EPISODE 2 [แรงกดดัน]
ใต้ปีกพายัพ : EPISODE 2
[แรงกดดัน]
หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ฉัน ‘ใบข้าว’ ผู้มีฉากหน้าเป็นนักเรียนมัธยมปลายปีสุดท้ายได้รับคำสั่งตรงให้มาสังหารเป้าหมายใหม่ เขามีชื่อว่า ‘พายัพ สิงหบริรักษ์’ วัย 25 ปี ปัจจุบันเป็นเจ้าพ่อบ่อนกาสิโนแหล่งใหญ่ของเมือง พายัพอะไรนั่นเป็นลูกชายคนโตของ ‘เจ้าสัวพิทักษ์’ และ ‘คุณหญิงพิมพ์ประภา’ ผู้มีอิทธิพลติดอันดับต้น ๆ ของประเทศ พายัพมีน้องชายวัยห่างกันหนึ่งปีคือ ‘ตรีทัพ สิงหบริรักษ์’ ผู้ที่คอยดูแลกิจการสถานบันเทิงช่วยพี่ชาย แน่นอนว่าคลับไฮโซครบวงจรใจกลางเมืองอย่าง ‘Black Beast’ ก็คือหนึ่งในไนท์คลับที่ทำเงินให้สองพี่น้องเป็นกอบเป็นกำ
ในวันที่ฉันไปเรียนวันสุดท้ายของเทอมก่อนปิดภาคเรียน สายก็ได้รายงานมาว่าพายัพกำลังเดินทางกลับจากดูงานบ่อนที่เปิดใหม่ในประเทศเพื่อนบ้าน นั่นทำให้ฉันตัดสินใจแวะไปดูลาดเลาที่คฤหาสน์หลังนั้น แต่ไม่รู้ว่าเพราะโชคช่วยหรืออย่างไร จังหวะที่ฉันซุ่มเก็บข้อมูล ที่ประตูหลังคฤหาสน์ได้มีหญิงกลางคนเปิดประตูรั้วเหล็กออกมา ระบบที่ใช้การคีย์รหัสเปิดประตูโดยที่เสียงเมโลดี้ต่างกัน ทำให้ฉันรีบจดจำมันไว้ทันที เพราะค่อนข้างคุ้นชินกับระบบปลดล็อคชนิดนี้
พอคล้อยหลังผู้หญิงคนนั้นฉันจึงจัดการกดรหัสตามที่ได้ยินมา ซึ่งมันตรงกันอย่างโชคช่วยสองชั้น กลายเป็นว่าการมาดูลาดเลาในวันนั้นทั้งชุดเครื่องแบบนักเรียน กลับทำให้ฉันต้องแฝงตัวเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉันใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะเจอห้องนอนส่วนตัวของพายัพ และแฝงตัวเข้าไปหลบอยู่ในห้องของเขาเพื่อจัดการปิดงานครั้งนี้ให้เร็วที่สุด
‘ใครส่งเธอมาวะยัยหนูนักเรียน’
นั่นคือคำถามแรกหลังจากที่เขาหลบหลีกคมมีดของฉันไปได้อย่างหวุดหวิด ไม่คิดว่าเขาจะเรียนรู้ศิลปะป้องกันตัวไว้เหมือนกัน ไม่อย่างนั้นเขาคงโดนฉันฆ่าตายไปตั้งแต่คมมีดแรกแล้ว
‘เธอเก่งมากนะที่ขึ้นมาถึงห้องนอนฉันได้’
ในจังหวะที่เขาพล่ามอยู่นั้น ฉันก็พุ่งคมมีดใส่เขาอีกครั้งซึ่งพายัพก็หลบหลีกได้ทัน จึงทำให้มีดถากข้างแก้มของเขาไปเท่านั้น
คืนนั้นแม้ฉันจะสามารถจู่โจมเขาจนได้แผลไปไม่น้อย แต่ฉันคิดว่าคงไม่สามารถฆ่าเขาได้ ฉันจึงตัดสินใจจะล่าถอยออกมาก่อน แต่สุดท้ายคนของพายัพที่กรูเข้ามาขวางทางฉันไว้ ก็ทำให้ฉันไม่สามารถหนีรอดจากเงื้อมมือของเขาได้
ในตอนแรกฉันคิดว่าพายัพคงจะสั่งฆ่าฉันในทันทีที่จับตัวได้ ทว่าเขากลับไม่ได้ทำแบบนั้น นอกจากสอบปากคำว่าใครส่งฉันมาและไม่ได้คำตอบอะไรกลับไป เขาก็ทำเพียงขังฉันไว้ที่ห้องตรงข้ามกับเขาเท่านั้น
‘ทางที่ดีอย่าคิดจะหนีไปจากที่นี่ เพราะเธอไม่มีทางหนีฉันพ้น’ นั่นคือคำที่เขาย้ำชัดให้ฉันเข้าใจ
ฉันใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ภายใต้สายตาของพายัพและคนของเขาผ่านวันแล้ววันเล่า จึงคิดจะหลบหนีออกไปเป็นครั้งแรก หลังจากที่ได้ดูลาดเลามาแล้ว แต่ก็ต้องถูกสุนัขรักษาความปลอดภัยของเขาไล่ต้อนเสียจนมุม เกือบโดนพวกมันรุมขย้ำตาย ถ้าพายัพไม่สั่งให้มันหยุดเสียก่อน
‘เธอควรหัดรักตัวกลัวตาย เด็กตัวเล็ก ๆ อย่างเธอไม่พอยาไส้หมาฉันหรอก’ นั่นคือคำสบประมาทของเขา
และมันก็ไม่ได้ทำให้ฉันเลิกล้มที่จะหนี ครั้งที่สองฉันจึงเลือกที่จะหนีในระหว่างทางที่พายัพพาฉันออกมาซื้อเสื้อผ้า แต่ฉันกลับไม่รู้เลยว่าเขาได้แอบติดเครื่องติดตามไว้ที่รองเท้าของฉัน ทำให้พายัพล่าตัวฉันกลับมาได้อีกครั้ง เขาโมโหมากและสั่งงดข้าวงดน้ำฉันถึงสามวัน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฉันส่งเสียงอ้อนวอนเขาแต่อย่างใด ฉันและเขายังคงเป็นศัตรูกันอย่างเต็มรูปแบบ
ณ โกดังร้างแถบชานเมือง
กลุ่มชายร่างใหญ่ที่ยืนรายล้อมชายสูงวัยที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เก้า ๆ ฉันที่หลบหนีจากคนของพายัพมาได้ ก็รีบเดินทางมาตามที่นัดหมายทันที
“ทำไมไอ้พายัพมันยังไม่ตาย” น้ำเสียงแหบต่ำเอ่ยถามมา ทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นมองสบตาคนพูดเล็กน้อย
“หมอนั่นเก่งกว่าหนู” ฉันตอบตามตรง
“เก่งกว่าแกที่ติดอันดับนักฆ่าท็อปไฟว์ของญี่ปุ่นเนี่ยนะ แกควรมีคำตอบที่ดีกว่านี้” นั่นทำให้เขาขึ้นเสียงฉุนใส่ฉันทันที
“หมอนั่นเก่งกว่าหนูจริง ๆ แต่หนูมีแผนอื่น ถ้าพ่อบุญธรรมจะให้เวลาและโอกาส หนูจะทำให้หมอนั่นไม่เหลืออะไรแน่นอน” ฉันเอ่ยต่อรอง ทำให้คนตรงหน้าหรี่สายตามองมาอย่างพิจารณา
เขาคือ ‘ยางามิ เท็ตซึมะ’ พ่อบุญธรรมชาวญี่ปุ่นที่ชุบเลี้ยงเด็กกำพร้าอย่างฉันมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ส่งฉันฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ และการใช้อาวุธในหลากหลายรูปแบบ เขาเลี้ยงฉันให้โตมาเป็นนักฆ่าเช่นเดียวกับลูกบุญธรรมคนอื่น ๆ ที่อยู่ในบ้านยางามิ
“ก็ได้ ฉันจะให้โอกาสแกแก้มือ อย่าทำให้ฉันผิดหวังซะล่ะ” ผู้เป็นพ่อบุญธรรมว่าพร้อมลุกขึ้นยืน ทำให้ฉันค่อยหายใจสะดวกขึ้น
“ค่ะ เดินทางดี ๆ นะคะ” ฉันรับคำ แล้วค้อมตัวให้เขาเดินจากไปก่อน
คล้อยหลังคนที่มาเพื่อกดดันให้ฉันสังหารเจ้าพ่อบ่อนกาสิโนชื่อดังอย่างพายัพ ฉันก็ได้แต่ทอดถอนใจออกมาอย่างคนที่ต้องเค้นแผนการเพื่อปิดฉากพายัพให้ได้ในเร็ววัน
“ต้องลงทุนขนาดไหนกัน” ฉันพึมพำกับตัวเอง