2
“กำลังจะกลับแล้วครับ”
“คุณพิชญ์อยู่ที่ไหนคะนี่” พิมพ์พิศาเอ่ยถามบิดา เธอเรียกบิดาว่าคุณจนติดปาก
“อยู่ที่ร้านอาหารประจำของเราสองคนไง”
“แน่ะ! ไปไม่ชวนนะคะ” เธอพูดอย่างอ้อนๆ พิชญ์หัวเราะเบาๆ
“เดี๋ยวพ่อซื้อของโปรดกลับไปฝาก” เขาบอกว่าจะซื้อกับข้าวอร่อยๆ กลับไปฝากทำให้ปลายสายยิ้มกว้าง เพราะชอบกินเมนูเด็ดของร้านนี้ อะไรที่พิมพ์พิศาชอบเขามักจะสรรหามาให้เธอเสมอ
“คุณพิชญ์เป็นอะไรคะนี่ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยิ้มอยู่นั่นแหละ ตั้งแต่กลับมาแล้ว มีอะไรดีๆ ไหนเล่ามาสิคะ” พิมพ์พิศาเอ่ยถามด้วยความสงสัย เท้าคางมองหน้าบิดาอย่างสนอกสนใจไม่น้อย
“เปล่าครับ” พิชญ์ตอบบุตรสาวด้วยรอยยิ้ม ดึงอีกฝ่ายมาหา โยกศีรษะไปมาอย่างเอ็นดู
“หรือว่าคุณพิชญ์มีความรัก” พิมพ์พิศาเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น
“ทำไมถึงได้ทำหน้าตื่นเต้นแบบนั้นล่ะ” พิชญ์เอ่ยถามบุตรสาวที่อมยิ้มมองหน้าเขาอย่างจับผิด
“ถ้าคุณพิชญ์จะมีแฟน พิมพ์ก็ไม่ว่านะคะ”
พิมพ์พิศาพูดดักคอ เธออ้อนให้ท่านหาแม่ให้ตั้งแต่เด็ก แต่ท่านก็ใจแข็งไม่ยอมมีภรรยาใหม่ โดยให้เหตุผลว่ากลัวจะมีปัญหาแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยง แต่แท้ที่จริงเธอรู้ตอนโตว่าบิดานั้นมีอีกเหตุผลอีกข้อ คือยังไม่ถูกใจสาวคนไหนนั่นเอง
พิมพ์พิศาจำได้ว่าตอนเด็กๆ เธอยังเคยเป็นแม่สื่อให้บิดาจีบครูประจำชั้นของตัวเอง แต่ก็ต้องกินแห้วเพราะบิดาไม่เล่นด้วย
“ไม่มีหรอกครับ แก่แล้วไม่มีใครเอาแล้วล่ะ”
“คุณพิชญ์ไม่เห็นแก่เสียหน่อย ชอบหาว่าตัวเองแก่อยู่เรื่อยเลย แบบคุณพิชญ์นี่แหละ สาว ๆ ชอบ พิมพ์ยังชอบเลย คอยดูนะคะถ้าไปเรียนมหาวิทยาลัย มีเพื่อนสาวหน้าตาน่ารักจะเชียร์ให้จีบคุณพิชญ์”
“พูดไปเรื่อย” เขาโยกศีรษะของบุตรสาวอย่างเอ็นดู พิมพ์พิศวาสเห็นบิดายิ้มแบบนี้ เธอก็นึกอยากรู้ว่าท่านไปปิ๊งสาวคนไหนมา มันต้องมีสักคน เพราะรอยยิ้มพึงพอใจแบบนี้ไม่เคยปรากฏบนใบหน้าของบิดามาก่อน
พิมพ์พิศาได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ ในขณะที่พิชญ์ทนคิดถึงสาวน้อยหน้าหวานไม่ไหว เขากลับไปยังร้านอาหารร้านเดิมและคิดว่าเผื่อจะเจอเข้ากับเธออีก แต่ปรากฏว่าเขาต้องผิดหวัง
พิชญ์รับประทานอาหารเสร็จก็เรียกบริกรมาเก็บเงิน เขาเดินออกจากร้านเรื่อยๆ ทอดอารมณ์คิดถึงใบหน้าหวานๆ ของใครบางคนที่อยากเจอ
ชายหนุ่มยังมีความหวังว่าหากเขามาที่นี่บ่อยๆ อาจจะเจอเธออีกก็เป็นได้ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่น คิดได้แบบนั้นพิชญ์ก็เดินไปที่รถอย่างตัดใจ วันนี้ไม่เจอ วันหน้ายังไงก็ต้องเจอ
“ว้าย! ช่วยด้วย” เสียงร้องของหญิงสาวคนหนึ่งทำให้พิชญ์ชะงัก เขาหันไปเห็นสาวน้อยที่แสนคิดถึงคนนั้นกำลังโดนโจรกระชากกระเป๋าอยู่ พิชญ์ไม่รอช้าเขารีบเข้าไปช่วยเหลือเธอเอาไว้ในทันที
“นี่หยุดนะ!” ร่างสูงวิ่งเข้าหา โจรจึงดึงมีดออกมา ในขณะที่พิชญ์เข้าต่อสู้ มันจ้วงแทงเข้ามา เขาหลบแต่อีกคนก็จ้วงมีดเข้ามาอีก เป็นจังหวะให้เขาหลบไม่ทัน นั่นทำให้พิชญ์โดนมีดของมันเข้าให้
“คุณ!” ต้นฝนร้องขึ้น ยามรักษาความปลอดภัยที่ไปเข้าห้องน้ำรีบตะโกนลั่นในทันที
“เฮ้ย! นั่นทำอะไรน่ะ”
“เฮ้ย หนีก่อน” พวกมันรีบวิ่งไปขี่มอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่อีกด้านและควบหนีไปในทันที รปภ. รีบแจ้งเหตุด่วนให้สกัดจับคนร้ายเอาไว้ ในขณะที่ต้นฝนเข้าไปประคองร่างของพิชญ์เอาไว้
“คุณเป็นยังไงบ้างคะ”
“ไม่เป็นอะไรครับ เป็นแผลเล็กน้อยเท่านั้น” เขาโดนมีดของพวกมันเฉียดๆ เข้าที่แขนเล็กน้อยเท่านั้น พอเจ็บๆ แสบๆ ไม่ได้เป็นอะไรมาก
“เลือดคุณไหลค่ะ ไปทำแผลก่อนนะคะ” เธอรีบพาเขาไปทำแผลที่คลินิกใกล้ๆ ซึ่งเป็นแค่แผลถากๆ จากมีดและไม่ได้เป็นอะไรมาก ทำให้เธอโล่งใจไม่น้อย
“ขอบคุณคุณมากนะคะ” เธอยกมือไหว้เขา พิชญ์ส่ายหน้าไปมาว่าไม่เป็นอะไรแล้ว เธอไม่ต้องกังวลให้มาก
“คุณไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม”
“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ”
“มีกล้องวงจรปิดอยู่ ตำรวจคงได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้ มันอุกอาดมานะ แต่คนเดี๋ยวนี้ลำบากกันมาก เศรษฐกิจก็ไม่ดี เลยหากินกันแบบนี้ ต้องระวังเนื้อระวังตัวให้ดีนะ”