9
ตอนที่ 9
ไกรฤกษ์ยืนมองโบตั๋นอยู่ห่างๆ ครอบครัวเขาขอร้องให้เขาหมั้นกับเธอตั้งแต่เขาเพิ่งเรียนจบ ทุกคนก็ต่างสนับสนุนเนื่องด้วย คุณยายบริจาคไตหนึ่งข้างให้คุณปู่เขา ทำให้คุณยายมินตราสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเท่าที่ควร
เขาเคยคิดว่าคงรักเธอได้ไม่ยากเธอน่ารัก อ่อนโยน แต่มันเป็นแค่เพียงความผูกพันเท่านั้น คิดแต่ว่าแต่งกันไปเดี๋ยวก็คงรักกันเองอย่างที่พ่อกับแม่เขาพูดกรอกหูทุกวัน หลังจากโบตั๋นเรียนจบคุณยายมินตราก็มาขอให้เขารีบจัดงานแต่ง เพราะสภาพไตของคุณยายและร่างกายเริ่มไม่สู้ดี คุณยายมินตราฝากฝั่งให้เขาช่วยดูแลเธอเรื่องนี้เขารู้กันแต่สองคนกับคุณยายเท่านั้น เขาคือครอบครัวคนเดียวของเธอที่เหลืออยู่ตอนนี้
“คุณไกรภพกับคุณวานิดาดูสนิทกันมากเลยนะคะ” เสียงหวานของผู้ช่วยคนสวยเอ่ยขึ้น
“ครับ เขาสองคนเป็นเพื่อนรักกัน รู้จักกันตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย ก็ตั้งแต่ผมหมั้นกับโบตั๋นนั้นล่ะ” ไกรฤกษ์มองน้องชายกับภรรยาของเขา ทั้งคู่สนิทกันมากๆ มีอะไรก็เล่าสู้กันฟัง บางที่เจ้าภพอาจจะไม่มีความลับกับโบตั๋นด้วยซ้ำ ก็ไม่แปลกอะไร เพราะเขากับภพพลัดไปรับส่งโบตั๋นมาตลอด คนรุ่นเดียวกันก็ต้องสนิทกันง่ายเป็นธรรมดา เขาห่างกับภพและโบตั๋น เกือบ 7 ปี
“ค่ะ คุณไกรภพเป็นห่วงคุณวานิดามาก สายตาคุณไกรภพดูห่วงใยคุณวานิดามากๆเลยนะคะ เมย์อยากมีเพื่อนแบบนี้บ้างจังค่ะ” เมื่อเห็นโอกาส ก็อดที่จะยุยงให้สามีภารยาระแวงใจกันไม่ได้ เธอไม่มีทางพลาด จริงไม่จริงไม่รู้ โยนหินถามทางไปก่อน ถ้าโยนแล้วตรงเป้า เรื่องที่เธอมั่นหมายเอาไว้ก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
“ครับ แล้วคุณเมย์กลับยังไงครับเย็นมากแล้ว” ไม่ใช่ไกรฤกษ์ไม่รู้ว่าน้องชายเขาคิดอะไรกับภรรยาเขาผู้ชายด้วยกันทำไมจะดูไม่ออก แต่โบตั๋นรักเขามากและน้องชายเขาก็ไม่เคยล้ำเส้นความเป็นเพื่อน รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ซึ่งก็เป็นแบบนี้เสมอมาเขาไม่ได้ใส่ใจตรงจุดนี้เท่าไร เขาแค่ทำหน้าที่ตามที่รับปากกับคุณยายมินตราเอาไว้เท่านั้น และตอนนี้คุณยายจากไปแล้ว
“เมย์ว่าจะนั่งรถเมล์กลับนะคะ เดินออกไปตรงนี้นิดเดียวเอง”
“งั้นผมไปส่ง อุตส่าห์มาร่วมงานจะให้กลับมืดๆแบบนี้ได้ยังไง”
“เกรงใจคุณวานิดาเธอ”
“ภรรยาผมเขาเข้าใจ คุณรอตรงนี้น่ะ ผมเดินไปบอกโบตั้นก่อน”
เมื่อไกรฤกษ์เดินมาบอกภรรยาว่าจะไปส่งผู้ช่วยเลขาเนื่องจากเมธาวีไม่มีรถขับปล่อยให้กลับเองคนเดียวมืดๆอันตราย โบตั๋นเพียงแค่พยักหน้า
เป็นไกรภพที่อดไม่ได้ที่จะถาม “ทำไมต้องไปส่งด้วยว่ะ แล้วโบตั๋นแกยอมได้ไง” เมียเพิ่งเผาศพคุณยาย ไฟยังไม่ทันมอด พี่ชายเขาก็ทิ้งไว้ที่งานแบบนี้
“เขาอยากไปส่งกัน ก็ให้เขาไปเถอะ เรานั่งรถตู้ที่บ้านมา ภพขับรถมาใช่มั้ย งั้นแยกกันตรงนี้น่ะ เราอยากกลับไปพักแล้ว”
“เออตามใจ มีอะไรโทรมาได้ตลอดรู้ไหม อย่าเก็บไว้คนเดียว” แปลก โบตั๋นของเขาแปลกไปจริงๆ เขารู้สึกบางแวบก็เหมือนเธอไม่ใช่คนเดิม เอาเถอะเธอคงกำลังเศร้าเรื่องคุณยาย
ระหว่างทางขับรถเพื่อไปส่งเมธาวี ไกรฤกษ์เมียงมองคนที่นั่งฝั่งผู้โดยสารตลอด เขาแอบชอบเมธาวีตั้งแต่วันที่เธอมาสัมภาษณ์งาน เมธาวีตรงสเปคเขาทุกอย่าง ยิ่งได้ทำงานใกล้ชิดกันทุกวัน เขายิ่งชอบเธอ และเขามั่นใจว่าเมย์ก็ชอบเขาไม่น้อย แต่เขาแต่งงานแล้ว
“มองทางบ้างค่ะ เมย์ไม่อยากอายุสั้น” เมธาวีอมยิ้ม คุณไกรมองหันมามองเธอตลอดทางไม่ใช่เธอไม่รู้ตัว
“ผมอยากมองเมย์ตลอดไปจัง อยากให้ทางกลับบ้านเมย์ไกลกว่านี้”
“คุณไกรทำแบบนี้เดี๋ยวเมย์ก็เข้าใจผิดหรอกค่ะ” เมธาวีก้มหน้างุด หันไปยิ้มคนเดียวกับกระจกรถ มือไม้บิดไปบิดมา
“ผมอยากให้เมย์เข้าใจถูก ผมชอบเมย์”
“แต่คุณไกรแต่งงานแล้วนะคะ ใครๆก็รู้ว่าคุณไกรรับภรรยามาก” เมย์ใจเต้นระทึก ไม่คิดว่าไกรฤกษ์จะสภาพกับเธอตรงๆแบบนี้ คิดว่าต้องใช้เวลาอีกซักหน่อยกว่าเธอจะทำให้เขาชอบได้เสียอีก ไม่คิดว่ารวดเร็วและง่ายดายขนาดนี้
“ผมทำตามหน้าที่ตามที่คุณยายของโบตั๋นขอร้อง ผมชอบคุณตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ แต่ผมแต่งงานผมจึงต้องเก็บความรู้สึกนี้ไว้กับตัวเองมาตลอด ตอนนี้คุณยายก็จากไปแล้ว ผมรู้ว่าคุณก็รู้สึกดีกับผม ขอเวลาผมหน่อยได้ไหมอย่าเพิ่งมีใคร ผมจะรีบเคลียร์ทุกอย่าง “ การที่เขาขอเมย์แบบนี้ เมย์อาจจะคิดว่าเขาเห็นแก่ตัว เมย์เพิ่งเรียนจบ ยังสาวยังสวย คงมีหนุ่มๆเข้ามาจีบมากมาย หากปล่อยนานไปเขาอาจเสียเมย์ให้คนอื่นไป
โบตั๋นไม่มีทางหย่าขาดจากเขาแน่นอน เขาเข้ามาดูแลบริษัทของคุณยายมินตราตั้งแต่แต่งงาน การอนุมัติทุกอย่างต้องผ่านคุณยายมินตรา สิทธินี้ตอนนี้ตกถอดไปยังโบตั๋นภรรยาของเขา หากเขาของดูแลทุกอย่างเขาเชื่อว่าโบตั๋นไม่ปฏิเสธเขาแน่นนอน