บท
ตั้งค่า

2. ตัวแทนบริษัท

“มาสายตลอดแบบนี้ ระวังสักวันจะโดนไล่ออกนะจ้ะทับทิม” ชมพูนุชที่เห็นรินลดามานั่งที่โต๊ะก็เอ่ยแขวะทันที เพราะเธอและรินลดาไม่ถูกกันตั้งแต่เรื่องที่เธอไปแย่งแฟนของรินลดาเมื่อสองปีก่อน นั่นก็คือกวินทร์หนุ่มหล่อแผนกพัฒนาไอทีที่เธอกำลังคบหาอยู่ตอนนี้

“ถ้าฉันจะโดนไล่ ฉันก็คงโดนไปนานแล้วล่ะชมพู่ ฉันว่าเธอสนใจแต่เรื่องของเธอดีกว่าไหม ระวังสักวันกรรมจะตามสนอง” รินลดาเอยพูดแล้วจัดเอกสารบนโต๊ะทำงานโดยไม่ใส่ใจชมพูนุช ที่เอาแต่จิกกัดกับเธอทุกวัน

“อ้าววินทร์ขา มาทำอะไรที่นี่คะเนี่ยไม่เห็นจะบอกชมพู่เลย” ชมพูนุชเห็นแฟนหนุ่มเดินมาพร้อมกับเอกสาร จึงรีบเอ่ยทักแล้วเดินเข้าไปกอดแขนอย่างเป็นเจ้าของ

“มาประชุมครับ ผมพึ่งรู้เมื่อกี้เองอเดี๋ยวคุณศิวะก็คงตามอีกคน เราไปรอในห้องประชุมกันดีกว่านะชมพู่” กวินทร์เอ่ยบอกแฟนสาวสุดสวยออกไป ก่อนจะมองที่รินลดาด้วยสายตารู้สึกผิดที่เขานอกใจเธอมาคบกับชมพูนุช

“ค่ะ อยู่แถวนี้ชมพู่ก็เบื่อเหมือนกันเราไปรอข้างในกันก็ดีค่ะ” ชมพูนุชเอ่ยบอกก็เดินกอดแขนของกวินทร์เข้าไปในห้องประชุม ส่วนรินลดาก็ได้แต่มองอย่างสมเพช คนหนึ่งก็เลวคนหนึ่งก็ชั่วก็สมกันดี เธอยอมรับว่าเสียใจที่กวินทร์นอกใจเธอไปคบกับชมพูนุช แต่พอได้ฟังเหตุผลที่เขาบอกมา มันก็ทำให้เธอไม่เสียใจที่เลิกกับผู้ชายคนนี้เลยสักนิด เพราะเหตุผลที่เธอเลิกกับกวินทร์ก็เพราะเธอเป็นแค่ยัยแว่นเฉิ่มๆไม่สวยเท่าชมพูนุช และเธอก็ไม่ยอมนอนกับเขา เหตุผลแค่นี้แหละที่เขาเลิกกับเธอ เธอจึงไม่เสียใจที่เขาบอกเลิกเขาไป แต่กลับดีใจด้วยซ้ำที่ชมพูนุชเอากวินทร์ออกไปจากชีวิตของเธอ

“อ่าวทับทิม ยังไม่เข้าห้องประชุมอีกเหรอ ยืนเหม่อคิดอะไรอยู่” เมษาหัวหน้าแผนกเอ่ยขึ้นด้านหลัง เมื่อเห็นลูกน้องสาวยังยืนอยู่ด้านหน้าห้อง

“เปล่าค่ะ ทับทิมกำลังจะเข้าไปพอดีเลยค่ะพี่เม” รินลดาเอ่ยบอกเมษาด้วยรอยยิ้มเก้ๆกังๆ แล้วเดินเข้าไปด้านในห้องประชุม โดยมีเมษาตามเข้าไปด้วย จากนั้นทุกคนก็รอให้ศิวะมาเพื่อชี้แจงรายละเอียดต่างๆของงานอยู่เงียบๆ จนศิวะเดินเข้ามาพร้อมกับไอรินเลขาส่วนตัว ที่พ่วงด้วยตำแหน่งคู่หมั้นของศิวะ

“เรามาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ ที่ผมนัดพวกคุณมาประชุมก็เพราะผมจะให้แผนกของพวกคุณเป็นตัวแทนของบริษัทเรา ไปดูงานร่วมกับสาขาอื่นๆของบริษัทที่นครดูไบ งานนี้ผมต้องการให้คุณเมษา คุณชมพู่ และก็คุณกวินทร์ไปเป็นตัวแทนของบริษัท โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น” ศิวะเอ่ยบอกออกไปจนแต่ละคนที่มีชื่อได้แต่ยิ้มหน้าบาน ส่วนทับทิมพอไม่มีชื่อของตัวเองก็ได้แต่ทำหน้าเซ็ง เธอก็ไม่เคยเป็นคนที่ถูกเลือกตลอด

“แล้วงานครั้งนี้เราต้องไปทำอะไรบ้างคะคุณศิวะ” เมษาเอ่ยถามออกไป เพราะอยากจะทราบรายละเอียด แต่ในใจอยากจะให้รินลดาไปมากกว่าชมพูนุช เพราะเธอชอบเด็กที่มีอัธยาศัยดีแบบรินลดามากกว่า

“งานนี้เราแค่ไปร่วมแสดงความยินดีกับผู้บริหารของบริษัท และร่วมงานเลี้ยงของบริษัทที่จะจัดเป็นเวลาสองอาทิตย์ เรียกง่ายๆก็คือพากันไปเที่ยวนั่นแหละ แต่ตอนพูดคุยกับท่านประธานคนเก่าเราต้องใช้ภาษาอาหรับเท่านั้น เพราะท่านจะดูความสามารถคนของเรา ผมก็เลยจะให้รินลดาไปด้วยอีกคน” ศิวะเอ่ยบอกกับทุกคนออกไป ก็หันไปหาทับทิมที่นั่งก้มหน้าฟังอยู่ ก่อนที่เธอจะเงยหน้ามองเขาอย่างอึ้งๆ

“ทับทิมได้ไปด้วยเหรอคะ” รินลดาเอ่ยถามแบบงงๆที่อยู่ๆศิวะก็บอกว่าเธอก็ได้ร่วมทริปนี้ไปด้วย

“ใช่ เพราะภาษาอาหรับของคุณอยู่ในระดับที่ดี ผมเลยอยากจะให้คุณไปเป็นล่ามในครั้งนี้ แต่คุณต้องปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพให้เหมาะสมกับงานครั้งนี้” ศิวะเอ่ยบอกออกไป เพราะหากเขาจะพารินลดาไปจริงๆ รินลดาจะต้องเปลี่ยนบุคลิกใหม่ให้เหมาะสมมากกว่านี้

“เปลี่ยนบุคลิกภาพ” รินลดาทวนคำแล้วกลืนน้ำลายลงในลำคอทันที เพราะเธอชอบการแต่งตัวแบบนี้มากกว่า มันทำให้เธอสบายใจมากกว่าต้องมานั่งแต่งหน้าแต่งตัวไปวันๆ

“ใช่ เรื่องนี้ผมจะให้คุณไอรินเป็นคนจัดการ คุณแค่มีหน้าที่ทำตามเท่านั้น อ่อ ลืมบอกไป ไม่ใช่แค่รินลดาคนเดียวเท่านั้น แต่เป็นทุกคนที่จะร่วมไปในครั้งนี้ทุกคน” ศิวะเอ่ยบอกออกไป

“ทุกคนเลยเหรอคะคุณศิวะ” ชมพูนุชเอ่ยถาม เพราะทุกคนไม่ได้เชยเฉิ่มแบบรินลดา ทำไมต้องเปลี่ยนแปลงบุคลิกด้วย

“ใช่ เพราะเราไปที่ดูไบ บ้านเมืองและวัฒนธรรมของเขาต่างจากเรามาก แล้วท่านประธานใหญ่ก็เป็นคนอาหรับและเขาก็เป็นคนที่เคร่งในวัฒนธรรมของเขามาก เราจะไปทำเสียชื่อเสียงไม่ได้ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องทำ” ศิวะเอ่ยบอกออกไป เพราะหากเกิดปัญหาเขาอาจจะถูกเด้งจากการเป็นผู้บริหารสาขาที่ประเทศไทยก็ได้ สู้เขาลงทุนทำแบบนี้จะเป็นการดีกว่า

“แล้วเราจะไปเมื่อไหร่คะคุณศิวะ” เมษาเอ่ยถามด้วยความอยากรู้

“อีกสามอาทิตย์หลังจากนี้ ผมหวังว่าทุกคนจะเตรียมตัวทันนะครับ โดยเฉพาะคุณรินลดา” ศิวะเอ่ยบอกแล้วย้ำไปที่รินลดา เพราะรินลดาเป็นคนเดียวที่มีบุคลิกที่ต้องจัดการหนักกว่าทุกคน

“ค่ะ คุณศิวะ” รินลดาเอ่ยตอบก็มองไปที่เพื่อนสาวด้วยสายตาละห้อย จนไอรินที่มองตอบต้องส่ายหัวใส่กลับมา

“งั้นเดี๋ยวรายละเอียด เชิญคุณไอรินบอกกับทุกคนให้ผมที” ศิวะเอ่ยบอกให้ไอรินที่เป็นทั้งเลขาและคู่หมั้นของเขาเป็นคนจัดการบอกรายละเอียดต่างๆ

“ค่ะ จากที่คุณศิวะบอกไปนะคะ เราจะเริ่มเรียนคอร์สเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพให้ถูกตามวัฒนธรรมของชาวอาหรับกันในวันพรุ่งนี้นะคะ ส่วนคุณรินลดาจะต้องเรียนแยกกับทุกคนนะคะ เพราะคุณรินลดาจะต้องเปลี่ยนแปลงเยอะกว่าทุกคน เพราะว่าคุณต้องเจอกับท่านประธานโดยเฉพาะ คุณจึงต้องหนักกว่าคนอื่นๆ แต่การแต่งกายคุณต้องไปจัดการเองนะคะ” ไอรินเอ่ยบอกเพื่อนสาวด้วยคำพูดอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเธอต้องรักษากริยามารยาทให้เหมาะสมในที่ทำงาน

“ค่ะ ทับทิมจะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ” รินลดาเอ่ยบอกออกไปด้วยเสียงเบา

“ค่ะ ส่วนเรื่องเดินทาง เราจะเดินทางไปทั้งหมดหกคนนะคะ โดยทางบริษัทจะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้รวมถึงค่ากินค่าที่พักให้ โดยมีเบี้ยเลี้ยงต่อวันให้ท่านละสองหมื่นบาทไทย ทั้งหมดก็มีแค่นี้ค่ะ ไม่ทราบว่ามีใครจะถามอะไรอีกไหมคะ” ไอรินเอ่ยถามออกไป แล้วมองที่ทุกคน

“พวกผมต้องฝึกกี่วันครับ” กวินทร์เอ่ยถามออกไป

“สามวันค่ะ ทุกคนจะเข้าคอร์สกันแค่สามวันเท่านั้นค่ะ อ่อลืมบอกไป หลังจากนี้ให้คุณรินลดาพักงานเพื่อเตรียมตัวจนถึงวันเดินทางนะคะ ส่วนคนอื่นๆจะได้หยุดสามวันก่อนเดินทางเพื่อเตรียมตัวค่ะ” ไอรินแจ้งบอกออกไป จนทุกคนทำหน้ายิ้มดีใจ มีก็แต่ชมพูนุชที่แอบอิจฉารินลดาในใจที่ได้หยุดนานกว่าคนอื่น แต่กับรินลดากลับเป็นงานหนัก เพราะไม่รู้จะต้องปรับปรุงหรือเปลี่ยนตัวเองยังไงบ้าง

“งั้นก็จบการประชุมแค่นี้ก็พอ หากมีอะไรผมจะเรียกประชุมอีกครั้ง เลิกประชุมครับ” ศิวะเอ่ยบอกกับทุกคน เมื่อแจ้งข่าวกับทุกคนครบทุกอย่างแล้ว จากนั้นทุกคนก็ทยอยออกไปจนถึงรินลดาคนสุดท้าย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel