บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 สายเลือดมาเฟีย 3

ห้องประชุมเล็กกำลังเคร่งเครียดกับแขกวีไอพีที่กำลังเดินทางมาพักในโรงแรมสุดสัปดาห์นี้ หากแขกคนดังกล่าวไม่ใช่จอมเรื่องมากแห่งยุค คนที่กำลังประชุมอยู่คงไม่เครียดเช่นนี้ และการมาของเขาทุกครั้ง ทางโรงแรมจะต้องจัดห้องใหม่ทั้งหมด ตกแต่งตามที่ผู้เข้าพักต้องการ ครั้นจะไม่ทำตามก็ไม่ได้ เนื่องจากนานโอ การ์รัซซีโน่ มาเฟียจอมเผด็จการของอิตาลีจ่ายเงินไม่อั้นกับการปรับเปลี่ยนตามความพอใจของตน ซึ่งเขาไม่ธรรมดา มาแต่ละครั้งเหมาห้องพักทั้งชั้นเพื่อให้ลูกน้องและผู้หญิงที่หิ้วมาด้วยพักอาศัย ผู้หญิงของเขามาไม่ต่ำกว่าห้าคนในการมาแต่ละครั้ง

“ปัญหาเรื่องการปรับเปลี่ยนห้องไม่เท่าไหร่ เพราะยังไงคุณนานโอก็เป็นออกค่าใช้จ่าย แต่เรื่องล่ามนี่สิคะ บังอรคิดหนักมากเพราะคุณนานโอไม่เอาล่ามคนเดิม และไม่เอาล่ามคนก่อนหน้านี้ด้วย เขาต้องการล่ามคนใหม่ที่มีความคล่องตัว พูดอ่านและเขียนได้ทั้งภาษาอิตาเลี่ยน ภาษาสากลและภาษาจีน เพราะเขาต้องติดต่อธุรกิจกับคนจีน และสหรัฐ เขาจึงอยากได้ล่ามที่มีความสามารถพูดได้ตามที่เขาต้องการ”

บังอรผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์พูดกลางที่ประชุม นานโอเป็นมาเฟียหัวโบราณ เขาไม่ฝึกหัดพูดภาษาอื่น เพราะคิดว่า ไม่มีความจำเป็น หากไปต่างบ้านต่างเมืองจึงเรียกใช้บริการล่ามเป็นตัวกลางการสื่อสาร

“มันหายากนักเหรอ ล่ามที่พูดได้หลายภาษาเนี่ย” นันทิพาเจ้านายบังอรพูดขึ้น

“ก็หายากค่ะ เพราะน้อยนักที่จะพูดได้พร้อมกันสามภาษา บางคนพูดได้สากลกับจีนได้ แต่พูดอิตาเลี่ยนไม่ได้ บางคนพูดอิตาเลี่ยนกับภาษาสากลได้แต่พูดจีนไม่ได้ มันต้องขาดอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ” บังอรอธิบายเพิ่มเติม

“เอ...พี่นันกับพี่บังอรลืมคนหนึ่งไปหรือเปล่าคะ”

ช้องนางเลขาผู้จัดการแผนกแม่บ้านที่ร่วมประชุมแทนรัศมี ผู้จัดการแผนกแม่บ้านที่ลากิจไปพักผ่อนต่างจังหวัดเอ่ยขึ้นกลางห้องประชุม ซึ่งคำพูดของหล่อนเรียกความสนใจให้กับทุกคนในห้อง

“ลืมใครกุ้ง” บังอรรีบถาม

“ลืมเพ้นท์ไงคะ เพ้นท์พนักงานแผนกต้อนรับที่พูดได้หลายภาษา แล้วเป็นภาษาที่ตอบโจทย์คุณนานโอด้วยค่ะ”

เหมือนแสงสว่างปลายอุโมงค์ นันทิพา บังอรและอีกสามคนที่อยู่ในห้องประชุมพากันโล่งใจ ที่สามารถหาล่ามตรงความต้องการของนานโอได้

“งั้นบังอรรีบไปบอกเพ้นท์เลยนะว่า ให้เตรียมตัวเป็นล่ามคุณนานโอ ค่าจ้างที่คุณนานโอเสนอให้คือวันละหนึ่งหมื่นห้าพันบาท” ทุกคนในห้องต่างตกใจกับราคาค่าตัวของล่ามที่ได้สูงเทียบเท่าเงินเดือนพวกหล่อนทั้งเดือน

“ทำไมให้เยอะจังพี่นันตั้งหมื่นห้า” บังอรถามอย่างสงสัย

“ก็ให้ตามเลทนะ ไม่ได้ให้พิเศษอะไร เท่าที่พี่รู้มา ค่าจ้างของล่ามคิดเป็นรายชั่วโมง ครึ่งวันก็มี เต็มวันก็ด้วย ค่าเดินทางบางคนก็ให้ต่างหากแล้วแต่ตกลงกัน อย่างครึ่งวันคือสี่ชั่วโมง ถ้างานไม่เสร็จเข้าชั่วโมงที่ห้าก็คิดเป็นรายชั่วโมงต่อไปเรื่อยๆ จนเสร็จงาน ราคาหมื่นห้าที่เพ้นท์จะได้ คือค่าจ้างล่ามที่พูดได้สามภาษานะ ค่าตัวก็ต้องสูงอยู่แล้ว” นันทิพาอธิบายให้บังอรเข้าใจ

“โห อย่างนี้เพ้นท์สบายเลย คุณนานโอมาอยู่เมืองไทยห้าวัน เพ้นท์ได้วันละหมื่นห้า ห้าวันก็เจ็ดหมื่นห้า” ช้องนางดีใจแทนเพชรหอมที่จะได้เงินค่าจ้างจำนวนมาก “ถ้ากุ้งพูดภาษาอิตาเลี่ยนได้ กุ้งจะเสนอตัวเอง แต่นี่เพิ่งหัดพูดหัดเขียน ยังไม่ถึงขั้นเซียน ให้เพ้นท์ทำดีที่สุด”

“โอเค ตกลงตามนี้ งั้นเลิกประชุมได้ ใครทำหน้าที่อะไรก็ขอให้ทำให้เต็มที่ คุณนานโอมาพักที่โรงแรมเราประจำ อย่าให้เสียชื่อ พี่ไม่อยากเสียลูกค้ากระเป๋าหนักไป”

นันทิพากำชับลูกน้อง ก่อนที่ทั้งหมดจะพากันเดินออกจากห้องประชุม บังอรกับช้องนางรีบเดินไปหาเพชรหอมที่กำลังปฏิบัติหน้าที่พนักงานต้อนรับลูกค้าตรงล็อบบี้ของโรงแรม

เพชรหอมมองบุตรชายที่นั่งวาดรูปด้วยรอยยิ้ม หล่อนคลายความกังวลเรื่องหนี้สินที่เพิ่งสร้างไว้หมาดๆ เมื่อวานนี้ รายได้จากการเป็นล่ามห้าวัน ส่วนหนึ่งหล่อนตั้งใจเอาไปใช้หนี้เจ๊แมว อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้เป็นทุนสำรอง และอีกส่วนหนึ่งหล่อนจะไปซื้อสลากออมสิน เผื่อโชคดีถูกรางวัลใหญ่มีเงินเก็บก้อนโต หากไม่ถูกก็ไม่เสียหลาย เพราะถึงอย่างไรสลากออมสินก็เปรียบเสมือนการเก็บออมวิธีหนึ่ง พอถึงกำหนดเวลา ได้ทั้งต้นคืนแถมยังได้ดอกเบี้ยอีก มีแต่ได้กับได้ ไม่ต้องเสี่ยงอะไรด้วย

อนาคตของยศนัยเป็นเช่นไรเพชรหอมไม่รู้ หล่อนรู้เพียงว่า จะต้องเลี้ยงดูยศนัยให้ดีที่สุดเท่าที่หล่อนทำได้ ตามอัตภาพและสองมือ หนึ่งสมองของตน โดยไม่ง้อคนเป็นพ่อและไม่มีวันง้อด้วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel