บทที่ 3
“บ้าชะมัด พวกมันสงสัยจนได้”
ธาราดาสบถออกมาเบาๆ ขณะเดินเร็วๆ ออกมาจากบาร์แห่งหนึ่ง และมีนักเลงคุมบาร์แห่งนั้นเดินตามหลังอยู่ห่างๆ ถึงสองคน
“ฝีมือชักจะเริ่มตกแล้วนะธารา ที่ทำให้พวกมันสงสัยได้”
เสียงของผู้บังคับบัญชาที่ดังเล็ดลอดผ่านเครื่องดักฟังที่ติดอยู่กับใบหู โดยใช้เส้นผมหนาดำขลับปกปิดไว้ไม่ให้ใครเห็น ทำเอาธาราดาต้องสบถออกมาอีกครั้ง
“เลิกทับถมได้แล้วน่าผู้กอง วันนี้ไม่ใช่วันของธารา ทำอะไรก็ดูติดขัดไปหมด”
“ถ้ายังงั้นก็ถอยออกมาก่อน อย่าให้พวกมันจับตัวได้เด็ดขาด”
ร.ต.อ.ธีทัชเตือนลูกน้องของตนเอง ขณะเดียวกันก็เอาใจช่วยให้ธาราดาหนีเอาตัวรอดจากสถานการณ์ล่อแหลมในครั้งนี้
“รู้แล้วค่ะ ธารากำลังหาทางหนีอยู่ค่ะ” ธาราดาเอ่ยอย่างหัวเสีย พยายามเดินปะปนกับนักท่องเที่ยวทั้งชายและหญิง ที่กำลังเดินท่องราตรีอยู่ในขณะนี้
“โอเค ถ้ายังงั้นเจอกันที่เดิม ถ้าไม่ไหว ก็เรียกกำลังเสริมได้เลย ผมจะส่งลูกน้องไปช่วยในสิบนาที”
“ไม่ต้อง แค่นี้ธาราจัดการได้ค่ะ”
ธาราดากระซิบบอกผ่านไมค์เล็กๆ ขณะเดียวกันก็หันไปมองนักเลงคุมบาร์ทั้งสองคน ที่ยังเดินตามเธออยู่ห่างๆ เช่นเดียวกัน
“อีกหนึ่งชั่วโมงเจอกัน แค่นี้นะคะผู้กอง”
เอ่ยบอกผู้บังคับบัญชาไปแล้ว ธาราดาก็ก้าวเท้าเร็วๆ เข้าไปในสอยแห่งหนึ่ง ซึ่งยังคงเต็มไปด้วยร้านอาหาร และบาร์อีกหลายแห่ง เธอจะต้องหนีเอาตัวรอดให้ได้ จะให้นักเลงคุมบาร์ที่โหดเหี้ยมพวกนี้จับตัวเธอไม่ได้ มิเช่นนั้นหน้าที่สาย
ลับที่กำลังทำอยู่คงได้จบเห่! กันพอดี
ธาราดา เป็นสายลับ ซึ่งได้รับคำสั่งตรงจากผู้บังคับบัญชาให้สืบหาต้นตอของการทำธุรกิจค้ามนุษย์ ซึ่งแน่นอนว่าที่พัทยาเป็นแหล่งค้ารายใหญ่ มีการทำธุระขายบริการแอบแฝงอยู่ในทุกร้านอาหาร และเกือบทุกบาร์เหล้า บรรดาหญิงสาวที่เต็มใจทำงานเหล่านี้ เธอไม่สนใจสักเท่าไร แต่ที่สนใจและต้องทลายแก๊งค้ามนุษย์ให้ได้คือแก๊งที่ลักพาและล่อลวงเด็กสาวๆ มาจากบ้านนอก เพื่อมาทารุณกรรมและขายบริการที่นี่
การสืบหาแหล่งค้ามนุษย์รายใหญ่ ก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ เธอต้องทำตัวเป็นทั้งนักท่องเที่ยวเพื่อเข้าไปในร้านอาหารและบาร์ต่างๆ ต้องทำทุกอย่างเพื่อหาข้อมูลสาวถึงตัวการใหญ่ให้ได้
และการทำหน้าที่ของเธอในวันนี้ดูจะหนักกว่าทุกวัน เพราะเธอแฝงตัวเข้าไปในบาร์แห่งหนึ่งในฐานะของโสเภณีที่กำลังล่าแขกอยู่ ทว่าความไม่เคย ทำให้แสดงไม่แนบ
เนียนมากพอ แขกที่มาซื้อบริการเด็กสาวๆ ในบาร์ล้วนแต่เมาแอ๋กันทุกคน ขณะเธอแสร้งเจรจาต่อรองราคา นักท่องเที่ยวเหล่านี้ก็พยายามจะแตะต้องลวนลามหากำไรจากตัวเธอ และนั่นทำให้เธอแสร้งเป็นโสเภณีไม่แนบเนียนมากพอ จนถูกนักเลงคุมบาร์สงสัยในที่สุด
‘กูว่า อีผู้หญิงที่ใส่ชุดเกาะอกสีดำ มันน่าสงสัย เหมือนมันจะเป็นพวกสายของตำรวจ’
เพราะเผอิญได้ยินคำพูดของนักเลงคุมบาร์เข้า ธาราดาจึงเผ่นแนบออกมาจากบาร์แทบไม่ทัน และตอนนี้ก็กำลังถูกตามมาติดๆ จนเกือบจะไล่เธอทันแล้ว
“ตื้อชะมัด จะตามไปถึงไหนนะ”
ธาราดาบ่นอย่างหัวเสีย และเมื่อมองตรงไปข้างหน้า ก็แทบอยากเอาปืนยิงตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดไป เมื่อดันเลือกเดินเข้ามาในซอยตัน!
“ให้มันได้ยังงี้สิ ธารา”
ถนนหนทางและซอยมีให้เลือกเดินมากมายดันไม่เดินไป ดันมาเดินหนีเข้าซอยตันซะนี้ เมื่อใกล้จวนตัว ชายฉกรรจ์ทั้งสองเดินตามมาเกือบจะคว้าตัวเธอได้แล้ว หญิงสาวก็เอาตัวรอด ด้วยการถลาเข้าไปหาชายคนหนึ่งซึ่งกำลังเงยหน้ามองมาที่เธออยู่พอดี
ไม่ใช่แค่การถลาเข้าไปกอดเท่านั้น ธาราดาจำต้องยอมเปลืองตัว ด้วยการกดเรียวปากเข้ากับริมฝีปากของอีกฝ่าย ยกมือเล็กลูบไปตามแผงอกกว้าง บดเบียดเรือนร่างอรชรในชุดหนังสีดำเข้ากับเรือนกายล่ำสัน พยายามแสดงบทของโสเภณีให้แนบเนียนที่สุด
ด้วยมั่นใจว่านักเลงคุมบาร์ทั้งสองคนยังจับสายตาจ้องมองอยู่ ธาราดาจึงผละริมฝีปากออกเพียงเล็กน้อย แล้วแสร้งออดอ้อนชายที่เธอสวมกอดอยู่ด้วยน้ำเสียงกระเส่า
“ฮันนี่...มาดื่มอยู่ที่บาร์นี้เองหรือคะ รู้ไหมคะ ธาราตามหาคุณเกือบทั้งคืนเลย ทีหลังบอกชื่อบาร์ชัดๆ สิคะ ธาราจะได้ตามหาถูก”
ธาราดานิ่งเงียบไปชั่วขณะ พอเห็นชายหนุ่มคนนี้กำลังจะอ้าปากเอ่ยพูด ซึ่งแน่นอนว่าเขาคงงุนงงกับการกระทำของเธอ ก็รีบยกมือไปปิดริมฝีปากร้อนๆ แล้วเอ่ยตำหนิอีกฝ่ายต่อ
“ปล่อยให้ธาราตามหาตั้งนาน คืนนี้ต้องถูกธาราทำโทษอย่างหนัก รู้ไหมคะ”
ว่าแล้วธาราดาก็สวมกอดร่างล่ำสันไว้แน่น กดเรียวปากลงไปบนริมฝีปากร้อนๆ อีกครั้ง โดยไม่ลืมหมุนกายตัวเองไปอีกด้าน เพื่อให้สามารถเหลือบสายตามองชายฉกรรจ์ทั้งสองคนนี้ได้ด้วย
นักเลงคุมบาร์ทั้งสองคนหันมามองหน้ากัน แล้วหันไปมองธาราดาอีกครั้ง ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะเค้นเสียงพูดอย่างเยาะหยัน
“โธ่! อีตัวปลายแถว นัดแขกไว้ข้างถนนแล้วยังเสือกจะไปจับแขกในบาร์ของกูอีก”
‘มีหลักฐานทลายแก๊งของพวกแกเมื่อไร ฉันจะถลกหนังหัวพวกแกเป็นรายแรก’
ธาราดาเค้นเสียงอยู่ในใจด้วยความโกรธจัด ในขณะที่เรียวปากอิ่มยังคงประกบอยู่กับริมฝีปากร้อนๆ ก็เหลือบสายตามองตลอดเวลาว่าชายฉกรรจ์ทั้งสองคนเดินออกไปหรือยัง
เพราะคิดว่าธาราดาคงเป็นโสเภณีไล่ตามจับแขกเหมือนที่พวกมันกำลังเห็นอยู่ในขณะนี้ นักเลงคุมบาร์จึงพากันล่าถอยเดินออกจากซอยดังกล่าว
“เกือบไม่รอดแล้วเรา”
ธาราดาเป่าลมออกจากปากอย่างโล่งอก พอรู้ว่าตนเองปลอดภัยแล้ว ก็ดันกายผละออกจากร่างกายล่ำสันที่ตนเองสวมกอดไว้นาน
แต่! ธาราดาไม่อาจควานหาอิสระให้กับตนเองได้ เพราะตอนนี้เธอกำลังถูกกัปตันเอริกเป็นฝ่ายกระชากร่างบางในชุดสุดเซ็กซี่มาสวมกอดไว้บ้าง
“จะไปไหน คุณโส”
กัปตันเอริกเค้นเสียงถามชิดกับเรียวปากอิ่มสีกุหลาบ ที่เปิดโอกาสให้เขาได้สัมผัสเรียวปากแค่เพียงภายนอก ยังไม่ได้ลุกล้ำเข้าไปชอนไชทั่วโพรงปากคู่นี้
“คุณโส?”
ด้วยลืมไปเสียสนิทว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่นาที ตนเองได้ยั่วยวนชวนอีกฝ่ายขึ้นห้อง ธาราดาจึงทวนคำอย่างงงๆ ไม่เข้าใจถึงสรรพนามที่ชายผู้นี้เรียกเธอ
พอสาวสวยสุดเซ็กซี่ ตีสีหน้างุนงง ขมวดคิ้วเข้าหากันให้ยุ่ง กัปตันเอริกก็เข้าใจผิดคิดว่าอีกฝ่ายกำลังแกล้งเล่นตัวเพื่อโกงราคากับลูกค้า
“ใช่คุณโส ดูเหมือนคุณจะลืมชื่อของตัวเอง จะให้ผมเรียกเต็มๆ ไหมว่าคุณโสเภณี!”
ธาราดาหน้าตึง เมื่อถูกเรียกด้วยคำว่าโสเภณีอย่างชัดเจน “ฉันไม่ได้เป็นโสเภณี”
“ไม่ได้เป็นโสเภณี?”
คราวนี้กัปตันเอริกเป็นฝ่ายทวนคำด้วยน้ำเสียงติดเยาะหยัน ก่อนจะเค้นเสียงถามต่อ
“เมื่อสักครู่คุณพูดเองไม่ใช่หรือว่าตามหาผมทั้งคืน ผมเองก็เพิ่งรู้ตัวว่าถูกโสเภณีปลายแถวตามหาอยู่ สาบานได้ว่า ถ้ารู้ว่ามีโสเภณีเซ็กซี่อย่างคุณกำลังตามตะครุบผมอยู่ ผมไม่เสียเวลามาหาโสเภณีที่บาร์แห่งนี้หรอก”
ธาราดาไม่ได้ฟังว่าผู้ชายคนนี้พูดว่าอะไรบ้าง แต่กลับหูผึงในประโยคท้ายของเขา
“คุณมาซื้อบริการโส...เอ่อ...เด็กสาวๆ ที่นี่หรือคะ”
“ใช่ ผมเพิ่งจ่ายเงินไปหมาดๆ แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้ว อยากหิ้วคุณแทนโสเภณีที่ยังไม่เห็นแม้แต่หน้า”
กัปตันเอริกยอมรับว่าชักจะติดใจกับโสเภณีสุดเซ็กซี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า นาทีนี้เขาไม่สนใจแล้วว่าหญิงสาวจะบริสุทธิ์ผุดผ่องหรือไม่ ไม่สนใจว่าเธอจะเจนสนามมากเพียงใด เขารู้แค่ว่าหญิงสาวคนนี้ คนที่เขารู้จักแค่ว่าชื่อธารา กำลังปลุกอารมณ์รักที่ถูกซุกซ่อนอยู่ข้างในกายของเขาให้ลุกฮือขึ้นมา แค่เพียงถูกเธอกดจุมพิตและบดเบียดเรือนร่างเซ็กซี่ลงมาเสียดสีกับเรือนกายของเขา