14 สนุกแบบไหนดี 1
หญิงสาวจูบปากเขาขยี้แรงๆ แล้วซบหน้านิ่งกับซอกคอ เธอรับรู้ถึงหัวใจเขาเต้นแรงพอๆ กับเธอ บทรักจบลงพร้อมกับปลดพันธนาการออกจากแขนชายหนุ่ม เขากอดเธอแน่นซึ่งเป็นการสัมผัสที่อบอุ่นและมีความสุขที่สุด
รถคันหรูได้จอดหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งติดกับชายทะเลทางภาคตะวันออก ในเวลากลางคืนมีแต่ความเงียบ ไฟด้านหน้าที่สาดแสงให้ความสว่าง เจติยายังคงนั่งนิ่งอยู่ในรถ ไม่ลงมา วุฒิพงษ์เปิดประตูรถ และเดินออมมาทางด้านที่เธอนั่ง
“ลงมาได้แล้ว”
เขากระชากประตูที่เธอนั่งออก และมองด้วยสายตานิ่ง หญิงสาวได้แต่ถามตัวเองว่า ทำไมจะต้องทำตามผู้ชายคนนี้ด้วย เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะบังคับให้เธอทำอะไรตามใจชอบ
“คุณไม่มีสิทธิ์มาบอกให้ฉันลงจากรถ ฉันไม่เคยติดหนี้หรือเป็นขี้ข้าคุณ”
เมื่อได้ยินเจติยาพูดอย่างนั้น ชายหนุ่มชะงัก มองเธอด้วยตาวาววับ
“แจ๋ว เข้าใจพูดนี่”
“ในเมื่อเป็นเรื่องจริง ฉันไม่ใช่ขี้ข้า หรือว่าเป็นทาสของคุณที่บังคับให้ทำตามที่คุณต้องการ ความจริงแล้วคุณนั่นแหละผิดที่บังคับให้ฉันขึ้นรถแล้วพามาที่นี่ อย่างนี้เรียกว่ากักขัง หน่วงเหนี่ยว คุณมีสิทธิ์ติดคุก”
“เก่งมาก เอาล่ะ ผมยอมเข้าคุก ถ้าคุณแจ้งความ ไปสิครับ”
“ฉันแจ้งความแน่ ในเมื่อคุณกระทำการโดยเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิงของฉันครั้งนี้”
หลังจากพูดจบ เจติยา กระโดดลงจากรถอย่างรถเร็ว ทำท่าจะวิ่งไปที่ถนน โดยลืมไปว่าเป็นเวลากลางคืน วุฒิพงษ์เห็นดังนั้นตามไปรั้งเอวเอาไว้
“เดี๋ยวก่อน คุณจะไปไหน”
“ไปแจ้งความไง”
“กลางคืนที่มืดตื๋ออย่างนี้น่ะ แล้วรู้หรือว่าสถานีตำรวจอยู่ที่ไหน ไม่กลัวพวกขี้เมาหื่นลากไปข่มขืนหรือ ผมได้ข่าวว่ามีแหม่มถูกลากไปปู้ยี้ปู้ยำข้างทางตั้งหลายคนแล้วนะ”
“นี่คุณ อย่ามาขู่ฉันนะ”
หญิงสาวแหวใส่ โดยเอาเสียงเข้าข่ม ทั้งที่เวลานั้น กลัวทั้งเขา และผู้ชายทุกคน หลังจากคิดทบทวนครู่หนึ่งก็รู้ว่าเป็นจริงอย่างที่เขาพูด ถ้าเธอวิ่งพรวดพราดออกไปที่ถนน อาจจะถูกพวกบ้ากามฉุดไปทำมิดีมิร้าย แล้วฆ่าโยนลงทะเล
ในเมื่อเธอแต่งตัวล่อแหลมอย่างนี้ แม้ว่ามีเสื้อคลุมก็ตาม แต่ก็มองเห็นความสั้นของชายกางเกง ปิดอยู่ที่แก้มก้น
“อย่าดื้อนักเลยน่า ผมง่วง อยากนอนเต็มทีแล้ว เข้าไปเช็กอินดีกว่า”
“แต่ฉันไม่ใช่เพื่อนนอนของคุณ”
“ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว อยู่เป็นเพื่อนก่อน ไม่ต้องกลัวว่าผมจะทำอะไรหรอกน่า ถือว่ามาพักผ่อนสมอง พรุ่งนี้เที่ยงๆ ค่อยกลับก็ได้ ผมไปส่งถึงประตูบ้านเลย แถมเงินค่าเสียเวลาให้อีกหนึ่งหมื่นบาท”
“อย่ามาทำเป็นกล่อมฉันเลย ฉันไม่เชื่อหรอก”
“พูดเรื่องจริงก็หาว่ากล่อม คุณนี่เป็นผู้หญิงประเภทไหนกันแน่นะ แต่ว่า เงินน่ะ สนใจไหมครับ”
“อย่าเอาเงินมาล่อ ฉันไม่หลงกลหรอก”
“หรือว่าจะอยู่ในห้อง นอนดูผมหลับ โดยไม่เอาเงิน ดีเหมือนกัน ไม่ต้องเปลือง”
“ฉันจะกลับ ไปส่งที่ท่ารถตู้ ฉันจะนั่งรอจนกว่าได้เวลารถออก ส่วนคุณก็เชิญนอนสูดอากาศ กลิ่นลมทะเลตามสบายเถอะ”
“พูดยาก พูดเย็นเหลือเกินนะแม่คุณ เอาเถอะน่า มาแล้วก็เข้าไปอยู่เป็นเพื่อนกันหน่อย ผมให้เพิ่มหนึ่งหมื่นบาท เร็วๆ เข้า ยามมองแล้ว เดี๋ยวเข้าใจผิด คิดว่าผัวเมียทะเลาะกัน คุณจะเสียนะ”
ชายหนุ่มคว้าแขนเจติยาเดินเข้าไปในโรงแรมอย่างรวดเร็ว เธอจำใจเดินตามด้วยอาการโกรธขึ้ง กระทั่งเข้ามาใกล้กับเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่สาวแต่งหน้าเข้ม หุ่นอึ๋ม แต่มีอาการง่วง ทำท่าจะหลับ เมื่อเห็นเธอกับเขาเดินเข้ามา เธอคนนั้นรีบนั่งตัวตรง พยายามเบิกตาให้กว้าง
“สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับ”
“ยินดีเช่นกันครับ ผมต้องการห้องพัก 1 ห้อง ด่วนมากด้วย มีหรือเปล่าครับ”
“มีค่ะ จะเอาติดชายทะเลหรือเปล่าคะ”
“ไม่จำเป็นหรอกครับ ผมต้องการนอนอย่างเดียว ตอนนี้ง่วงมากด้วย เมียผมก็แพ้ท้องหนัก อยากนอนเต็มที่แล้วครับ”
“อะไรนะ คุณพูด...”
เจติยาพูดยังไม่ทันจบประโยค ถูกมือใหญ่ปิดปากเอาไว้ เขาทำตาดุๆ ใส่
“เมียผมขี้หึงครับ ไม่ชอบให้ผมคุยกับผู้หญิงคนอื่นนานๆ”
“อ๋อ เข้าใจแล้วค่ะ ขอโทษด้วยนะคะคุณผู้หญิง คือว่าดิฉันก็ไม่คิดที่จะให้ท่า ให้ทางแขกที่มาพักหรอกค่ะ”
ประชาสัมพันธ์คนนี้ ร้ายไม่ใช่เล่นเลย สำหรับเจติยาแล้ว ไม่สนใจแต่อย่างใด ต่อให้ผู้หญิงคนนี้สวยหยาดฟ้ามาดิน ในสายตาของเธอก็คือ เพื่อนร่วมโลกเท่านั้น
เธอเกลียด โกรธ แต่ผู้ชายอย่างวุฒิพงษ์สาระแนนัก หาว่าเธอเป็นเมีย แล้วยังกล้าพูดว่า เธอกำลังแพ้ท้องอีก
เขามีสิทธิ์อะไรที่โกหกคนอื่นอย่างนี้ คนที่เสียหายคือเธอ
เขาเลวจริงๆ แต่มาถึงขั้นนี้คงทำอะไรไม่ได้ เธอรอให้เขาจัดการชำระค่าห้องเรียบร้อยแล้ว แล้วพาเธอเดินที่ลิฟต์
“นี่คุณ เมื่อครู่ บอกว่าฉันเป็นเมีย แพ้ท้องด้วย”
“ใช่ คุณได้ยินไม่ผิดหรอก”
“แต่ไม่ใช่เรื่องจริง”
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปป่าวประกาศให้ยาม กับแม่รีเชฟชั่นสาวคนนั้น ว่าไม่ใช่เมียผมสิ เขาจะได้พากันมองอย่างเหยียดๆ เป็นผู้หญิง แต่ยอมให้ผู้ชายพาเข้าโรงแรม บางทีอาจจะคิดว่าคุณเป็นหมอนวดก็ได้”
“ว้าย! เรื่องอะไรมาว่าฉันเป็นหมอนวด ไม่ใช่นะ”
หญิงสาวกรีดลั่น กระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ เมื่อเขาว่าเธอเป็นหมอนวด เท่ากับดูถูกหญิงผู้บริสุทธิ์อย่างเธอ
วุฒิพงษ์มองนิ่งๆ ก่อนที่จะส่ายหน้าไปมา ทันทีที่ลิฟต์เปิดออก เขากระชากแขนเรียวเล็กเข้าไปข้างใน เธอก็ยังคงกรีดร้องอย่างโกรธๆ
เขาไม่รู้ว่าจะจัดการกับสาวเฮี้ยวคนนี้ได้อย่างไรดี หลังจากกดชั้นที่จะขึ้นเรียบร้อยแล้วก็ดึงร่างสวยเข้ามาแล้วจูบปากแรงๆ เธอสะดุ้ง ตกใจ ตัวแข็งทื่อ ทำอะไรไม่ถูก สิ้นฤทธิ์ในทันที
“ปล่อย คนบ้า ฉวยโอกาส”
หญิงสาวเงื้อมือทำท่าจะตบหน้า แต่ว่าเขาจับมือเอาไว้ ขู่ด้วยเสียงเย็นเฉียบ
“ถ้าขืนคุณยังโวยวายอีกล่ะก็ ผมจะจูบให้ปากเปื่อยเลย จำเอาไว้”
“คุณก็ดีแต่รังแกผู้หญิงอย่างนั้นแหละ กล้ากับผู้ชายตัวใหญ่ๆ ไหมล่ะ”
“ผมสู้ได้ทั้งนั้น ไม่ว่าเดี่ยวหรือหมู่ ถ้ามารังแกจะจัดการให้สิ้นซากเลย คุณอย่าส่งเสียงรบกวนโสตประสาทผมอีก ไม่อย่างนั้นโดนหนักกว่านี้อีก”
“ถือว่าเป็นผู้ชาย ขู่ได้ ขู่ดี ฉันเกลียดคุณ”
“ก็ไม่ได้จ้างให้มารักนี่ครับ เอาล่ะ ถึงแล้ว คราวนี้จะได้นอนเสียที ง่วงมากๆ เลย ออกมาสิครับ หรือจะให้จูงมือ แล้วอุ้มขึ้นเตียง”