บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 การเริ่มต้น

หลังจากรถตู้แล่นมาจอดยังจุดมุ่งหมาย เป็นจังหวะเดียวกันที่ชลารีนลืมตาขึ้นพอดี

“อื้อ”

“ถึงแล้ว ลงกันเถอะ” ว่าแล้ว ลีวายเปิดประตูรถพร้อมคว้าข้อมือเล็กให้เดินตามหลัง ก่อนจะหันไปพูดกับอาเบล

“เรื่องวันนี้ฝากมึงรายงานบอสด้วยละกัน”

“อืม เดี๋ยวกูจัดการให้เอง” เอ่ยพูดพลางเหลือบมองชลารีนที่ยืนข้าง ๆ ลีวายดันคนตัวเล็กไปข้างหลัง ย่อมทราบดีอีกฝ่ายจ้องหญิงสาวด้วยจุดประสงค์ใด

“ยกเว้นเรื่องผู้หญิงคนนี้ มึงห้ามบอกบอส”

“คิดจะทำอะไรของมึงกันแน่” จ้องอีกฝ่ายอย่างเค้นคำตอบ

“กูไม่ได้จะทำอะไรทั้งนั้น กูแค่จะรายงานบอสเอง” ลีวายไม่รอให้อีกฝ่ายตอบโต้ด้วยคำพูดใด เขาปิดประตูรถพร้อมจูงมือของคนตัวเล็กเดินเข้าไปด้านในเพนท์เฮ้าส์

ชลารีนเดินตามหลังชายหนุ่มเข้าไปด้านในตึกอย่างประหม่า เธอกวาดสายตามองรอบกาย แล้วก้มหน้างุดเพราะรู้สึกว่าตนเองไม่เหมาะกับสถานที่หรูหราเช่นนี้ ก่อนเดินเข้าไปในลิฟต์และยืนเงียบ ๆ ข้างลีวาย

“ไม่สบายเหรอ” นัยน์ตาดำขลับเหลือบมองคนข้างกาย ที่โอบกอดตัวเองจึงคาดเดาว่าเธออาจจะป่วย ทว่าคำพูดจากริมฝีปากอมชมพูทำเขาขมวดคิ้วเข้มเข้าหากันแทบผูกเป็นปม

“หนูอยู่ที่หรู ๆ แบบนี้ได้จริงเหรอคะ” เพราะรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยเหลือเกิน จึงไม่คู่ควรกับสถานที่ดี ๆ

“เปลี่ยนใจตอนนี้ไม่ทันแล้ว รีบตามมาเถอะ” พูดจบ เจ้าของกายแกร่งคว้าข้อมือเล็กพร้อมเดินออกจากลิฟต์ และตรงไปยังจุดหมายปลายทาง

ทันทีที่คนทั้งสองย่างเท้าเข้าข้างในห้อง ชลารีนถึงกับเบิกตากว้างอย่างตะลึงกับการตกแต่ง ที่บ่งบอกถึงความหรูหราของอีกคน จนรู้สึกสมเพชตัวเองเหลือเกิน

‘ทำไมเราถึงตามเขามากันนะ’ เอ่ยบอกในใจพร้อมกับจิกเล็บลงบนท่อนแขนเล็กอย่างแรง

“ถ้าเธอ...” ไม่ทันพูดจบ เมื่อหันไปเห็นคนข้างหลังถึงกับชะงัก ก่อนจะรีบประชิดตัวชลารีนพร้อมจับหัวไหล่บอบบาง

“เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบายเหรอ”

“หนูทำให้คุณลำบากหรือเปล่า หนูขอโทษที่ก่อนหน้านี้ไม่ไตร่ตรองให้ดี” พอคิดว่าหลังจากนี้อาจสร้างปัญหาให้แก่อีกฝ่าย ทำเอารู้สึกผิดไม่น้อย เพราะมัวแต่คิดหาทางเอาตัวรอด จนลืมนึกถึงเขาเสียสนิท

“ไม่ต้องคิดมากหรอก ในเมื่อฉันเป็นคนตัดสินใจให้เธออยู่เอง ไม่มีใครกล้ามาทำอะไรเธอทั้งนั้น”

“ก่อนหน้านี้หนูลืมถามไปเลย คนรักของคุณไม่ว่าเหรอคะ ถ้าหากหนูอยู่ที่นี่ด้วย” จ้องมองอีกคนอย่างกดดันในคำตอบ

“เรื่องนั้นไม่ต้องใส่ใจหรอกเพราะฉันอยู่คนเดียว รีบขึ้นไปดูห้องกันเถอะ” เขาตัดบทพร้อมเดินนำหน้าหญิงสาวขึ้นบันได

“จะไม่เป็นไรใช่ไหม” ถอนหายใจเฮือกหนึ่งพลางปรายตามองแผ่นหลังกว้าง จากนั้นไม่รอช้าเดินไปยังชั้นบน

เมื่อมาถึงปลายทาง ชลารีนมองประตูห้องเบื้องหน้าครู่หนึ่ง แล้วเหลือบมองคนตัวโต

“เธอนอนห้องนี้นะ ส่วนห้องข้าง ๆ เป็นห้องฉันและริมสุดเป็นห้องทำงาน สองห้องนั้นฉันไม่อนุญาตให้เข้าไป ที่เหลือตามสบายได้เลย”

“ค่ะ” พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ต่อให้เขาไม่บอกก็คงไม่กล้าถือวิสาสะทำตัวตามสบายในบ้านคนอื่น

“เธอหิวไหม”

“ไม่ค่ะ” ส่ายหัวไปมาอย่างเชื่องช้า เนื่องจากเหนื่อยและง่วงเต็มที เลยอยากนอนเร็ว ๆ

“งั้นก็ไปพักเถอะ” กล่าวเพียงเท่านั้น ลีวายตั้งท่าจะยกเท้าไปห้องของตนเอง ก่อนหยุดชะงักเพราะมือเรียวรั้งชายเสื้อของเขาไว้

“มีอะไร” เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย สายตาชำเลืองมองกรอบหน้าสวยหวานอย่างรอฟัง

“คะ คือหนูอยากอาบน้ำแต่ไม่มีเสื้อเปลี่ยน ขอยืมเสื้อคุณก่อนได้ไหมคะ” เอ่ยบอกอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เธอรู้สึกเกรงใจเขาเหลือเกิน แต่จะให้ทำไงได้ในเมื่อไม่สามารถนอนหลับในสภาพนี้

“นั่นสินะ ฉันลืมเรื่องนี้ไปเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันพาไปซื้อละกัน งั้นรอตรงนี้แป๊บหนึ่ง” ว่าแล้ว ชายหนุ่มก้าวเท้าเข้าห้องนอนและกลับออกมาอีกครั้งพร้อมกับเสื้อผ้า

“ใช้แก้ขัดไปก่อนนะ”

“ขอบคุณมากนะคะ” พูดพลางเอื้อมมือรับของจากอีกฝ่าย

“อยากได้อะไรอีกไหม”

“ไม่มีแล้ว หนูขอบคุณสำหรับเรื่องในวันนี้มากนะคะ ถ้ามีเรื่องอะไรที่หนูพอจะช่วยคุณได้ก็บอกมาได้เลย หนูยินดีมาก ๆ เลยค่ะ” แหงนหน้ามองชายหนุ่มด้วยสายตาเปล่งประกาย ก่อนส่งยิ้มหวานให้แก่เขา ลีวายถึงกับใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะที่ได้เห็นรอยยิ้มนั้น

“รีบเข้าห้องไปได้แล้ว”

“ค่ะ”

“อันตรายชะมัดเลยเมื่อกี้” นัยน์ตาคมกริบมองประตูห้อง ที่เพิ่งพ้นร่างอรชรของชลารีนไปหมาด ๆ

หลังจากเข้ามาอยู่ในห้องตามลำพัง ชลารีนไม่ได้ตรงไปชำระล้างร่างกายทันใด เธอเดินสำรวจภายในครู่หนึ่ง จากนั้นยกเท้าไปที่หน้าต่าง

“หลังจากนี้จะทำยังไงดีนะ จะกลับบ้านก็ไม่ได้แล้วสิ” ย่อมทราบดีเธอไม่สามารถพึ่งพาเขาได้ตลอด แต่ไม่รู้เหมือนกันจะไปที่ไหนได้ นอกจากต้องขอความช่วยเหลือจากเขา

หญิงสาวยืนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจเดินไปอาบน้ำ ซึ่งหลังจากเสร็จเรียบร้อย จึงนำเสื้อยืดของเขามาสวมใส่ ด้วยความที่เสื้อเขาตัวใหญ่และยาวมากจนคุมเข่ามิด

“เหมือนเด็กขโมยเสื้อพ่อมาใส่เลย” ดวงตากลมโตมองตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่พร้อมเผยยิ้มเล็กน้อย จากนั้นเดินไปล้มตัวลงบนเตียง

“อื้อ นุ่มจังเลย”

ทันทีที่แผ่นหลังสัมผัสกับที่นอน เปลือกตาบางหย่อนลงทีละนิด กระทั่งไม่นานเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างง่ายดาย เพราะความเหนื่อยล้า

ในวันต่อมา ชลารีนสะดุ้งตื่นช่วงสายของวัน เธอเบิกตากว้างพร้อมเด้งตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว

“สายขนาดนี้แล้วเหรอ” ใบหน้างามหันมองไปทางหน้าต่างที่มีแสงแดดจ้า เป็นครั้งแรกเธอนอนตื่นสายขนาดนี้

หญิงสาวหย่อนเท้าเล็กแตะพื้น จากนั้นตรงไปห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา ก่อนจะรีบลงไปยังชั้นล่าง แต่กลับไร้ร่างกำยำของลีวาย

“อ้าว เขาไม่อยู่เหรอ” นัยน์ตาคู่งามปะทะแผ่นกระดาษโน๊ตแปะตรงสมาร์ตทีวี เธอเอื้อมมือหยิบขึ้นมาอ่าน

“ฉันมีงานด่วน อาหารในตู้เย็นกินได้เลย ส่วนเสื้อฉันจะให้คนอื่นพาไปซื้อแทน”

หลังจากอ่านจบ เธอถึงกับเผยยิ้มอ่อนกับความใส่ใจของเขา ขณะเดียวกันสายตาปะทะกับถุงกระดาษวางไว้บนโต๊ะกระจกตัวเตี้ย

“ถุงอะไรเหรอ” เมื่อหยิบขึ้นมาดูพบว่ามีเสื้อผ้าบรรจุอยู่ด้านใน ตามด้วยโน้ตที่บอกว่าเป็นชุดให้เธอใส่ออกไปข้างนอก

“ทำไมเขาถึงใจดีกับเราจัง”

การกระทำกับการใส่ใจของเขา ทำเอาเธอรู้สึกซาบซึ้งยิ่งนัก คาดไม่ถึงบนโลกใบนี้จะมีคนใจดี ทั้งที่ครอบครัวแท้ ๆ อย่างป้าและลุงกลับทำเหมือนเธอไม่ใช่มนุษย์

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel