เอาไม่ลงNC
ธีร์.....
"เป็นยังไงบ้างคะพี่ธีร์" นิดหน่อยลูกพี่ลูกน้องของผมก้าวลงจากรถแล้วถามเพราะเมื่อกี้เธอก็นั่งอยู่บนรถกับผม
"ไม่เป็นยังไงแค่เกือบจะได้ชนคนตายก็เท่านั้นเอง" ผมบอกอย่างหัวเสียหงุดหงิดเพราะยัยขอทานที่ยืนตัวสั่นมองหน้าผมเหมือนตัวประหลาด ไม่คิดว่าจะมาเจอยัยนี่ โลกอะไรจะกลมขนาดนี้ เมื่อวานก็เจอวันนี้ก็ยังมาเจออีกเห็นหน้าละอารมณ์เสีย
"เอ่อไม่ทราบว่าคุณเป็นยังไงบ้างคะเจ็บตรงไหนหรือเปล่า" นิดหน่อยเดินไปถามยัยนั่นที่ยังยืนตัวแข็งทื่ออยู่หน้ารถเพราะคิดว่าเมื่อกี้ผมอาจจะไปเฉี่ยวยัยนั่นเข้า โชคดีนะที่ผมแตะเบรคไว้ได้ทันไม่อย่างงั้นตอนนี้ผมต้องไปนั่งอยู่บนโรงพักถูกจับข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรืออาจจะตาย
"มะ ไม่เป็นอะไรค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่ฉันเดินไม่ดูทางขอโทษจริงๆค่ะ " ยัยนั่นเอ่ยขอโทษพร้อมกับมองมาที่ผมแต่ผมไม่ได้สนใจจนยัยนั่นพาตัวเองเดินข้ามถนนไป
เอิงเอย...
ฉันเอ่ยขอโทษเพราะเรื่องนี้ฉันผิดเองที่ข้ามถนนไม่ดูรถ แววตาของเขาที่มองฉันมันไม่ต่างจากเมื่อวานเลยสักนิด เหมือนเขาจะไม่ชอบหน้าฉันสักเท่าไหร่ทั้งที่ฉันก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้มีแต่เขาที่ชนฉันจนล้มคำขอโทษสักคำยังไม่มีแต่ก็ช่างมันเถอะฉันก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากมายแค่ปวดข้อศอกนิดหน่อยที่ไปกระแทกพื้น
หลังจากนั้นฉันก็รีบข้ามถนนมายังฝั่งตรงข้ามเพื่อไปยังร้านขายดอกไม้
"มาสมัครงานใช่ไหมรอแป๊บนะ" ตอนนี้ฉันมานั่งอยู่ที่ร้านดอกไม้เพื่อสมัครงานฉันหวังว่าพี่เขาจะรับฉันนะเพราะดูเหมือนพี่เขากำลังยุ่งมากแต่ไม่มีคนช่วยเลย
"ได้ค่ะ" ฉันตอบพี่เจ้าของร้าน จากนั้นฉันก็นั่งมองพี่เขาจัดดอกไม้อย่างรีบเร่งไหนจะรับโทรศัพท์ซึ่งน่าจะเป็นลูกค้า ฉันเห็นว่าพี่เขายุ่งมากก็เลยอาสาเข้าไปช่วย
"ให้หนูช่วยนะคะ"
"อื้มขอบใจนะ วันนี้พี่ยุ่งมากเลยลูกค้าโทรมาสั่งดอกไม้ทั้งวัน" จากนั้นฉันก็ช่วยเป็นลูกมือพี่เขาคอยหยิบจับนั่นนี่เท่าที่พอจะทำได้ โชคดีที่ฉันพอจะมีความรู้อยู่บ้างว่าอะไรเป็นอะไรรู้ว่าอะไร ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงช่อดอกไม้หลายสิบช่อก็ถูกจัดส่งเรียบร้อย
"ขอบใจนะที่ช่วยพี่ไม่อย่างงั้นคงส่งให้ลูกค้าไม่ทันแน่ๆ" ฉันยิ้มให้พี่เจ้าของร้านแทนคำตอบ
"เอ้อว่าแต่เรามาสมัครงานจะทำเป็นfull timeหรือว่าpart timeล่ะ"
"ขอเป็นpart timeค่ะเพราะเอยต้องเรียนด้วย"
"อื้มโอเคว่าแต่เอยเรียนที่ไหนล่ะ"
"มหาลัยKค่ะ"
"อ้าวก็ใกล้ๆนี่น่ะสิ แล้วเราพักอยู่ที่ไหนล่ะ"
"อยู่ท้ายซอยค่ะ"
"ดีเลย จะได้สะดวกเวลามาทำงาน"
"ตกลงพี่รับเอยแล้วใช่มั้ยคะ" ฉันถามอย่างตื่นเต้น
"ใช่จ๊ะ"
"แต่เอยจัดดอกไม้ไม่ค่อยเป็นนะคะ"
"คนเราไม่มีใครเป็นมาตั้งแต่เกิดหรอก ฝึกไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็จัดเป็นเองแล่ะเมื่อก่อนพี่ก็จัดไม่เป็นจัดไม่สวยอาศัยว่าฝึกเอาน่ะ ทำทุกวันจัดทุกวันเดี๋ยวก็ทำเป็นเชื่อพี่"
"ขอบคุณนะคะที่พี่ให้โอกาสเอย เอยสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุดค่ะ" ฉันไหว้ขอบคุณพี่ขวัญที่ให้โอกาสฉันรับฉันเข้าทำงาน
"พี่เชื่อว่าเราทำได้อยู่แล้ว" หลังจากนั้นพี่ขวัญก็บอกรายละเอียดของการทำงานว่าฉันต้องเข้างานกี่โมงเลิกงานกี่โมงพร้อมกับบอกค่าจ้างที่ฉันได้เป็นรายชั่วโมงวันนึงก็ได้หลายร้อยอยู่ถ้าใช้อย่างประหยัดฉันก็จะมีเงินส่งให้พ่อ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกฉันตื่นเต้นมากมองดูตัวเองในชุดนักศึกษาถูกระเบียบฉันไม่ลืมที่จะบอกกับแม่ผ่านรูปถ่ายของท่าน
"แม่คะวันนี้เอยได้เป็นนักศึกษาเต็มตัวแล้วนะ แม่เห็นมั้ยเอยใส่ชุดนักศึกษาเหมือนที่แม่เคยบอกว่าอยากเห็นเอยใส่ เอยจะตั้งใจเรียนนะคะเอยจะเอาปริญญามาฝากแม่ให้ได้แม่รอเอยนะ" ฉันพูดกับแม่ด้วยรอยยิ้มสดใสแม้ในใจจะรู้สึกเหว่ว้าไม่มีใคร
ฉันใช้เวลาเดินไปมหาลัยแค่ห้านาทีเท่านั้นและพอไปถึงฉันก็รู้สึกถึงความวุ่นวายเพราะวันนี้มีนักศึกษาหลายร้อยหลายพันคนเดินกันขวักไขว่เต็มไปหมดทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องไหนจะรถที่ทยอยกันขับเข้ามาจนรถติด ฉันรีบเดินไปยังตึกบริหารซึ่งเป็นคณะที่ฉันเรียนโชคดีที่วันนั้นฉันจำได้ว่ามันตั้งอยู่ตรงไหนทำให้ฉันไม่ต้องเสียเวลาเดินหาเหมือนวันที่มารายงานตัว
เดินมาสักพักฉันก็รู้สึกปวดเบาฉันรีบมองหาป้ายว่าทางไปห้องน้ำมันไปทางไหนพอเจอก็รีบเดินเข้าไปทันที
หลังจากทำธุระเสร็จฉันกำลังจะเปิดประตูเสียงอะไรบางอย่างก็ดังขึ้นซึ่งน่าจะมาจากห้องข้างๆ
ปึ่ก!!!!! ปึ่ก!!!!! ปึ่ก!!!!!! ปึ่ก!!!!!! ผนังห้องน้ำฝั่งที่ฉันอยู่มันสั่นไปตามแรงกระแทกของคนที่อยู่อีกห้อง
"อ๊ะ อ๊ะ แรงๆค่ะ น้องธีร์ อ๊ะ อ๊ะ พี่เสียวจังค่ะ" ธีร์งั้นเหรอจะใช่เขาหรือเปล่า แต่อาจจะไม่ใช่เขาคงไม่ทำอะไรแบบนี้หรอกมั้ง แต่....
"ซี๊ดดด อื่มมมมม จะเอาแรงกว่านี้อีกเหรอ" เสียงของเขาฉันจำได้แม้จะไม่เห็นตัวแต่ฉันก็จำน้ำเสียงติดหยิ่งและเย็นชาหน่อยๆของเขาได้แม้จะเจอกันแค่สองครั้งก็ตาม นี่เขากำลังทำเรื่องอย่างว่าในมหาลัยงั้นเหรอฉันไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ แต่พอมาคิดดูเขาเป็นหลานเจ้าของมหาลัยนี่นาเขาถึงกล้าทำแบบนี้โดยไม่กลัวว่าจะถูกไล่ออกสินะ
"อ๊ะ ค่ะพี่ชอบแบบแรงๆ น้องธีร์เอาพี่แรงๆได้เลยค่ะพี่อยากเสียวมากกว่านี้"
"ร่านเหมือนกันนะครับพี่น่ะ"
"พี่ร่านแค่กับน้องธีร์คนเดียวค่ะ"
"หึ ถ้าร่านขนาดนี้ผมจะสนองให้ถึงใจเลยครับคนสวย"
ปั่ก!!!! ปั่ก!!!!! ปั่ก!!!! ปั่ก!!!!!
"อ๊ายยย อ๊ายยยย เสียว ฮือออ เสียว อ๊ะ อ๊ายยย น้องธีร์พี่จะเสร็จ น้องธีร์ อื้ออออ กรี๊ดดดดดดดดดดด"
"อ่าาาาาส์ แตกแล้ว" ฉันยืนตัวสั่นใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะเสียงครวญครางของคนทั้งคู่ที่ดังลอดเข้ามาให้ห้องที่ฉันยืนทำเอาฉันทำอะไรไม่ถูกเกิดมาอายุ19ปีไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อน ฉันอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลาหลายสิบนาทีโดยที่ไม่กล้าที่จะเดินออกไปเพราะกลัวเสียงเปิดประตูจะทำให้คนทั้งคู่รู้ว่าห้องข้างๆมีคนอยู่ จนกระทั่งทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเงียบลงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันยืนรออีกสักพักเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครอยู่แล้วก่อนจะค่อยๆเปิดประตูออกมาฉันภาวนาว่าจะไม่เจอใคร
"อ๊ะ ธีร์!!!" แต่เหมือนคำขอร้องของฉันจะไม่สัมฤทธิ์ผลพอฉันเปิดประตูออกมาก็เจอกับธีร์ที่ยืนกอดอกพิงอ่างล้างมือฝั่งตรงข้ามประตูห้องน้ำเขามองมาตรงที่ฉันยืนอยู่เหมือนเขารออยู่ก่อนแล้ว
"เธออีกแล้ว???" เขาพูดพร้อมกับจ้องหน้าฉันเหมือนหาเรื่อง
"เอ่อ คือ" ฉันเงยหน้ามองเขาที่ตอนนี้เหงื่อแตกเต็มหน้าคงจะมาจากกิจกรรมที่เขาทำเมื่อครู่ในห้องน้ำ พอคิดถึงเสียงที่ได้ยินเมื่อครู่มันทำให้ฉันไม่กล้าสู้หน้าเขาเลยฉันรีบก้มสายตาลงแต่สายตาเจ้ากรรมของฉันดันมองไปที่ลำคอของเขาที่มีรอยแดงอยู่หลายจุดทั้งสองข้าง และเขาน่าจะรู้ว่าฉันกำลังมองอะไรเขารีบหันไปมองกระจกบานใหญ่ด้านหลังก่อนจะสถบออกมาอย่างหัวเสีย
"แม่งเอ้ยกูบอกห้ามทำรอย เสือกทำจนได้" เขาเอามือถูลลำคอของตัวเองที่มีรอยแดงอย่างโมโห ฉันคิดว่าฉันควรที่จะออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดเพราะตอนนี้ทั้งห้องน้ำมีเขากับฉันเพียงสองคน
"เอ่อ เราขอออกไปข้างนอกก่อนนะต้องรีบเข้าเรียน"
"ทำไม กลัวอะไร หรือกลัวฉันจะเอาเธอในห้องน้ำ"
"ปะ เปล่า ไม่ใช่ เราไม่ได้คิดแบบนั้น"
"หึ จะบอกอะไรให้นะสภาพแบบนี้หน้าตาแบบนี้ฉันเอาไม่ลงหรอกไม่ต้องกลัว"
"......." ฉันถึงกับพูดไม่ออกกับสิ่งที่เขาพูด
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วเราไปก่อนนะ" ฉันบอกเขาโดยไม่มองหน้า
"เดี๋ยว!!!"
"อะ อะไร"
"เมื่อกี้เธอไม่ได้ยินอะไรใช่ไหม" เสียงกดต่ำข่มขู่เอาคำตอบ
"ไม่ ไม่ ไม่ได้ยินอะไรเลย" ฉันรีบปฏิเสธทันควันเพราะสายตาจ้องเอาเรื่องของเขาฉันไม่รู้ว่าถ้าบอกว่าได้ยินเขาจะทำอะไรฉันหรือเปล่า
"หึ ก็ดีแต่ถ้าได้ยินอะไรทื่ไม่ควรได้ยินก็หุบปากไว้ซะไม่งั้นเจอดีแน่" พูดจบเขาก็เดินออกไปจากห้องน้ำทันที ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก