพราะหนานรั่วซีเกิดล้มป่วย จึงไม่ได้มาเข้าร่วมด้วย มีเพียงองค์ชายหนานเจินหยางและองค์หญิงหนานอันรั่วแฝดพี่มาเข้าร่วมเท่านั้น
หยวนไป๋เจียนไม่ได้สนใจหนานรั่วซีอยู่แล้วจึงไม่ได้รู้สึกอะไรที่นางไม่ได้มาเข้าร่วม
“ท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้างเดินทางมาเหนื่อยหรือไม่” พระชายาหมีเฮ่อที่มีศักดิ์เป็นอาของหยวนไป๋เจียนถามไถ่
“กราบทูลเสด็จอา ไม่เหนื่อยและไม่ลำบากเพราะพวกเราออกมาแบบไม่เร่งรีบเหนื่อยก็พัก แถมยังแวะเที่ยวเล่นชื่นชมบรรยากาศรอบทาง ถือได้ว่าสนุกมากกว่าเหนื่อย” เขาตอบนาง
“งั้นก็ดีแล้ว เรื่องเมื่อบ่ายต้องขอบใจเจ้ามากที่นำซีเอ๋อกลับมาส่ง เด็กคนนี้ร่างกายไม่แข็งแรงแต่ยังแอบไปเที่ยวเล่น”
“อ้อ ว่าแต่ข้าไม่เห็นนางมาร่วมงานเลี้ยงนี้เลย” เขาถามถึงทั้งที่ไม่ได้คิดถึง
“ล้มป่วยไปแล้ว คงไม่ได้ออกมาเที่ยวเล่นไปอีกหลายสัปดาห์” พระชายาหมีเฮ่อกลอกตาเมื่อพูดถึงบุตรสาวคนเล็ก โชคดีที่นางร่างกายไม่แข็งแรงความซุกซนเลยลดน้อยลงไป หากแข็งแรงดีคงสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้นางมากกว่านี้
หยวนไป๋เจียนเบนสายตาไปมองแฝดอีกคน นางกำลังนั่งอิ่มอร่อยกับอาหารในงานเลี้ยง จนไม่สนใจใคร ท่าทางของนางดูแล้วเพลินตาเขาเผลออมยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว