EPISODE 04 วงจรเดิม ๆ
“เธอคงรู้กฎของอาชีพนี้ใช่ไหม” ป๋าพงษ์ถามฉันระหว่างการเดินทางกลับจากเกาะส่วนตัว
“ถ้าเจอห้ามทัก ห้ามทำเหมือนรู้จัก เราคือคนแปลกหน้า” ฉันบอกกฎที่เจ้เกลียวบอกก่อนที่ฉันจะขึ้นรถของป๋าพงษ์เมื่อเจ็ดวันก่อนหน้านี้ ซึ่งฉันท่องจำไว้อย่างดี ไม่ว่าเขาจะดูแลเอาใจเรามากแค่ไหน มันคืออาชีพ เป็นเพียงอาชีพเท่านั้นห้ามเอาความรู้สึกส่วนตัวใส่เข้าไป
“ดีมาก แต่ตัวเล็กถูกใจป๋ามาก ๆ เลยน่าเสียดายที่ป๋าต้องไปดูงานต่างประเทศไม่งั้นเราคงได้อยู่ด้วยกันอีก ป๋าจะซื้อเวลาตัวเล็กสักหนึ่งเดือน”
“โมรับงานแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวค่ะ ถ้าไม่จำเป็นโมจะไม่ทำอีกเด็ดขาด” ฉันพูดจริง ๆ คิดจะทำแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว หาเงินรักษาน้องหายก็จะกลับไปเป็นนักศึกษาธรรมดา ฉันไม่ได้อยากจะนอนกับคนแปลกหน้าไปเรื่อย ๆ หรอกนะ
“เอาไว้ถ้าป๋ามีโอกาสเจอเธอ ป๋าจะเข้าไปทักเธอนะตัวเล็ก” ป๋ายื่นมือมาเชยคางฉันขึ้น โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ริมฝีปากของเราแนบประกบเป็นการแตะจูบเบา ๆ แล้วจึงยิ้มให้ฉัน
“อย่าลดตัวมาทักคนแบบโมเลยค่ะ ให้เราเป็นคนแปลกหน้าดีที่สุดแล้ว” ป๋าพงษ์หล่อรวย รวยมากแน่ ๆ ผู้หญิงรอบกายเขาน่าจะเยอะพอสมควร ฉันไม่อยากเป็นหนึ่งในสต็อคถึงแม้จะเคยเป็นแบบชั่วคราวแล้วก็ตาม
“เด็กดื้อ” ป๋าพงษ์ส่งรอยยิ้มที่แสนจะน่ารักมาให้ ฉันจึงส่งยิ้มตอบไป หลังจากนั้นไม่นานรถของป๋าก็ขับเข้ามาจอดที่ลานจอดรถร้านเหล้าเจ้เกลียว
“ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ถ้าไม่ได้ป๋าน้องชายโมคงแย่ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ เจ็ดวันที่ผ่านมาป๋าดูแลโมดีมากจริง ๆ ลาก่อนนะคะ” ฉันยิ้มให้ป๋าพงษ์ก่อนจะกราบลงที่หน้าอกของป๋า จากนั้นก็หอมที่แก้มเนียนนุ่มของป๋า ส่งยิ้มอีกครั้งและก้าวขาลงจากรถ
ลาก่อนผัวคนแรกที่สอนฉันทุกกระบวนท่า
หลังจากที่แยกกับป๋าพงษ์ฉันก็กลับมานอนที่หอพัก ป๋าพงษ์เป็นผู้ชายที่หล่อมาก หล่อแบบแบด ๆ ตามร่างกายของป๋ามีแต่รอยสัก หน้าตาคมเข้ม จมูกโด่งเป็นสันได้รูปสวยงาม ริมฝีปากน่าจูบ จะว่าไปแล้วในความโชคร้ายยังมีความโชคดีที่อย่างน้อยผัวคนแรกของฉันก็ยังไม่แก่แถมหล่ออีกด้วย ก็ถือว่าคุ้มอยู่นะ
สองอาทิตย์ที่ผ่านมาชีวิตของฉันดำเนินมาเรื่อย ๆ ฉันโทรถามอาการของมายจากแม่อยู่ตลอด แม่เล่าว่ามายอาจจะกลายเป็นเจ้าชายนิทราไม่รู้ว่าจะตื่นหรือคงที่ไปเรื่อย ๆ ถ้าโชคร้ายก็จะแย่ลง
ก็นั่นแหละนะใครจะโชคดีได้ตลอดใช่ไหม ฉันต้องกลับมาขายตัวอีกครั้งเมื่อมายมีอาการชักเกร็งเข้าขั้นโคม่า ซ้ำร้ายครอบครัวฉันยังต้องดูแลคนที่ซ้อนท้ายมายด้วย ก็ต้องบอกว่าโชคชะตายังเข้าข้างอยู่บ้างที่เด็กคนนั้นไม่เป็นอะไรมากเท่ามาย แต่ค่าใช้จ่ายก็เยอะใช่ย่อย เด็กคนนั้นชื่อพู เป็นเพื่อนมายมาตั้งแต่เด็ก ฉันเพิ่งรู้ว่าวันนั้นมายมันไม่ได้คว่ำคนเดียวก็ตอนที่แม่มาปรับทุกข์เรื่องมายโคม่าแม่ถึงได้หลุดเรื่องพูออกมา สรุปก็คือครอบครัวฉันต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้พูมันด้วย ตอนเเรกแม่ฉันบอกว่าจะขายที่นาแล้วเอาเงินมาให้ครอบครัวพู ถึงขั้นติดต่อนายหน้าไว้แล้วด้วย ซึ่งพอได้ยินแม่พูดแบบนั้นฉันก็ไม่ยอมเพราะที่นาผืนนั้นมันเป็นของบรรพบุรุษที่ตกกันมารุ่นต่อรุ่น จะมาขายในรุ่นแม่ได้ยังไง ฉันไม่โอเคไม่อยากให้แม่เสียใจไม่อยากให้แม่โทษตัวเอง ฉันจึงบอกแม่ว่าเดี๋ยวฉันจะหาเงินไปให้ แต่ครั้งนี้มันอาจจะนานหน่อยและไม่ได้เป็นก้อนเหมือนครั้งก่อน แม่ก็เหมือนเดิม ร้องไห้และบอกว่าไม่อยากจะรบกวนฉัน เพราะเงินไม่ใช่น้อย ๆ ฉันก็ไม่ยอมไง พูดจนแม่ยอมแพ้ หลังจากที่วางสายแม่ ฉันจึงกดโอนเงินส่วนที่เหลือที่ได้จากป๋าพงษ์ให้แม่ไปก่อน น่าจะพอยื้อครอบครัวของพูได้สักระยะ
จากนั้นฉันก็เริ่มขายตัวอีกครั้ง ลูกค้าส่วนใหญ่ได้มาจากเจ้เกลียวดีลงานให้ ฉันทำอาชีพนี้มาสี่เดือนแล้ว คนจนอะชีวิตมันเลือกไม่ได้ขนาดนั้น ฉันยังต้องการเงินอีกมาก จำใจต้องยอมนอนกับผู้ชายรุ่นพ่อ รุ่นลุง บางทีก็รุ่นพี่ที่มหา’ลัย ถ้ารุ่นพี่ที่มหา’ลัยเงินก็จะได้น้อยหน่อย แต่ความสุขทางกายมันก็จะฟินกว่ากันเยอะ
นี่แหละชีวิตฉัน จากนักศึกษาธรรมดา ต้องมายึดอาชีพขายตัวเพื่อต่อลมหายใจของน้องชาย ฉันไม่มีหัวใจไว้รักใครเพราะอาชีพแบบฉันผู้ชายคนไหนจะรับได้ พยายามไม่ต้องรู้จักรัก ไม่ต้องตกหลุมรักจะได้ไม่เจ็บปวด สาเหตุที่ไม่คิดคบใครเป็นแฟน ไม่คิดจะอยากมีความรักเพราะกลัวคำว่า ‘มึงมันก็แค่ผู้หญิงขายตัว’
ชีวิตฉันจะเป็นยังไงต่อก็ไม่รู้ จะมีอะไรแย่ไปกว่านี้ไหมนะ เฮ้อ
หลังจากที่นั่งเศร้า ๆ มาสักพัก ก็รู้สึกว่ามีสายตามองมาทางฉัน เมื่อหันไปมองจึงเห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งกำลังจ้องฉันอยู่จริง ๆ เมื่อเราสบตากันเขาก็ส่งยิ้มมาพร้อมกับลุกจากเก้าอี้เดินเข้ามาหาฉัน ทำให้ฉันเห็นใบหน้าเขาชัดเจนมาก
“คืนนี้ว่างไหม มีคนจองหรือยัง” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม ใบหน้าก็หล่อ หุ่นก็ดี น้ำเสียงก็ไพเราะ ฉันควรจะตอบว่ายังไงดีนะ ใจหนึ่งก็อยากนอนพัก แต่อารมณ์ก็ค้างจากเสี่ยวิชัย ผู้ชายคนนี้ถ้าตัดสินจากภายนอกก็เพอร์เฟกต์เวอร์ ความฟิตปึ๋งปั๋งต้องดีกว่าเสี่ยวิชัยแน่นอน
“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันขาย” เพราะฉันไม่คุ้นหน้าเขาเลยแล้วเขารู้ได้ยังไง ปกติก็รับแต่ขาประจำนะ นาน ๆ จะมีคนแปลกหน้าซึ่งต้องมาจากเจ้เกลียวแนะนำ
“ฉันรู้แล้วกัน ตกลงเธอจะไปกับฉันไหม”
“เท่าไหร่คะ” ท่าทางดูดีนะ แต่จะดูดีแค่การแต่งตัวหรือเปล่า
“ตามที่เธอต้องการ” เขาบอกฉันด้วยท่าทางสบาย ๆ คงรวยมากสินะพ่อคุณ ท่าทีแบบนี้ใช่ว่าฉันไม่เคยเจอ พอเอาเสร็จไม่มีจ่ายตามที่ต้องการซะงั้น โคตรตลก
“งั้นตกลงค่ะ” ที่ไปด้วยเพราะอยากนะ อีกอย่างเขาก็หล่อดี กินสักครั้งถือว่าเก็บแต้มคนหล่อแล้วกัน
“นิคม ชื่อของฉันจำไว้” เขาบอกฉันก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบประกบริมฝีปาก
นิคมเหรอ หึ ทำไมฉันต้องจำด้วยในเมื่อคืนนี้คืนเดียวก็จบ แขกชั่วคราวฉันไม่จำเป็นที่จะต้องจำชื่อให้เปลืองสมอง