4 อยากนะเพื่อน
ไอ้เน็ตโวยวาย เพราะกลัวบ็อกเซอร์ตัวโปรดจะขาด แต่ผมรู้ว่าความจริงแล้วไอ้เน็ตมันอายมากกว่าที่ผมกับไอ้ไลน์เห็นก้นเบียดของมัน
“ขาดก็ไม่เป็นไร กูซื้อให้ใหม่”
ผมไม่ปล่อยขอบบ๊อกเซอร์ ผมแกล้งมันไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้คิดอะไร
“มันอยากดูก้นกูหรือไง”
“ไม่ใช่แค่อยากดู แต่ก็อยากเลียโว้ย ใช้ปลอกลิ้นแบบสากๆ มึงเอ๊ย ร้องครางปานถูกรุมโทรม”
“โอย ไอ้บ้า ความคิดพิเรนทร์แล้วก็จัญไรไม่มีใครเกิน กูไปอาบน้ำดีกว่าจะได้ออกไปปล่อยหนุ่มกัน แต่มีข้อแม้ว่าพวกมึงห้ามเมาจนอ้วกเผื่อหมาแล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน ห้ามมานอนห้องกูด้วย”
“ทำไมวะ พวกกูถึงนอนห้องมึงไม่ได้”
ไอ้ไลน์ถามบ้าง หลังจากนั่งฟังผมกับไอ้เน็ตต่อความยาวสาวความยืดกันพอสมควร
“คืนนี้กูจะหิ้วเด็กมาฟีชเจอริงโว้ย ขอพื้นที่ส่วนตัวบ้าง นานๆ ได้ปล่อยความอัดอั้นออกมาที นานแล้วไม่ได้ปล่อยจนมันจะเป็นเม็ดสาคูอยู่แล้ว”
ไอ้เน็ตมันผิวปากเสียงดังอย่างอารมณ์ดีแล้วเข้าห้องน้ำ ปิดประตูดังปัง ผมกับไอ้ไลน์มองหน้ากันแล้วยิ้ม
“ไอ้เน็ตจะเอาผู้หญิง แต่เราหาสาวไม่ได้ ทำไงดีวะไอ้ไลน์”
“ไม่รู้โว้ย”
“งั้นเราก็เอากันเองเป็นไร ดีไหมวะ”
“เฮ้ย! ไอ้ทะลึ่ง พูดเล่นไปได้”
ไอ้ไลน์สะดุ้งเมื่อผมแกล้งพูดว่าจะเอามัน ทั้งที่ไม่เคยคิดที่จะมีความสัมพันธ์กับผู้ชายแม้แต่นิดเดียว
“ไม่พูดเล่น ถ้ามันอดอยากจริงๆ ก็น่าลองดูสักครั้ง ว่าไงจ๊ะน้องสาว แก้มขาวปากแดงอย่างนี้ อยากรู้จังตรงนั้นยังซิงหรือเปล่า”
ผมแกล้งจับปลายคางไอ้ไลน์แล้วโยกเบาๆ มันปัดมือผมแล้วทำท่าขนลุกขนชัน
“ไอ้บ้า พูดอะไรไม่รู้ กูขนลุกไปหมดแล้ว”
“เออ เจอลิ้นกูเข้าไปมึงจะต้องเสียวจนปล่อยน้ำกามแน่”
“มึงหยุดพูดเลยนะ ไม่อย่างนั้นกูจะเข้าไปจูบปากมึงเดี๋ยวนี้”
อ้าว ไหงเป็นงั้น ไอ้ไลน์มันทำท่ากระลิ้มกระเหลี่ยแล้วกระโจนเข้าหา ผมก็หนีสิครับท่าน รออะไรล่ะ เดี๋ยวเสียทวารให้มัน
อ่ะ ล้อเล่น มันก็ผู้ชายทั้งแท่งเหมือนผมนี่แหละ ไม่มีอะไรหรอก แค่ขำๆ เท่านั้น
แต่ไอ้ที่คิดว่าขำๆ มันไม่ใช่สิ จากนั้นไม่กี่ชั่วโมงผมกับไอ้ไลน์ดันรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน อยากรู้แล้วใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ตามผมมาสิครับ
คืนนั้นพวกเราไปเที่ยวผับที่มีสาวๆ มากหน้าหลายตา เราก็ดื่ม กิน แล้วก็สูบบุหรี่บ้าง (ความจริงพวกเราไม่ค่อยสูบบุหรี่กันหรอก แค่เอามาคาบปากไว้แล้วพ่นควัน ทำเท่ไปอย่างนั้นเอง) เราเน้นดื่มกับส่งสายตาให้สาวๆ เท่านั้น
“คืนนี้มันเป็นคืนมหาวินาศอะไรวะไอ้ไลน์”
ผมเปรยขึ้น หลังจากใช้ความพยายามเหล่สาว แต่ไม่สมหวัง แห้วหมดหรือว่ามีสาวทำท่าจะเข้ามาทำความรู้จัก แต่ผมเห็นแล้วกลับบ้านและไปสาวแหน (ว่าว) ดีกว่า กลัวเสียของถ้าปล่อยให้แก่นกายเข้าไปล่องลอยในร่างแม่สาวคนนั้น
“มีอะไรวะไอ้สันต์”
“มึงก็ดูสิ อ่อยสาวคนที่ชอบไม่ติด โดนคว้าตัดหน้าไปหมด”
“แต่ก็มีสาวๆ ทำท่าจะแบให้มึงนะโว้ย”
“โอ๊ย! คนนั้นน่ะเหรอเห็นแล้วกลับบ้านไปสาวแหนปล่อยน้ำให้มดกินดีกว่า ถ้านางอยากให้น้องจิ๋มโดนกระทุ้งก็ควรไปทุบหน้าใหม่ที่เกาหลี รูปร่างก็พอได้อยู่หรอก แต่หน้าของนางเห็นแล้วทรมานใจสัตว์ชัดๆ”
“ปากนะปาก สมควรแล้วอด ไอ้เน็ตมันก็ได้นาไปปล่อยน้ำแล้ว เราจะเอาไงอยู่ต่อหรือกลับ เหล้าก็หมดขวดแล้ว”
“กลับโว้ย ตลาดวายแล้ว คงไม่ได้ใครไปแก้กรวยหงอยหรอก”
“เออ งั้นกูไปนอนด้วย ขี้เกียจเรียกแม่ ชอบบ่นเวลาลุกมาเปิดประตูให้”
ผมไม่ตอบเพราะไอ้ไลน์มันไปนอนที่บ้านเป็นประจำอยู่แล้ว เราสองคนจ่ายค่ากินเที่ยวเรียบร้อยแล้วก็นั่งแท็กซี่กลับบ้าน ทุกอย่างเราหารครึ่งหมด ไม่มีใครออกมากหรือน้อย พอถึงบ้านผมทั้งง่วง มันมึนหัวอยากหลับอย่างเดียว ไอ้ไลน์ก็เหมือนกัน หลังจากถอดเสื้อกับกางเกงออกเหลือแค่บ๊อกเซอร์ตัวเดียว มันก็เสือกตัวเองเข้ามาในผ้าห่มกับผม เสียงพูดอะไรไม่รู้ ยังกับละเมอ หน้ามันก็อยู่ใกล้ๆ กับหน้าอกผม มันร้อนหน้าท้องพิกลเวลาที่จมูกมันเสียดสีกับหัวนมผม
“ไอ้ไลน์ไปอาบน้ำเร็ว”
“ทำไมต้องอาบด้วย ง่วงจะตายชัก”
“ไม่ได้เดี๋ยวกูจะเอามึง ถ้าไม่สะอาดมันไม่หนุก”
ผมแกล้งแหย่ไปอย่างนั้นเอง ทั้งที่ความจริงแค่ไม่อยากให้ที่นอนเหม็นกลิ่นแอลกอฮอล์ แม่ชอบบ่นเวลาเอาผ้าปูไปซัก
“เฮ้ย! ล้อเล่นน่า”
“จริง ถ้ามึงไม่อาบกูก็จะเอา อยากชิบ...”