บทที่ 3 ป้าจอมแสบ 1.2
ร่างสูงใหญ่ของชีคฟาฎิล อิสบาฮิม ราซิม สุไลลาก้าวลงมาจากเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวสุดหรูของเขาที่คิดเป็นเงินไทยร่วมเก้าร้อยล้านบาท โดยมีเพื่อนสนิทนามว่าอิลฮัม เจ้าพ่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในซาเมียร์ร่วมเดินทางมาด้วย ยังมีบอดี้การ์ดของชีคฟาฎิลอีกสามคนคือ ฟาเดล อัลวาและอัฟฟินที่ติดสอยห้อยตามเขาตามหน้าที่ แล้วยังมีคนของอิลฮัมติดตามมาอีกสองคน
ห่างจากเครื่องบินเจ็ทราวสิบเมตรรถโรลส์รอยซ์สองคันแล่นมาจอด ยศวินหนุ่มชาวไทยตำแหน่งของเขาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของชีคฟาฎิล คอยจัดการเรื่องต่างๆ ตามคำบัญชาของชีคหนุ่ม ดูแลบริษัทที่ชีคฟาฎิลเป็นเจ้าของและเป็นหุ้นส่วนก้าวลงมาจากรถหรูคันแรก เขาเดินมาโค้งคำนับและพนมมือไหว้เจ้านาย
“สวัสดีครับท่านชีค”
“เรียบร้อยใช่ไหม” ชีคหนุ่มถามอย่างรู้กัน
“เรียบร้อยครับ” ยศวินตอบ “เชิญที่รถครับ”
ชีคฟาฎิลก้าวเข้าไปในรถหรูคันแรกตามด้วยอิลฮัม ด้านหน้าเป็นพลขับเบาะด้านข้างคนขับยศวินเป็นคนจับจอง บอดี้การ์ดทั้งสามขึ้นไปนั่งในรถหรูอีกคัน ส่วนคนที่มาพร้อมกับอิลฮัม แยกย้ายกันไปนั่งคนละคัน
“นี่ครับข้อมูลที่ท่านชีคต้องการ” ยศวินส่งเอกสารให้ชีคฟาฎิล และมีซองสีขาวหนึ่งซองที่ในนั้นมีรูปถ่ายอยู่หลายภาพ
“นายพูดมาดีกว่า ฉันอ่านบนรถแล้วปวดหัว”
“ครับท่านชีค” ยศวินรับคำสั่ง “ผมจะเรียกคุณอภิญญาว่าซาเรียนะครับ คุณซาเรียเสียชีวิตเมื่อเดือนก่อนครับ เธอป่วยเป็นมะเร็งครับ เธอมีลูกสองคนชื่ออานัสกับอานีส ตอนนี้อายุหกขวบอยู่ในความดูแลของป้าชื่ออนัญญาครับ รูปถ่ายของเด็กแฝดในปัจจุบันผมอยู่ในซองสีขาวครับ”
ยศวินบอกรายละเอียดคร่าวๆ ให้ชีคฟาฎิลรู้ คนอยากได้ข้อมูลจ้องมองภาพถ่ายเด็กชายฝาแฝดที่อภิญญาบอกว่าเป็นลูกของตนนิ่ง เครื่องหน้าของสองแฝดเหมือนเขาตอนเยาว์วัยทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นดวงตา คิ้ว จมูก ริมฝีปากและรอยยิ้ม หัวใจเขาเต้นแรงขณะมองเด็กสองคนในรูปในอิริยาบถต่างๆ แล้วในภาพนั้นก็มีสตรีร่างสมส่วนที่เขาคิดว่าอาจเป็นป้าของสองแฝดร่วมภาพด้วย ทว่าเห็นหน้าหล่อนไม่ถนัด เนื่องจากแต่ละภาพสตรีคนนี้จะยืนหันหลังบ้าง ยืนตะแคงบ้าง ราวกับว่าคนแอบถ่ายไม่ได้โฟกัสไปที่คนเป็นป้า แต่เป็นเด็กผู้ชายสองแฝดมากกว่า
“ผู้หญิงในภาพคือป้าของเด็กแฝดใช่ไหม”
ชีคฟาฎิลถามข้อมูลเพิ่ม อยากรู้ว่าเป็นคนที่เขาคาดเดาหรือไม่
“ใช่ครับ เธอชื่ออนัญญาหรือชื่อเล่นว่าเปรี้ยวครับ จันทร์ถึงพุธไปทำงานที่โยเกิร์ตบาร์ครับ วันพฤหัสถึงอาทิตย์ทำงานฟรี-แลนท์ครับ เป็นพริตตี้ พิธีกรรับจ้าง และรับจ้างแต่งหน้าครับ เธอหาเงินเลี้ยงดูคุณซาเรียที่ป่วยกระเซาะกระแซะตั้งแต่คลอดลูกครับ ทำงานไม่ไหวเลยเลี้ยงลูกทั้งสองคนอยู่ที่บ้าน ภาระทุกอย่างจึงตกอยู่ที่คุณเปรี้ยวครับ จนเมื่อปีก่อนคุณซาเรียป่วยเป็นโรคมะเร็งรักษาตัวอยู่หลายเดือนครับ ก่อนมาเสียชีวิตเมื่อเดือนก่อน”
เรื่องที่ยศวินเล่าสอดคล้องกับในจดหมายที่อภิญญาเขียนถึงเขาที่ว่า พี่สาวเธอลำบากมามาก จึงอยากให้เขามารับลูกชายฝาแฝดไปเลี้ยงดู ฟาฎิลพอเข้าใจแล้วว่า เหตุใดอภิญญาถึงได้ส่งข่าวบอกเขาเรื่องความลับนี้ คงไม่ต้องการให้พี่สาวลำบากอีกต่อไป
“นายคิดว่าเด็กสองคนนี้เป็นลูกนายหรือเปล่า” อิลฮัมถามเพื่อนซี้
“ไม่แน่ใจ” ฟาฎิลตอบตามตรง “คงต้องตรวจดีเอ็นเอก่อน เป็นทางที่ดีที่สุด”
“ท่านชีคจะไปบ้านอานัสกับอานีสเมื่อไหร่ดีครับ”
“ฉันใจร้อน ไปพรุ่งนี้เลยล่ะกัน” ชีคหนุ่มตอบ
“ได้ครับ” ยศวินรับคำสั่ง “ว่าแต่วันนี้ท่านชีคกับคุณอิลฮัมต้องการผู้หญิงไหมครับ”
ยศวินถามอีกเรื่อง เป็นเรื่องที่เขาทำเสมอยามสองเพื่อนรักมาเมืองไทย
“ฉันไม่” ฟาฎิลตอบ ก่อนหันไปถามเพื่อน “นายล่ะ”
“ฉันก็ไม่”
อิลฮัมตอบปลายตามองคนที่นั่งใกล้ๆ การสนทนาภายในรถหยุดลงแค่นั้น พลขับนำพาเจ้านายไปส่งยังคอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ราคาค่าห้องสูงลิ่วถึงสองร้อยเจ็ดสิบล้านบาท สมกับฐานะของเขาเหลือเกิน
ขณะนั่งรถไปยังคอนโดส่วนตัว ฟาฎิลนั่งมองรูปถ่ายของเด็กชายสองแฝดไปตลอดทาง อีกใจหนึ่งไม่แน่ใจว่า เด็กสองคนนี้ใช่ลูกของตนหรือไม่ ทว่าอีกใจกลับมีสายใยเล็กๆ กำลังถักทอทำให้สองความรู้สึกตีกันยุ่ง แต่ที่แน่ๆ ยามมองภาพถ่ายใบหน้าฟาฎิลระบายด้วยรอยยิ้มอย่างไม่รู้ตัว และอยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ เพื่อที่เขาจะได้พบหน้าเด็กชายแฝดสุดหล่อที่อภิญญาบอกว่า เป็นลูกของตน