แข็งจนแทบจะเป็นหินอยู่แล้ว

“ หนูกำลังทำให้พี่เงี่ยนขั้นสุด พี่อยากเอาหนูตอนนี้ ตรงนี้เลย ลานจอดรถ บนกระโปรงรถ ไม่ก็ในรถ หนูทำให้ดุ้นพี่แข็งจนแทบจะเป็นหินอยู่แล้ว โคตรเงี่ยน ” คำบอกกล่าวสาธยายรายละเอียดเสียงต่ำพร่านั้นมันทำให้หัวใจของดุจดาวแทบหยุดเต้น

บ้าจริง เธอคิดว่าเขาจะเป็นผู้ดิบผู้ดี ไม่ใช่เป็นผู้ชาย บ้ากามพูดจาหื่นห่ามขนาดนี้ ก็รู้แหละว่าเธอเป็นฝ่ายเสนอตัว ทำตัวเป็นผู้หญิงไร้ยางอาย แต่ก็น่าจะสุภาพกับเธอหน่อย อีกอย่าง ครั้งแรกของผู้หญิงคนหนึ่งก็ไม่ควรจะโลดโผนเอ้าท์ดอร์ ลานจอดรถ บนรถ หรืออะไรพรรค์อย่างนั้นนี่นา

“ แต่ว่า อึก.. ” เธอเอ่ยปากจะขอร้องแต่ไม่ทันได้พูดจบ เพราะเขาฉกฉวยจังหวะเปิดที่เธอเปิดปากฉกวูบลงไปบดเบียดด้วยริมฝีปากชื้นของตน จาบจ้วงล้วงไล้ด้วยการดูดดึงและสอดลิ้นลึกลงไปในโพรงปากของเจ้าหล่อน

แม้ว่าจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามานำเสนอตัวและบอกตัวเองว่าเตรียมอกเตรียมใจมาดี แต่สุดท้ายสัญชาตญาณเอาตัวรอดก็ทำงาน ดุจดาวตกใจและตื่นกลัวกับสัมผัสแรกที่ไม่เคยพานพบ มันเร่าร้อนวูบวาบหวั่นไหวตีกันไปหมด

หญิงสาวพยายามสะบัดหน้าหนีพลางผลักไสแต่เขาไม่ยอมปล่อย ยังคงปล้นจูบล้วงลึกในโพรงปากหวานอย่างร้อนเร่า ความร้อนนั้นแผดเผาให้เรี่ยวแรงของเธอเหือดหายสติเลือนราง ได้ยินบางอย่างก่อนจะดับวูบลง

“ ฉิบหาย แค่จูบเอง เป็นลมเลยเหรอวะ ! ”

***

สี่ปีผ่านไป

อรุณรุ่งรีสอร์ทคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากวันนี้จะมีพิธีมงคลสมรสของเจ้าของหนุ่มหล่อวัยยี่สิบเจ็ด นามว่า กรินทร์ ที่ทำให้สาว ๆ ทั่วบ้านทั่วเมืองในอำเภอนั้นอกหักกันเป็นแถว ๆ ด้วยว่าเจ้าตัวไม่เคยคบหาผู้หญิงคนไหน ปุบปับก็แต่งเงียบ ๆ ที่ใคร ๆ ก็อดครหาไม่ได้ว่า

“ แบบนี้ท้องก่อนแต่งชัวร์ ! ”

ความไม่พออกพอใจนั้นไม่เว้นแม้แต่นางการุณย์ผู้เป็นมารดาที่บุตรชายไปคว้าผู้หญิงไม่มีสกุลรุนชาติ ไม่มีหน้ามีตาอย่างที่นางวาดหวัง

“ อยากแต่งก็แต่ง แต่ฉันไม่เชิญแขกสำคัญมาหรอกนะ อายคนอื่นเขาเวลาจะเลิกกันน่ะ ผู้หญิงหน้าด้านพรรค์อย่างนี้รับรองว่าอยู่กันหม้อข้าวไม่ทันจะดำหรอก ” ผู้เป็นแม่ว่าทั้งน้ำตาด้วยทั้งโมโหและเสียใจ

งานแต่งจึงถูกจัดอย่างเรียบง่ายด้วยการว่าจ้างร้านดอกไม้เล็ก ๆ ในอำเภอมาตกแต่งสถานที่อันเป็นรีสอร์ทชื่อดังบนเนินเขาในตัวอำเภอท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่จังหวัดเลย ด้วยสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม ต้นไม้ดอกไม้ล้อมรอบ แถมยังมีทะเลสาบเล็ก ๆ ที่ทางรีสอร์ทได้ขุดเอาไว้ นั่นทำให้บรรยากาศงานแต่งเล็ก ๆ นั่นดูอบอุ่นน่ารักไปอีกแบบ

“ เฮ้ย พวกเรา ไม่ต้องชอกช้ำเฉาตายเพราะอกหักจากคุณกรินทร์แล้ว ” เสียงเอะอะดังมาจากพนักงานที่กำลังตระเตรียมอาหารให้วุ่นเพราะถึงเวลาแขกเหรื่อจะมาถึง

“ ทำไมวะ ”

“ โน่น พระเอกคนใหม่มาโน่นแล้ว ”

“ ใครวะ ”

“ คุณศรุจไง ลูกพี่ลูกน้องของคุณกรินทร์ที่หล่อ ๆ เหมือนนายแบบอะ ” จากนั้นก็แย่งกันวิ่งไปต้อนรับแขกคนสำคัญให้หน้าสลอน

ร่างสูงใหญ่ลงจากรถตู้ของรีสอร์ทที่ส่งไปรับที่สนามบิน เมื่อลงมายืนเต็มความสูงก็ยิ่งดูสง่างามในชุดสูทสีครีม ใบหน้ายาวที่ประกอบไปด้วยเครื่องหน้าคมเข้มราวรูปสลักนั้นยิ้มนิด ๆ ผมทรงเซิร์ฟคัทถูกเซ็ทไว้เรียบร้อย

“ หล่อฉิบหาย หล่อวัวตายควายล้ม ” ใครบางคนเพ้อขึ้นมาเบา ๆ

“ สวัสดีครับพี่รุจ ” เสียงทักทายดังจากผู้เป็นเจ้าบ่าวสวมชุดทักซิโด้สีขาว ที่กำลังเดินเข้ามาต้อนรับญาติผู้พี่

“ ไง ไอ้เจ้าบ่าว ถือดียังไงถึงได้ริจะมีเมียก่อนพี่ ” อีกฝ่ายส่งเสียงทักทายกลับไปก่อนอ้าแขนกอดญาติผู้น้อง

แม้จะเป็นญาติกันแต่ทั้งคู่ช่างดูแตกต่าง ด้วยว่าคุณตามีภรรยาสองคน คุณยายของศรุจเป็นภรรยาเอก ส่วนของกรินทร์เป็นภรรยารอง เรียกได้ว่าเมียหลวงกับเมียน้อยนั่นแหละ แต่ลูกหลานก็รักใคร่กันดี ศรุจกับกรินทร์เองก็เคยเล่นหัวกันเมื่อครั้งยังเด็กยามที่ไปรวมญาติที่บ้านคุณตาในวันสำคัญ ๆ บ่อยครั้งจนสนิทสนม

พนักงานที่ยืนอยู่ตรงนั้นจ้องมองภาพหนุ่มทั้งสองอย่างชื่นชมและนึกเปรียบเทียบในใจ ทั้งคู่หล่อเหลาดูดีแต่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง